ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก นิยาย บท 3

บทที่ 2 เดินหน้าก้าวที่หนึ่ง

ต้นสนกับนัทมองเพื่อนชายที่ยืนเช็กตัวเองหน้ากระจกห้องน้ำ ใบหน้าของคีร์ถอดทรงลูกครึ่งจีนมาอย่างชัดเจนผิวขาวที่ไม่รู้จะขาวไปถึงไหน ดวงตาชั้นเดียวที่รับกับใบหน้าคมชวนให้สาว ๆ หลายคนตกหลุมพราง ทุกอย่างคงเพอร์เฟคมาก ๆ ถ้าไม่ติดว่านิสัยของคีร์ดันเป็นคนที่หลงตัวเองยิ่งกว่าอะไร

“จริง ๆ ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยถามพ่อว่าพรสวรรค์ของฉันคืออะไร” คีร์มองตัวเองในกระจกพลางพูดขึ้น นัทกับต้นสนมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะทำท่าทางใส่กันทำนองว่า ฟังมันเล่าต่อ

“พ่อบอกว่าฉันคือเด็กอัจฉริยะไม่ว่าจะทำอะไรก็มีพรสวรรค์แต่พรสวรรค์เดียวจากยีนส์พ่อที่ส่งต่อให้ฉันและโดดเด่นมากคือ..หน้าตา” เขาใช้มือลูบใบหน้าเล็กน้อยเอียงซ้ายเอียงขวาทำมุม ก่อนจะยักคิ้วให้กับตัวเองในกระจก

“พอจะเข้าใจอยู่ว่าทำไมโตมาแล้วกลายเป็นคนแบบนี้” ต้นสนพูดจบกรอกตาบนก่อนจะขอตัวออกไปรอข้างนอก อยากจะขอเวลา 10 วินาทีเมื่อกี้ที่ยืนฟังคีร์พูดคืนมา นัทเดินตามออกมาติด ๆ ก่อนจะถามต้นสนว่า มันเป็นบ้าอะไรหรือเปล่า

คีร์ยืนมองเงาตัวเองก่อนจะคิดถึงหญิงสาวคนที่เขาอยากจะเจอที่สุดในตอนนี้ เขามั่นใจว่าการย้อนเวลาในครั้งนี้ จะด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นต้องการให้เขาแก้ไขเรื่องราวก่อนมันจะบานปลาย สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นก่อนจะตั้งมั่นกับตัวเองว่า เขาจะทำดีกับรันมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ถึงอย่างนั้นมันคงไม่ยากอะไรมากมาย เพราะรันคลั่งรักในตัวเขาจะตายไป เธอเป็นคนเดินหน้าจีบเขาตั้งแต่ตอนช่วงปี 3 เขาและเธอบังเอิญรู้จักกันจากที่ฝึกงาน เธอตั้งใจเข้าหาเขามอบความจริงใจจนเขาใจอ่อนตกหลุมรักเธอ เพียงแต่ตัวเขาในชาตินั้นวางเธออยู่หลังความก้าวหน้าของชีวิต เขาคิดเพียงว่ารันรักเขาขนาดนี้ไม่ว่าอย่างไรรันก็ต้องยอมลงให้เขา ทุกครั้งที่ทะเลาะเขาง้อเธอเล็กน้อยเธอก็ยอมหายโกรธ

แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาเชื่อว่าถ้าเขาทำดีกับเธอ มั่นใจเลยว่าอย่างไรเธอต้องรักเขาหัวปักหัวปำแน่นอน ชายหนุ่มยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะสไลด์ปลดล็อกมองข้อความในไลน์ ข้อความล่าสุดเป็นสติ๊กเกอร์บอกฝันดีที่เธอส่งให้เขา เอาล่ะตอนนี้ก็เที่ยงพอดีถ้าเขาจำไม่ผิดช่วงเวลาปี 4 ของรันมีวิชาที่ต้องเรียนเพียง 2 วิชา ตอนนี้เธอต้องว่างอยู่แน่ ๆ เขารัวนิ้วพิมพ์นัดเจอเธอช่วงบ่ายสองก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง

ปกติแล้วเธอมักจะตามติดเขามากินข้าวเย็นด้วยกันตลอด เขายอมรับว่าในตอนนั้นมีรำคาญเธอบ้างตามประสาวัยหนุ่มที่อยากอยู่กับเพื่อน เมื่อนึกดูอีกครั้งรันไม่เคยก้าวก่ายชีวิตของเขาเลยแม้แต่น้อย เธอแค่ต้องการกินข้าวกับเขาอย่างน้อยวันละหนึ่งมื้อ ไม่ว่าเขาจะอยู่ส่วนไหนของมหาวิทยาลัยเธอก็จะถ่อตามมาทุกครั้ง ยิ่งคิดใจของเขาก็ยิ่งปวด

ขอเพียงครั้งนี้เขาดีกับเธอให้มากหน่อย ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น

คีร์ตัดสินใจว่าจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดหาซื้อของขวัญเล็กน้อยให้รัน เจอกันตอนเย็นจะได้เซอร์ไพรซ์จนอีกฝ่ายต้องกระโดดกอดแขนเขาแน่น ๆ

เมื่อถึงเวลานัดเขาก็ไม่รอช้า วนรถเก๋งญี่ปุ่นสีดำคันคู่ใจไปจอดที่หน้าร้านคาเฟ่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย สิ่งเดียวที่เขารู้สึกแปลก นั่นคือรันอ่านแชทแล้วแต่ไม่ตอบแชทเขาเลยหลังจากเขาส่งไป ไม่ว่าเขาจะส่งสติ๊กเกอร์อะไรต่ออีกฝ่ายก็ทำเพียงอ่านแล้วไม่ตอบ

เขาปลอบใจตัวเองว่าบางทีรันน่าจะยุ่ง ในมือมีกล่องนาฬิกาข้อมือสีชมพูสายเหล็กของแบรนด์ยอดฮิต เขาจำได้ว่า ในชาติก่อนรันเคยยืนมองมันอยู่นานสองนานที่ร้านขายนาฬิกาสุดท้ายตัดใจไม่เอาเพราะราคามันแพงไปแล้วเธอในตอนนั้นยังอยู่ในวัยนักศึกษายิ่งถ้าเขาออกตัวจะซื้อให้เธอยิ่งปฏิเสธ สุดท้ายเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทไม่มีโอกาสได้ซื้อนาฬิกาเรือนนี้ให้เธออีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น

เมื่อเข้าไปในร้านก็เลือกมุมที่วิวดีที่สุดติดริมหน้าต่างมองออกไปเห็นสวนดอกไม้ นั่งอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ ๆ จนเลยเวลานัดมาเกือบ 1 ชั่วโมงใจเขาเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขตอนนี้เป็นเวลาบ่าย 3 เอาตามตรงเธอไม่น่าจะติดอะไรนี่นา เขาคิดในใจก่อนจะกดโทรออกแต่ปลายสายไม่รับสายเขาเช่นเดิม

คีร์เริ่มร้อนรน ในช่วงจังหวะนั้นคีร์คิดเพียงว่าเธออาจจะกำลังยุ่งอยู่ เขาควรใจเย็นแต่

..เย็นไม่ไหวแล้วโว้ย.. เขาตะโกนในใจก่อนจะลุกเดินออกจากร้านด้วยความไว ตั้งใจจะขับรถไปหาเจ้าหล่อนถึงหอพักนักศึกษา เด็กเสิร์ฟในร้านงุนงงกับเขาที่จู่ ๆ ก็ลุกพรวดก่อนจะจ้ำขาเดินเกือบชนลูกค้าท่านอื่น

“พี่คะ” หนึ่งในเด็กเสิร์ฟเดินตามมาเรียกเขา คีร์หงุดหงิดเล็กน้อยที่มีคนเรียกรั้งเขาไว้ในเวลานี้ เวลาที่เขากำลังเร่งรีบ ชายหนุ่มหันกลับไปก่อนจะเอี้ยวตัวลงไปพูดกับเด็กสายที่ตัวเล็กกว่าเขาด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ราวกระซิบ

“ขอโทษจริง ๆ นะครับน้อง แต่พี่มีแฟนแล้ว คงให้เบอร์โทรหรือไลน์กับน้องไม่ได้” เขาพูดขึ้น เด็กสาวผงะไปทันที ก่อนจะค่อย ๆ ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก คีร์ได้แต่ส่ายหัวในใจ เด็กหนอเด็ก เขาพอเข้าใจ จู่ ๆ มาเจอคนที่ตัวเองชอบบอกแบบนี้คงอกหักเจ็บปวดน่าดู เด็กสาวเม้มปากแน่นก่อนจะเขย่งเอามือป้องปากพูดใส่หูเขาเบา ๆ

“คือ พี่ ยัง ไม่ จ่าย ตังค์ ค่ะ” หน้าของเขาชาวาบก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบแบงก์สีแดงยื่นให้เด็กสาว โค้งตัวให้เล็กน้อยแทนคำขอโทษก่อนจะรีบเดินออกไป ทันทีที่เปิดประตูร้านคาเฟ่ร่างของเขาก็แทบจะบินไปหารถที่จอดไว้ ทว่ายังไม่ทันเดินไปถึงตัวรถ

โครม!!!

สาวน้อยที่ถูกพี่นักศึกษาพูดจาประหลาดใส่ ยืนงุนงงเกาหัวเล็กน้อยกับท่าทีของเขาถือแบงก์สีเเดงไว้ในมือมองเขาที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากร้าน สายตาเธอมองตามร่างชายหนุ่มที่รีบร้อนเดินไปที่ลานจอดรถ ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มสะดุดท่อระบายน้ำกลิ้งตกไปตามทางลาด เธอร้องเฮ้ยดังลั่น ก่อนจะตะโกนเรียกคนในร้านให้ออกไปช่วยดูสภาพชายหนุ่ม พี่เขาเต็มหรือเปล่าเนี่ย เด็กสาวคิดในใจ

คีร์มองสภาพตัวเองบนเตียงนอนห้องพิเศษในโรงพยาบาลก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขาของเขาถูกดามและพันแน่นไว้ราวกับมัมมี่ หมอวินิจฉัยว่ากระดูกขาได้รับแรงกระทบกระเทือนเคลื่อนตัวเล็กน้อยจึงต้องดามไว้อย่างนี้ เบื้องต้นอยากให้นอนโรงพยาบาลสักพักเพื่อสแกนเช็คจุดอื่นในร่างกายเพิ่มเติม

“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่โกรธเธอหรอกที่เธอมาสาย” เสียงนุ่มทุ้ม พูดอย่างอ่อนโยน

“เออดีและที่มึงไม่โกรธกู ขอโทษด้วยนะที่มาสาย” จากเสียงของรันกลายเป็นเสียงของไอนัท! นัทหอบพลางขอน้ำจากต้นสนกิน คีร์หันขวับมามองเพื่อนร่างท้วมก่อนจะถอนหายใจสุดเซ็งออกมาอีกครั้ง ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยปากด่า เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนร่างของหญิงสาวที่เขาเฝ้ารอมาทั้งวันจะก้าวเข้ามา

รันมัดผมหางม้าลวก ๆ สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนเดินเข้ามาในห้องก่อนจะมองมาที่เขาสายตาของเธอเหลือบมองแผลที่ขาเขาเล็กน้อย ไม่ได้มีสีหน้าตกใจอะไรเท่าไหร่ คีร์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้น ความจริงในวันนี้คือรันยังมีชีวิตเธอยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่ในโลงเหมือนในโลกที่เขาจากมา น้ำตาเจ้ากรรมเริ่มเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเขา

ต้นสนลากตัวนัทออกไปจากห้องทันทีเพื่อให้เวลาพวกเขาทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน

“เจ็บมากไหม” เสียงของหล่อนถามเขาขึ้น คีร์เพิ่งได้สติจึงรีบตอบกลับ

“ก็..นิดนึงแต่ไม่เป็นอะไรมากหรอก เลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงนี้สิ” คีร์ชี้ไปที่เก้าอี้ รันพยักหน้าก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงคนไข้ เธอนั่งเงียบไปสักพักจนคีร์เริ่มแปลกใจ เขาที่ทนความเงียบไม่ได้จึงเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้น

“ทำไมไม่ตอบไลน์ฉันเลยล่ะ” คีร์ถามเธอ รันลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าจ้องตาเขา เธอสูดหายใจเข้าแล้วเริ่มพูด

“คือฉันวุ่นวายนิดหน่อย แล้วก็เพิ่งคิดอะไรบางอย่างได้” เธอพูดขึ้นก่อนจะเงียบไปอีก

“คิดว่า? ” คีร์จึงถามกลับ

“ฉันคิดว่าบางที ฉันอาจจะ..ตอแยนายมากเกินไป” เธอเว้นจังหวะไปสักพักก่อนจะพูดต่อ

“ฉันเลยคิดว่าฉันกับนายเราเลิกกันดีไหม” สิ้นเสียงของรัน คล้ายกับมีฟ้าผ่าเปรี้ยงมาที่หัวของคีร์เขานิ่งอึ้ง สีหน้าฉายแววตกใจยังเห็นได้ชัด .. อะไรกัน .. ทำไมจู่ ๆ เธอถึงมาขอเลิกกับเขาแบบนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก