อัญเชิญปีศาจชั่วร้าย! จังซีหลิงคิดจะทำอะไรกันแน่?
เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่ต้องสนใจเขา พักผ่อนก่อนดีกว่า พี่ลู่อยากดื่มอะไรหน่อยมั้ย"
ลู่หล่านเฉินมาจากราชวงศ์ถัง ระหว่างทางเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตอนที่ฉันหนุ่ม ๆ ฉันเคยดื่มเหล้า ตอนนี้ฉันอยากดื่มเหล้า"
อู๋เป่ยหัวเราะ "ฮ่า ๆ ผมมีเหล้าเยอะมาก ผมดื่มกับพี่ได้นิดหน่อย"
เขามีเหล้าสะสมมากมาย แม้ว่าเหล้าพวกนี้จะไม่ใช่เหล้าชั้นยอด แต่หายากมากและไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด
ทันทีที่เปิดขวดเหล้า กลิ่นหอมของเหล้าเอ่อล้นออกมา อู๋เป่ยสั่งอาหารจากร้านอาหารเป็นอาหารจารพิเศษสองสามจานกับออร์เดิร์ฟสี่จาน ทั้งสองคนเริ่มดื่มกินกัน
หลังจากดื่มเหล้าไปแก้วนึงแล้วลู่หล่านเฉินก็ยิ้มเล็กน้อยพลางพูดว่า "ไม่เลวเลย เป็นเหล้าที่บริสุทธิ์มาก"
อู๋เป่ยยกนิ้วให้ "พี่ลู่ดูเหมือนว่าพี่จะดื่มเก่งพอตัว นี่เป็นเหล้าที่มีกลิ่นหอมและรสชาติที่บริสุทธิ์"
ลู่หล่านเฉินยิ้มและพูดว่า "ท่านผู้ใจบุญ นับจากนี้ไปฉันจะเรียกนายว่าสหายอู๋ เรามาเป็นสหายกันดีกว่า"
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม "ในเมื่อพี่ต้องการเข้าสู่โลกมนุษย์ งั้นเรามาเป็นพี่น้องต่างสกุลกันเป็นไง?"
ลู่หล่านเฉินยิ้มเล็กน้อยและพูดโดยไม่ลังเล "ดี!"
อู๋เป่ยจุดธูป ทั้งคู่กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน ลู่หล่านเฉินอาศัยอยู่มาหลายพันปีแล้ว แน่นอนว่าพี่ชายคือลู่หล่านเฉิน ส่วนอู๋เป่ยคือน้องชาย
หลังจากโค้งคำนับต่อสวรรค์และฟ้าดินแล้ว ทั้งสองก็โค้งคำนับซึ่งกันและกัน อู๋เป่ยพูดว่า "พี่ใหญ่!"
“น้องรอง!” ลู่หล่านเฉินตอบกลับคำทักทาย
ทั้งสองมองยิ้มหน้ากันและดื่มอย่างมีความสุข ลู่หล่านเฉินไม่รู้ว่าโลกเปลี่ยนไปยังไงบ้างอู๋เป่ยจึงคอยเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง ส่วนมากจะเป็นอู๋เป่ยที่เป็นคนเล่า ส่วนลู่หล่านเฉินก็จะคอยนั่งฟังและถามคำถาม
หลังจากดื่มเหล้าไปสองขวดแล้วลู่หล่านเฉินก็พูดว่า "ฉันดื่มพอใจแล้ว น้องรองคิดว่าฉันควรจะทำงานประเภทไหน?"
อู๋เป่ยถามว่า "พี่ใหญ่ ถ้าได้เป็นตำแหน่งประธาน พี่อยากทำมั้ย?"
ลู่หล่านเฉินถามว่า "ประธานคืออะไร"
อู๋เป่ย "หมายถึงบริหารบริษัท การบริหารคนจำนวนมากและเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก"
ก่อนหน้านี้อู๋เป่ยได้ให้ถังจื่อยี่ก่อตั้งบริษัทใหม่ จากนั้นก็โอนบริษัทและหุ้นทั้งหมดภายใต้ชื่อของเขาไปไว้ในนั้น ในอนาคตบริษัทนี้จะมีเงินทุนนับแสนล้านดอลลาร์ คงจะดีถ้ามีปรมาจารย์อย่างลู่หล่านเฉินมารับผิดชอบ
แน่นอนว่าประธานเป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้นและงานเฉพาะยังคงต้องให้ผู้จัดการมืออาชีพเข้ามาจัดการ
ลู่หล่านเฉินยิ้มและพูดว่า "คงจะดีถ้าฉันมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้น ให้ฉันลองดูก็ได้"
อู๋เป่ย "ไว้บริษัทก่อตั้งเสร็จ พวกเราก็ไปดูที่นั่นกัน พี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในบริษัททุกวัน พี่แค่ต้องออกคำสั่งเวลาที่บริษัทต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ก็พอ"
ลู่หล่านเฉินยิ้มและพูดว่า "น้องรอง งั้นน้องรองจะให้เงินฉันเท่าไหร่"
อู๋เป่ยหัวเราะ "ฮ่าๆ ผมจะให้พี่เป็นเงิน 30% ของหุ้น แบบนี้พี่ก็จะมีเงินปันผลมากมายทุกปี"
ลู่หล่านเฉินถามอย่างสงสัย "30% ของหุ้นคือเท่าไร"
อู๋เป่ยคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้คำนวณรายละเอียด แต่ถ้าให้คำนวณก็ประมาณปีละหมื่นล้าน"
ลู่หล่านเฉินชะงัก "น้องรอง ฉันไม่อาจรับเงินมากขนาดนี้โดยที่ไม่ได้ทำความดีความชอบได้ หากจู่ๆ นายให้เงินฉันมากมายขนาดนี้ ฉันเกรงว่าฉันคงจะไม่สามารถใช้มันได้"
อู๋เป่ยทำสีหน้าจริงจัง "พี่ใหญ่ หากพี่ต้องอยู่ในทางโลกมนุษย์ พี่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยถ้าไม่มีเงิน มีแค่เงินเท่านั้นที่จะทำให้พี่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้"
เพราะยังไงลู่หล่านเฉินก็เป็นสาวกของศาสนาพุทธและมีความเห็นอกเห็นใจ เมื่อได้ยินว่าสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ เขาก็มีความสุขทันทีและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอไม่เกรงใจน้องรอง"
อู๋เป่ยแค่นยิ้ม "คนชั่วร้ายแบบคุณก็คิดถึงคนอื่นเป็นด้วยหรอ?"
จังซีหลิงรู้สึกทำตัวไม่ถูกและพูดว่า "แม้ว่าฉันจะไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่ฉันก็ไม่ใช่คนชั่วร้าย"
อู๋เป่ย "จริงหรอ? การเสียสละของภรรยาและลูกของคุณไม่นับว่าเป็นความชั่วร้ายครั้งใหญ่หรอ?"
จังซีหลิงรีบพูดอย่างรวดเร็ว "น้องอู๋ ไม่ใช่ทุกคนในพรรคฟ้าทมิฬที่จะสามารถทำการเสียสละแบบนี้ได้ เช่นเดียวกับที่โลกใบนี้มีทั้งคนดีและคนเลว"
อู๋เป่ยโบกมือ "เอาล่ะ คุณไม่จำเป็นต้องอธิบาย บอกผมหน่อยว่าทำไมผู้นำของคุณถึงหายไป"
จังซีหลิงถอนหายใจแล้วพูดว่า "เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำเข้าไปในห้องลับเพื่อฝึกซ้อม แต่ตลอดเจ็ดวันกลับไม่มีการเคบื่อนไหวอะไรเลย พวกเราอยากรู้มาก ก็เลยเข้าไปตรวจสอบพวกเราก็พบว่าผู้นำของหายตัวไป เพื่อที่จะควบคุมเรา ผู้นำจึงร่ายคำสาปใส่เราทุกคน ตอนนี้ผู้นำไม่อยู่แล้วและคำสาปนั่นกำลังจะทำงาน ทุกคนก็เลยตื่นตระหนกกัน"
อู๋เป่ยมองดูและพบว่ามีคำสาปอยู่ในร่างกายของจังซีหลิง ใจของเขากระตุก "คุณแก้คาถาแบบนี้ด้วยตัวเองไม่ได้เหรอ?"
จังซีหลิงยิ้มอย่างขมขื่น "ถ้าเราทำได้ เราคงไม่เสี่ยงอัญเชิญปีศาจโลหิต"
อู๋เป่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ผมช่วยคุณได้"
ดวงตาของจังซีหลิงเป็นประกาย "น้องอู๋พูดจริงหรอ?"
อู๋เป่ยทำสีหน้าจริงจัง "พี่จัง ถึงแม้ว่าผมจะสามารถแก้คำสาปให้ได้ แต่ผมก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกับมัน"
จังซีหลิงเข้าใจทันทีว่าอู๋เป่ยหมายถึงอะไร เขารีบพูดอย่างรวดเร็ว "น้องอู๋ หากน้องอู๋ทำลายคำสาปนี่ได้ต่อให้แพงแค่ไหนเราก็จะจ่าย!"
อู๋เป่ยยิ้มและพูดว่า "เท่าไหร่ล่ะ? เป็นผู้นำของคุณได้ไหมล่ะ?"
จังซีหลิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นและพูดว่า "น้องอู๋ หากน้องอู๋ต้องการพวกเราก็ยินดี!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...