เมื่อนิราไม่ตกลง มัลลิกาจึงต้องบังคับและขู่เข็นให้เด็กนั่นตามมาด้วย ไปกับคนอย่างมัลลิกาไม่ต้องกลัวอะไร โดยเฉพาะขายหน้านี่ยิ่งไม่มีทาง คนที่จะยืนข้างๆ มัลลิกาคนนี้ได้ ต้องเด่นพอๆ กับเธอนั่นแหละ
“คุณมิล ชุดโคตรจะโป๊เลยค่ะ” นิรามองชุดตัวเอง ที่มัลลิกาสั่งให้ใส่ พลางกรอกตา ชุดเธอแหวกหน้า แหวกหลังพอๆ กันกับคุณมิล แต่คุณมิลกับเดินเชิ่ดหน้าอย่างมั่นใจเข้าไปในงานเลี้ยง โดยมีเธอเดินอยู่ข้างๆ
“คุณมัลลิกา มาได้ไงครับ” ตลอดทางที่คนทั้งคู่เดินผ่านมีแต่คนเข้ามาทักทายมัลลิกา และมองนิราที่เดินมาด้วยอย่างสนใจใคร่รู้ และเขาคนนี้ก็เช่นกัน
“บริษัทใหญ่มีงานทั้งที มิลจะพลาดได้ไงคะ” คนที่มาทักมัลลิกาตอนนี้คือเจ้าของงาน ที่เป็นทั้งเพื่อนของอรุณและพยัคฆ์นั่นแหละ ตอนนี้เขาทำธุรกิจส่งออกทั่วโลก และตอนนี้กำลังทำธุรกิจร่วมกับบริษัทรถในไทยหลายบริษัท เพื่อส่งออกรถจากไทยไปขาย
“แล้วคนข้างๆ ใครครับ ไม่เคยเห็นเลย สวยขนาดนี้ไม่น่าเล็ดลอดสายตาคนแบบผมไปได้นะ” ทัศนัย เอ่ยถามมัลลิกา พลางส่งสายตาบ่งบอกว่าเขาสนใจคนที่อยู่ข้างๆ เธอ แม้มัลลิกาจะสวยพอๆ กันหรืออาจจะดูดีกว่า แต่เธอมีอรุณเป็นคนรักอยู่ตอนนี้ เขาไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน
“นิราค่ะ ยัยนี่เป็นน้องของมิล อย่าแตะเชียวนะคะทัศ” มัลลิกาเอ่ยปราม ในขณะที่คนถูกกล่าวถึง เอาแต่ยืนเงียบ พลางมองไปที่มุมด้านในงานเงียบๆ
ทัศนัยชะงักกับชื่อที่มัลลิกาเอ่ยออกมา ก่อนจะมองตามสายตาคู่สวยของคนที่มัลลิกาบอกว่าเป็นน้องสาวไป แล้วหยุดมองตามสายตาเธอ เห็นเจ้าเสือร้ายเพื่อนเขากำลังนั่งคุยกับเพื่อนๆ อยู่ และข้างกายคนพวกนั้นก็คือสาวๆ ที่เขาเรียกมา
แต่ข้างๆ เสือคือผู้หญิงที่มันพามาเอง งานงอกแล้วเพื่อน นิรานี่คือคนที่มึงบอกว่าจะแต่งด้วยไม่ใช่เหรอ ทัศนัยมองหน้ามัลลิกา ที่ยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เพื่อนของเขา ส่วนทัศนัยได้แต่กล่าวคำอำลาให้เพื่อนในใจ เมียมาตามแบบนี้ งานเลี้ยงเขาพังแน่ๆ
นิราพอจะเข้าใจ ว่าสักวันเขาอาจจะเบื่อเธอแล้วมีคนใหม่ เธอเข้าใจถ้าเธอจะถูกทิ้งในสักวัน แต่ก็ไม่ควรพูดคำพวกนั้นกับเธอหรอก คนที่บอกว่ารัก คำที่บอกว่าจะไม่มีใคร และไม่ควรขอเธอกับแม่เธอ ถ้าไม่พร้อมจะมีเธอแค่คนเดียว
นิราเดินช้าๆ ไปที่โซฟาขนาดใหญ่กลางงานเลี้ยง คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเธอไม่รู้จักเลยสักคน แต่ชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งหันหน้ามาทางเธอ นิรารู้จักดี รู้จักดีมากๆ เลยด้วย
เสือมองนิราที่กำลังเข้ามาใกล้นิ่งๆ ไม่แปลกใจหรอกที่เห็นนิรา เพราะเขาเห็นเธอตั้งแต่เดินเข้างานมาพร้อมกับมัลลิกาแล้ว และชุดที่เธอใส่วันนี้มันก็เรียกสายตาของคนทั้งงานได้ดีจนเขาแทบจะเก็บความขุ่นเคืองได้ไม่หมด
“เพิ่งจะแต่งงานเมื่อเช้า ทิ้งสามีให้รับแขกอยู่งานเลี้ยงคนเดียว ตัวเองกลับมาเร่ขาย…ตัวอยู่ที่นี่งั้นเหรอ” นิราไม่จำเป็นต้องเคารพใคร คนที่นี่เธอไม่รู้จักสักคน เธอสงสารพี่ภพที่ไม่เคยรู้เลยว่าทับทิม เร่ขายตัวว่อนเนต
สามเดือนที่ผ่านมาเธอทำงานอย่างหนัก ทั้งที่บริษัทเพื่อช่วยงานเขา ทั้งดูงานปรับปรุงตกแต่งร้านที่เขาบังคับให้เธอเปิด ไหนจะต้องไปหาแม่ของเขา เพื่อฝึกมารยาท บางครั้งก็อยู่กับท่านดึกดื่น เพื่อช่วยอยู่คลายเหงาให้ท่าน ไหนเธอจะต้องดูแลแม่ที่รักษาตัวจากมะเร็งอีก เธอเหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยมากๆ ด้วย
“เราเลิก /ว้ายยย ปล่อยสิภพ” นิรายังไม่ได้พูดให้จบ ก็มีเสียงกรีดร้องของทับทิมแทรกขึ้นก่อน คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นจากที่เงียบอยู่แล้วตอนนิรามาถึง กลับต้องเงียบกว่าเดิม เมื่อผู้ชายที่มาใหม่ มาพร้อมกับไม้เบสบอลในมือ
“ทำแบบนี้มาตลอดสินะ ไม่ต้องห่วงหรอกทับทิม พี่ไม่ได้มาตามเธอกลับ ต่อไปจะขายตัวให้ใครก็เชิญ เพราะต่อไปเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” ภพรักที่เคยมีท่าทีนิ่งๆ วันนี้มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว ไม้เบสบอลที่ถือมาด้วย ถูกเขาทุบลงโต๊ะกระจกแรงๆ จนมันแตก ก่อนจะโยนเงินที่ถือมาด้วย ลงบนพื้นเป็นค่าเสียหาย
นิราลุกขึ้นจากตักเสือนิ่งๆ ก่อนจะเดินไปทางภพรัก แล้วจับมือเขา เพื่อจะพากันเดินออกไปจากตรงนี้
เธอต้องพี่ภพออกไป ก่อนที่เขาจะพังทุกอย่างในงานลงจริงๆ ภพรักตอนนี้เหมือนพายุที่โหมกระหน่ำ และคงมีแค่นิราเพียงคนเดียว ที่จะหยุดพายุนั้นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่ว