ตอนที่ 164 นัชชาผมผิดไปแล้ว
นัชชาไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากออฟฟิศได้ยังไง เธอรู้เพียงว่าใจของเธอถูกปรัณบดขยี้เป็นเสี่ยงๆ คำพูดทุกคำของเขากลับกลายเป็นฉากเหตุการณ์ที่แวบผ่านตรงหน้าเธอไป กระทั่งเห็นถึงเหตุการณ์หลายปีก่อนที่เตชิตยังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากยากจน
ทั้งๆที่เธอเป็นคนถูกเขาโกหก แต่ทำไมเธอกลับรู้สึกทุกข์ใจ ไม่สบายใจขนาดนี้
นัชชาเดินไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย จนกระทั่งเธอหยุดเดินจึงพบว่า ไม่รู้เมื่อไหร่กันที่เดินมาถึงประตูหน้าห้องพักผู้ป่วยแล้ว
ประตูที่หนาและหนักกั้นไว้อยู่ ทั้งๆที่มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แต่เธอกลับเห็นผู้ชายที่ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงนอนอยู่บนเตียงคนไข้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ
คำว่า “อ่อนแอ” ไม่เคยดูเหมาะกับเขาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีแสงสะท้อนส่องมา มองดูแล้วทำให้กระวนกระวายใจจนทุกข์ระทมไปหมด
นัชชายกมือทั้งสองข้างขึ้นมา และวางลง ทำซ้ำไปมาอยู่ห้ารอบ สูดหายใจเข้าแล้วเข้าอีก จึงค่อยๆผลักประตูออกไป
แสงจากในห้องสาดส่องออกมาผ่านช่องประตู จุดที่ยืนอยู่ตรงประตูเห็นเพียงแค่ปลายเตียงเท่านั้น ใต้ผ้าห่มสีขาวมองเห็นขาสองข้างที่นูนขึ้นมาอย่างชัดเจน เธอเดินเข้าไปเงียบๆ ค่อยๆใกล้เข้าไปทีละนิด ขาทั้งสองข้าง เอว หน้าอก….สุดท้าย สายตาเธอหยุดชะงักไปที่ใบหน้าอันขาวซีดของชายผู้นั้น
เปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วยสีน้ำเงินของโรงพยาบาล ก้าวเข้าไปในห้องยังได้กลิ่นเหล้าลอยมาเตะจมูกเล็กน้อย ผ่านไปหนึ่งคืนกลิ่นยังคงออกไปไม่หมด พอที่จะทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเมื่อคืนเขาดื่มไปมากเท่าไหร่
กระเพาะของเขาไม่ค่อยดีมาโดยตลอด ไม่ค่อยทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดจ้าน แต่วันนี้กลับถึงขั้นเลือดออกภายใน
นัชชามองใบหน้าอันสงบของเขา ในใจทั้งโกรธทั้งกังวลสับสนไปหมดตอนแรกตั้งใจแค่จะมาดูห่างๆแล้วกลับไป เวลาผ่านไปอดใจไม่ได้ที่จะใจอ่อน ไม่เข้มแข็งพอที่จะอยากเข้าใกล้เขาอีกสักนิด
ระยะทางห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว นัชชาเดินไปหยุดอยู่ตรงหัวเตียง เขาหายใจแรงมาก หน้าอกเขาเสมือนมีของหนักมากดทับอยู่ คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ท่าทีเหมือนกำลังฝันร้ายและเป็นทุกข์อย่างมาก เห็นดังนั้นทำให้ใจอันเข้มแข็งของเธอค่อยๆอ่อนลง
เพื่อเธอเขาจึงกลายเป็นแบบนี้ เธอจะทำเป็นไม่สนใจได้อย่างไร?
ใช้วิธีนี้เพื่อลงโทษตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่เอ่ยปากพูด เธอก็เข้าใจ
นัชชาหลับตาลง ละสายตาออกจากผู้ชายที่อยู่บนเตียง สองความคิดที่อยู่ในใจตีกันไปมา ใช้เวลาครุ่นคิดพิจารณาอยู่นาน สุดท้ายก็พ่ายแพ้อยู่ดี
‘ถ้าเธอยอมไปดูเขา ก็ช่วยเขาเช็ดหัว เช็ดมือ ตัวเขาจะได้เย็นไวขึ้น’
คำพูดของปรัณแวบเข้ามาในหัว นัชชาเดินกลับไปยังห้องน้ำบิดผ้าขนหนูหมาดๆ ค่อยโน้มตัวลงกลัวว่าจะไปโดนตัวเขา ค่อยๆบรรจงเช็ดเหงื่อที่หยดไหลบนหน้าผากอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลงมาที่ลำคอ และฝ่ามือ
เธอซักผ้าขนหนูอยู่หลายรอบ และคอยเช็ดตัวให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า เดินไปเดินมาอยู่สามรอบจนเหงื่อของเธอไหลย้อยไปทั่วทั้งหลัง
เมื่อทำทั้งหมดเสร็จ เธอก็วัดอุณหภูมิให้เขา 38องศา ยังดีที่อุณหภูมิไม่เพิ่มขึ้น หมอปรัณเคยบอกไว้ว่าเป็นอาการปกติหลังดื่มเหล้าอย่างหนัก
นัชชาถอนหายใจโล่ง กำลังจะเอาที่วัดไข้กลับไปวางที่เดิม ขณะก้มหัวลงคาดไม่ถึงว่าจะไปปะทะกับนัยน์ตาสีดำคู่นั้น
สายตาทั้งสี่จ้องเข้าหากัน ในห้องผู้ป่วยช่างเงียบสงัด บรรยากาศโดยรอบนิ่งราวกับหลอมตัวกันเป็นน้ำแข็ง จนทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว
ยืนตัวแข็งอยู่พักหนึ่ง ปฏิกริยาแรกของนัชชาคือหนี ทั้งๆที่ยังไม่ทันวางที่วัดไข้ภายในมือ เธอก็รีบหันหลังไป เพิ่งจะก้าวออกไปหนึ่งก้าว มือของเธอก็ถูกคนด้านหลังรั้งไว้
แรงของเตชิตมีไม่มากนัก อาจเป็นเพราะเขาเพิ่งตื่น ถ้าเธอคิดจะขัดขืนก็สามารถทำได้ แต่…..
นัชชาเห็นเข็มสายน้ำเกลือที่เจาะอยู่บนหลังมือเขา แรงที่ใส่ไปอย่างเต็มที่เมื่อครู่กลับปล่อยเบาลงทันที เหลือไว้เพียงคำพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างแข็ง “คุณปล่อยฉัน”
สิ่งที่เขากลัวที่สุดไม่ใช่คำด่าทอของเธอ ไม่ใช่การว่าโทษใส่ แต่เป็นการสูญเสีย มองไม่ให้เธอต่างหาก
ใจของนัชชาเหมือนถูกบางอย่างทิ่มแทงอย่างเต็มแรง หยุดชะงักไปครู่หนึ่งและโดดขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองดูชายที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เห็นคนรูปร่างสูงใหญ่อย่างเขาอ่อนแอและอ่อนโยน
ที่จริงแล้ว เขาก็กลัว กลัวว่าเธอจะจากไป กลัวว่าจะสูญเสีย และที่จริงแล้ว ไม่เพียงแค่ตัวเธอเองที่ทรมานขนาดนี้
ข้างหูของนัชชาจู่ๆก็มีเสียงสะท้อนจากประโยคที่ปรัณพูดกับเธอในออฟฟิศเมื่อครู่ดังขึ้นมา—
‘คุณยอมที่จะให้โอกาสเขาหรือไม่?’
ทำไมจะยอมไม่ได้ล่ะ แม้ว่าเธอจะพยายามหลอกตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหลีกหนีความจริงที่รักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วได้พ้น หลังจากฟังคำพูดเหล่านั้น รับรู้เหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด คำถามมากมายที่สงสัยอยู่ภายในใจกลับเหลือเพียงความเห็นใจที่มีต่อเขา
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าได้ผ่านเหตุการณ์ที่เกือบถึงแก่ชีวิต ความเป็นความตาย แบกรับภาระที่หนักหนาปานนี้ เขาเหนื่อยกว่าคนอื่นหลายต่อหลายเท่า
บนทางเดินของความสัมพันธ์นี้ เขาเปรียบเหมือนชายชราที่เหลือเพียงช่วงชีวิตสุดท้าย เดินเหินไม่มีเรี่ยวแรง แต่ยังจำเป็นต้องก้มหน้าเดินต่อไปข้างหน้า
นาทีนี้ นัชชาใจลอยจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอเข้าใจความรู้สึกของตัวเองอย่างถ่องแท้แล้ว และเข้าใจเจตนาความรู้สึกของเขาเช่นกัน
ทั้งสองเงียบ ไม่มีใครพูดจา มองตากันอยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตาของกันและกันคือภาพสะท้อนใบหน้าของคนที่อยู่ตรงข้าม นัชชามองดูสายตาที่ดูกังวลของเขา เป็นสีแดงก่ำ “ถ้าคุณยังจะโกหกฉันอีกครั้ง ฉันจะไปจากคุณและจะไม่กลับมาอีก!”
เมื่อพูดจบ ตาของเตชิตร้อนจนแทบจะหลับตาลง แรงที่บีบอยู่ในมือไม่มีท่าทีจะเบาลง หน้าอกของเขาพองขึ้นมากอย่างมาก ตื่นเต้นดีใจจนเสียงเพี้ยนขึ้นมา “นัชชาจ๋า นัชชาจ้ะ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...