ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 407

ตอนที่407 ทำไมคุณกุมมือแม่ของผม

“ท่าทางของคุณตอนนี้ เหมือนปีนั้นไม่มีผิด” ชายคนนั้นชี้นิ้วเรียวของเขาไปที่ลำคอของเธอ

เขาชอบการกระทำนี้มาก รู้สึกถึงผิวที่บอบบางของเธอ และยังมีความสดชื่นของข้างล่าง ทำให้ชีพจรของเขาเต้นจนแทบบ้า

“ฉันไม่ใช่นัชชาคนที่อ่อนหัดคนนั้นอีกแล้วค่ะ ห้าปีมานี้ ฉันเปลี่ยนแปลงไปมาก” ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองนัยน์ตาสีดำขลับของเขา

เตชิตบิดคางของเธอไปมา “ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น กลัวว่าผมจะไม่ชอบคุณในแบบนี้น่ะหรอ”

เธอไม่ตอบ แต่มองหน้าเขานิ่ง หลังจากนั้นไม่นานก็ส่ายหัว “ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ นี่ก็คือตัวตนของฉัน”

ความโค้งงอของริมฝีปากชายคนนั้นชัดเจนมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนี้ เขาไม่คิดปิดบังความซาบซึ้งและความรักที่มีต่อเธอเลยสักนิด “ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร ผมก็ชอบทั้งนั้น”

ความรู้สึกที่เขาที่มีต่อเธอมากถึงระดับที่ไร้เหตุผลแล้ว ไม่ได้รักเพราะว่าสิ่งใดในบุคคลนี้ แต่รักเพราะว่าเป็นเธอ

แต่ไม่ต้องสงสัยเลย เธอเป็นคนที่เขารักเมื่อห้าปีก่อน ห้าปีต่อมา ผู้หญิงที่เป็นอิสระและมุ่งมั่นคนนี้ น่าดึงดูดกว่าเมื่อห้าปีที่แล้วขึ้นอีก

เธอมีเสน่ห์ ทั้งอ่อนโยนและแข็งแกร่ง เมื่อใครพบเห็นสิ่งที่ขัดกันนี้มันสามารถดึงดูดสายตาผู้คน ยิ่งมองก็ยิ่งน่าหลงใหล

“นัชชา” ทันใดนั้นเขาก็เรียกชื่อเธอ ระดับสายตาอยู่ที่ใบหน้าของเธอ “การคิดถึงคุณเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก แค่ครู่เดียวก็ทำให้ผมอ่อนลงได้”

ต้องทราบก่อนว่าก่อนที่เธอจะปรากฎตัวนั้น ไม่ว่าหญิงสาววกี่คน ไม่ว่าจะเป็นใคร สวยแค่ไหน ดีแค่ไหน เขาก็ไม่เคยมีใจให้

ไม่ได้เรียกร้องมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่พยายามหา แค่เพียงสำหรับคนพวกนั้น อย่าพูดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดี แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยต่างหาก มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกกระหาย

นัชชาเริ่มอาย รู้สึกว่าคนคนนี้กำลังล้อเธอเล่น ดูเขาสิ “คุณหลงตัวเองให้น้อยหน่อย ยังมีอีกหลายคนที่ชอบฉันนะ”

“จริงหรอ นอกจากผมแล้วคุณยังมีคนอื่นอีกรึ”

“...” เขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ การถามคำถามเช่นนี้เหมือนจะเป็นคำถามง่ายๆ

นัชชาขี้เกียจสนใจเขา โก่งตัวเพื่อจะหลีกเลี่ยงร่างกายของเขา เธอมุดหลบไปและวิ่งเหยาะๆไปที่ด้านหลังเขา เสียงหัวเราะของชายคนนั้น เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านก้อนเมฆ ส่องมาให้ความอบอุ่นถึงหัวใจ เธอเดินให้เร็วขึ้น กลัวว่าเสียงการเต้นของหัวใจจะถูกคนได้ยิน

….

สี่สิบนาทีหลังจากนั้น นัชชาเก็บข้างของเสร็จแล้ว พวกเขาพาเจ้าตุ๊กตาน้อยออกจากบ้าน ยังคงเป็นเตชิตที่ขับรถ

รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะไปโรงเรียน ธีมนต์รู้สึกตื่นเต้นมาก มือเล็กๆทั้งคู่ของเขาดึงมุมเสื้อเอาไว้อย่างกังวลใจ กังวลที่อีกสักครู่จะได้เจอกับเพื่อนๆตัวน้อยคนอื่นๆ

“แม่ครับ เดี๋ยวผมเจอคุณครูแล้วควรจะพูดว่าอะไรครับ”

นัชชาหันไปมอง เมื่อเห็นท่าทีที่ประหม่าของเขา เธอก็พูดปลอบโยน “อยากพูดอะไรก็พูดได้ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ”

“แต่ว่าผมไม่ได้ไปโรงเรียนมานานแล้ว รู้สึกกังวลนิดหน่อย”

เมื่อได้ยินคำนี้ ชายที่ขับรถไปเรื่อยก็เหลือบมองที่กระจกมองหลัง “วันนี้เราแค่ไปดูสภาพแวดล้อมรอบๆโรงเรียนกัน ไม่ได้เข้าเรียน หนูทำตัวสบายๆ โอเคไหม”

ในประเทศจีน เด็กที่ใช้นามสกุลแม่ส่วนมากเป็นเด็กที่มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือว่ามาจากครอบครัวที่หย่าร้าง โดยปกติแล้วน้อยมากที่จะใช้นามสกุลของแม่

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นลูกชายของเตชิต ไม่สามารถเพิกเฉยได้

ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการพาคนทั้งสามเดินดูอาคารเรียนและสนามเด็กเล่นของโรงเรียน รวมถึงห้องโถงและแนะนำให้รู้จักครูผู้สอน

เมื่อพูดถึงภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาต่างชาติ ผู้อำนวยการรึสึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก “ประธานเตชิตครับ คืออย่างนี้ การเรียนการสอนของเราที่นี่เป็นสองภาษา ธีธีของคุณอยู่ในชนชั้นสูงดังนั้นระดับภาษาอังกฤษของเด็กก็น่าจะมีพื้นฐานมาบ้างอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เด็กเคยเรียนภาษาต่างประเทศมาก่อนหรือไม่ คุณเป็นพ่อของเด็ก คุณรู้ดีที่สุด”

คำพูดนี้พูดสิ่งที่นัชชาคิดอยู่ในใจทั้งหมด เธอมองที่ธีมนต์โดยไม่รู้ตัว เด็กไม่มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ การแสดงออกปกติมาก

“เขาเคยอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ภาษาต่างประเทศเป็นภาษาที่สองของเขา ไม่น่ามีปัญหาอะไร” พอเตชิตพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ใบหน้าก็แสดงออกถึงความภาคภูมิใจอย่างไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้

เมื่อผู้อำนวยการได้ยินเช่นนั้นก็รีบทวนคำอย่างรวดเร็ว “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นภาษาอังกฤษของเขาก็น่าจะยอดเยี่ยมมาก ดีจริงๆ!”

“สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของอนุบาลเราก็เป็นแบบนี้ครับ ระดับมัธยมต้นเราก็รับเข้าโดยตรง ประธานเตชิตคุณก็รู้ ในเมืองJไม่มีโรงเรียนอนุบาลแห่งไหนที่เทียบกับของเราได้ ถ้าหากเด็กถึงเกณฑ์ที่สามารถเข้าเรียนที่นี่ได้แล้ว คุณก็สามารถดำเนินเรื่องขั้นตอนการพิจารณาเข้าเรียนได้เลยครับ”

เตชิตฟังเงียบๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรเด่นชัด เขาหันหน้าไปถามนัชชา “คุณคิดว่ายังไง”

นัชชาไม่ได้อะไรเลยตลอดทางที่เยี่ยมชม ส่วนใหญ่ได้แต่ฟังพวกเขาพูด แต่จู่ๆก็ถูกขอความคิดเห็น เกือบแทบจะไม่ได้ตอบสนองอย่างใด “ทะเบียนราษฎร์ของเด็กยังอยู่ที่อังกฤษ จะมีผลกระทบอะไรกับขั้นตอนการดำเนินการหรือไม่คะ”

“สามารถมาปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศในห้องเรียนก่อนครับ ท้ายที่สุดแล้วเมื่อถึงเวลาเข้าเรียน ก็ต้องปล่อยให้อยู่กลับคุณครูเพียงลำพัง เอกสารทะเบียนราษฎร์ค่อยตามมาทีหลังก็ได้ครับ” ความจริงแล้วเด็กที่ได้รับการคัดเลือกที่อนุบาลแห่งนี้มาจากสถานที่ต่างๆ ที่นี่แตกต่างจากอนุบาลทั่วไปมาก ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับภูมิลำเนามากนัก ส่วนมากดูที่เงื่อนไขของครอบครัวและตรวจสอบสภาพแวดล้อม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด