ตอนที่282ไม่อภัยให้เธอตลอดไป
วันนั้นในสถานที่เกิดเหตุที่ค้นหาช่วยเหลือผู้รอดชีวิตภายจากที่เตชิตตกลงไปเขาก็ถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาลหัวใจเค้าเต้นช้าลงความเจ็บปวดภายในแน่นอนว่ามันต้องมีอยู่แล้วแต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือความเจ็บปวดที่ใจ
เดิมทีปรัณอยากให้เค้าพักผ่อนสักสองสามวันแล้วแล้วค่อยไปแต่ทว่าเค้ากลับไม่ฟังรู้ตัวว่าบังคับไม่ได้ก็ไม่พูดโน้มน้าวมากเพียงฉีดยาให้เค้าสองสามเข็มใช้ยาเยียวยาก็สามารถยันกายไว้ได้ยอมตามเค้ากลับไป
คนของโจวซวินตลอดมาล้วนไม่เคยปล่อยปละละเลยไม่หยุดค้นหาตรงโค้งน้ำที่เกิดเรื่องหาต่อเนื่องจนกระทั่งถึงตำแหน่งกระแสน้ำตอนล่าง
ถึงกระนั้นแล้วเวลาก็ผ่านไปรวดเร็วเหมือนน้ำไหลไม่มีแม้แต่ข่าวคราวที่เกี่ยวกับนัชชาเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
สามวันแล้วหลังจากที่เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยชายหนุ่มคนนี้จากที่กังวลในตอนแรกๆเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความหวาดหวั่นใช่แล้วเค้ากลัวว่าจะมีใครสักคนบอกเขาว่าหาตัวนัชชาเจอแล้วแต่ทว่าร่างที่หาเจอกลับไร้ลมหายใจเสียแล้วมันคือการจากกันตลอดกาล
จากวันนั้นจนถึงวันนี้สิ่งที่ประคับประคองให้เค้าอยู่ต่อไปได้ก็คือยังหวังลมๆแล้งว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นการที่ไม่มีข่าวคราวใดๆของเธอนั่นนับว่าเป็นข่าวดีแล้ว
ความคิดถึงเป็นตัวนำพาคอยยึดเหนี่ยวไว้ทุกวันเตชิตรีบตื่นแต่เช้าเพื่อรีบไปยังสถานที่เกิดเหตุผมก็ยังไม่ได้หวีหนวดก็ยังไม่ได้โกนแม้กระทั่งเสื้อผ้าก็สวมติดต่อกันหลายวันแล้วเขากลายเป็นคนยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงไม่มีความสะอาดสะอ้านได้ถึงครึ่งของเมื่อก่อน
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งสถานีตำรวจเริ่มติดต่อเค้ามา
โทรศัพท์ต้นเสียงนั้นส่งเสียงผ่านมาจากหัวหน้าตำรวจที่น้ำเสียงบ่งบอกถึงความเสียใจและเป็นเสียดายอย่างยิ่ง“คุณชายเตชิตเรื่องของคุณหนูนัชชาคุณจะจัดการอย่างไร?”
“อะไรคือจัดการอย่างไร”เสียงของชายหนุ่มแหบพร่าถามฝ่ายตรงข้ามด้วยความสังหรณ์ใจอย่างยิ่ง“การค้นหายังไม่สิ้นสุดนี่คุณถามอะไรพรรค์นี้กัน?”
“ครับๆผมทราบว่าคุณตามหาคนมาโดยตลอดไม่เป็นไรครับคุณสามารถที่จะหาต่อได้ช่องระยะทางบนถนนพวกเราก็สามารถช่วยคุณปิดล้อมไว้แต่ตอนนี้ประเด็นสำคัญคือต้องการเพียงแค่ตัวแทนมอบหมายจัดการ”
น้ำเสียงที่หัวหน้าตำรวจพูดฟังดูสดใสซาบซ่า“คุณลองคิดดูนะครับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างนานแล้วไม่เท่ากับว่าต้องทำอะไรก่อน……บันทึกนี้หลังจากนั้นก็ค่อยจัดการงานศพ”
“งานศพ?”เตชิตทวนคำอีกรอบเสียงลอดผ่านลำโพงออกมาก็สามารถรู้สึกได้ว่านำเสียงนั้นมีความเยือกเย็นอยู่ในนั้น“คนก็ยังหาไม่พบจะพูดเรื่องงานศพขึ้นมาทำไมกัน?”
หัวหน้าตำรวจเข้าใจควาหมายที่เค้าส่งสารมาดูอออกว่าเค้าไม่ยอมเชื่อว่าคนได้ตายไปแล้วเป็นเรื่องจริงชั่วครู่คำพูดที่ถ่ายทอดออกมาก็ช่างบาดลึกลงไปอีก“พูดอย่างนี้ก็ไม่ผิดครับแต่ว่าคนในครอบครัวทางนั้นพวกเรามอบหมายงานต่อไปไม่ได้
ครอบครัว
นึกมาถึงสองคำนี้อันดับแรกเลยก็นึกไปถึงเมทนีกับณัชชนม์
เตชิตฉีกริมฝีปากขึ้นด้วยความลำบากยากเย็นไม่ว่าจะมอบหมายงานอย่างไรพวกเค้าล้วนไม่ให้อภัยตนเองอย่างเด็ดขาดเพียงทำให้ลูกสาวอันเป็นที่รักยิ่งต้องหายสาบสูญไปความผิดที่เค้าทำไม่สามารถยกโทษให้ได้
ไม่ได้ยินเค้าตอบรับกลับมาหัวหน้าตำรวจจึงตะโกนเรียกหยั่งเชิงออกไป“คุณชายเตชิต?”
“สักพักฉันก็จะไปแล้ว”พูดจบแล้วก็ไม่รอหัวหน้าตำรวจตอบกลับมาเตชิตตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไปเอง
เค้าไม่อยากเผชิญหน้ากับเรื่องราวเหล่านั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ยอมรับมันล้วนพิสูจน์ให้เค้าเห็นทีละนิดๆแล้วไม่ใช่ว่าเค้าไม่ยอมรับก็สามารถลบเรื่องราวทั้งหมดไปได้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็คือเรื่องราวที่เค้ามีส่วนเข้าไปร่วมให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ถึงแม้ว่ามันจะโหดร้ายแต่ว่าก็คุณก็ต้องจำใจยอมรับมัน
เตชิตขับรถถึงป้ายสถานีตำรวจเมทนีกับณัชชนม์ก็รออยู่ก่อนหน้าแล้วผลักประตูสถานีตำรวจเข้าไปก็เจอคนชราสองท่านที่มีท่าทีโศกเศร้าเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่งอยู่บนโซฟา
เพียงแค่เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนสองท่านนี้เหมือนกับแก่เพิ่มขึ้นอีกสิบกว่าปีคนช่วงอายุระหว่างห้าสิบปีเปลี่ยนเป็นคนแก่ที่อายุสักเจ็ดสิบปี
ความเจ็บปวดจากการสูญเสียหญิงสาวผู้เป็นที่รักความทรมานทั้งหมดนี้สามารถทำให้พวกเค้าแก่ชราภายในแค่คืนหนึ่งได้
เสียงคลื่อนไหวที่ได้ยินดังขึ้นจากหน้าประตูสองท่านนี้พากันเงยหน้าขึ้นมาเมทนีตาแดงระเรื่อณัชชนม์มีรอยคราบน้ำตาบนข้างแก้มเมื่อพวกเขามองเห็นเตชิตความเจ็บปวดระทมใจซ้ำๆก็แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกของความเกลียดชังและโกรธแค้น
“เวรกรรมเวรกรรมจริงๆนัชชานัชชาของแม่ทำไมลูกโง่อย่างนี้รักใครก็ไม่รักแต่กลับมารักคนคนนี้……”
ณัชชนม์ร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจขึ้นมาทันทีเสียงโหยหวนดังทั่วทั้งห้องออกมา“ลูกไม่อยู่แล้วแล้วจะให้พ่อกับแม่ทำอย่างไรกัน……”
จริงๆแล้วบรรยากาศก็โศกเศร้าเกินไปแม้กระทั่งหัวหน้าตำรวจที่เจอเหตุการณ์ทำนองนี้มานับไม่ถ้วนก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าใจขึ้นมา
ใช่แล้วใครจะคิดว่าสองวันก่อนหน้านั้นคนที่ยังอยู่ดีๆในพริบตาเดียวก็ไม่อยู่แล้วรถคุ้มกันนำส่งตกแม่น้ำอุบัติเหตุแบบนี้มองย้อนกลับมาดูในอีกสิบปีก็ไม่อยู่แล้ว
ธรรมชาติสร้างคนทั้งหมดนี้อาจจะเป็นบัญชาสวรรค์
เมทนีเดินไปประคองณัชชนม์ขึ้นมาหันกายมองดูเตชิตที่ยืนก้มหัวอยู่ตรงที่เดิมความโกรธแค้นมีเพิ่มขึ้นมากกว่าความเสียใจและเจ็บปวด“ถ้าหากรู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นเหมือนวันนี้ฉันก็คงไม่ให้นัชชาอยู่ด้วยกันกับแกอย่างเด็ดขาด”
ประโยคนี้ทำให้เตชิตต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าคำด่าทอใดใด
เขาอยากฉีกริมฝีปากเย้ยหยันน่าเสียดายที่มุมปากของเค้าราวกับมีแม่แรงขนาดหนักที่ทำให้ขยับไม่ได้“ถ้าหากทราบว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างวันนี้ผมคงจะไม่ให้เธอรู้จักผมเด็ดขาด”
ยอมที่จะไม่รักเธอตั้งแต่หัวจรดเท้ายอมที่จะโดดเดี่ยวเดียวดายไปชั่วชีวิตเขาสามารถที่จะทนต่อไปได้เพียงแต่การจากไปอย่างโดดเดี่ยวของนัชชาราวกับมีเลือดไหลซึมอยู่ภายในใจคงลบออกไปไม่ได้ตลอดไปทั้งชีวิตนี้คงทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหว
เจ็บไหม?
ยังเจ็บมากกว่านี้ได้อีกเป็นความรู้สึกชนิดที่ไม่ว่าเมื่อไรไม่ว่าตอนไหนก็ไม่อยากคิดตอนกลางวันเมื่อสายตาสอดส่องไปมาข้างหน้าก็เจอแต่ภาพหลอนของเธอในยามราตรีตลอดทั้งคืนเมื่อนอนหลับจมูกล้วนแต่จะนึกถึงกลิ่นกายของเธอขึ้นมาทรมานแบบนี้ราวกับเป็นเงาตามตัวแต่เขาก็ควรที่จะแบกความรู้สึกนี้ไปชั่วชีวิต
สายตาของหัวหน้าตำรวจมองไปมาระหว่างสามคนนี้ถือโอกาสที่ทุกคนไม่เอ่ยวาจานำเอกสารถือออกมา“งั้นตอนนี้ก็เริ่มจัดการขั้นตอนลบออกจากทะเบียนบ้านที่เกี่ยวข้องกับบัญชีทรัพย์สินเงินฝาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...