ตอนที่434 ร่างกายของชายคนนี้สว่างสไว
เรื่องของเตชิตและธีมนต์คนรอบข้างก็รู้กันอย่างรวดเร็ว พวกธนัทรีบมาที่โรงพยาบาล มองชายที่นอนอ่อนแออยู่บนเตียงห้องผู้ป่วยแยกเดี่ยว ในใจยากที่จะยอมรับ
“เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? ร่างกายมีปัญหาอื่นอีกไหม?” เป็นเพื่อนกันมาหลายปี ทุกคนเป็นกังวลอย่างมาก
ปรัณกดดันมากกว่าใครอื่น “ยังต้องสังเกตอาการอีกสามวัน ถ้าสามารถผ่านสามวันนี้ไปได้ ก็สามารถช่วยชีวิตไว้ได้”
ช่วยชีวิต
สองคำนี้ฟังดูแล้วสำคัญและเลี่ยงไม่ได้ขนาดนี้ ใช่แล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ต้องอยู่ในสภาพไหนถึงสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ล่ะ?
“นัชชาล่ะ สภาพจิตใจเธอยังดีไหม?” ธนัทวางสายตาไปยังร่างบางที่พิงอยู่ข้างเตียง
“คุณว่าไงล่ะ” ปรัณถอนหายใจด้วยความหมดอาลัยตายอยาก “ตอนนี้เตชิตมีความลำบากยากเข็ญมาก ภายในใจเธอทุกข์ทรมาณมาก สองคนนี้อย่ามองว่าเข้าถึงกันอย่างปกติ ในช่วงวิกฤติยังเป็นห่วงกันและกัน นัชชาร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เอนตัวข้างกายเขายากที่จะหลับลง”
ธนัชอ่านมาคดีมานับไม่ถ้วน ผ่านประสบการณ์ฉากเรียกน้ำตามาไม่น้อย แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดพวกนี้ แล้วยังเห็นเหตุการณ์แบบนี้ อดไม่ได้ที่ขอบตาจะแดง เขารีบเบนสายตาออกมา “เตชิตตกอยู่ในสภาพลำบากยังมีผู้หญิงแบบนี้คอยอยู่ด้วย ถือว่าพระเจ้ายังดูแลอยู่”
ความรักของนัชชา พวกเขายังรู้สึกว่าเป็นความรักแบบพี่น้อง
มุมปากปรัณฉายแววขมขื่น “ก็ขอให้เจ้านี่ผ่านไปได้ จากนี้ไปก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
หลังจากเรื่องนี้ อุปสรรคอะไรระหว่างนัชชากับเขาก็ไม่มีอย่างแน่นอน คนเราจะรู้ความรู้สึกตัวเองชัดเจนก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ถึงจะสามารถปล่อยความเข้าใจผิดพวกนั้นทิ้งไป ถ้าผ่านความโชคร้ายมาได้จะโชคดีตลอดหลังจากนั้น หวังให้เตชิตสามารถรอดมาได้
“ทางด้านประทินจัดการหรือยัง?”
พูดถึงตัวการของเรื่องทั้งหมด ปรัณที่เป็นคนอ่อนโยนใบหน้าก็เย็นชาขึ้นมา “ชนัยจัดการแล้ว ไม่ให้เธอสบายใจแน่นอน หลังจากจับได้ยังไม่ได้ส่งไปสถานีตำรวจ ผมกำชับเขาแล้วว่าอย่าทำให้ถึงตาย ไม่งั้นไม่คุ้มกับบาดแผลของเตชิต”
ธนัทขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว แต่พอนึกถึงใบหน้าของประทินก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยมีความคิดที่ว่าฟันต่อฟัน หรือการใช้กำลังแก้แค้น แต่ในเรื่องการสูญเสียของคนคนหนึ่งนั้น สำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้ดีไปกว่าสัตว์ร้าย เขาไม่สามารถเห็นอกเห็นใจเธอได้แม้แต่นิดเดียว
หลังจากสงบอารมณ์ลงเล็กน้อ้ย เขาก็มองไปที่ผู้ชายบนเตียงผู้ป่วยอีกครั้ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาตบบ่าปรัณอย่างจริงจัง “ปรัณ ลำบากหน่อยนะ ต้องให้เตชิตยืนขึ้นมาได้อีกครั้ง”
ต่อมาก็รับปากอย่างจริงจัง “ผมจะพยายามอย่างเต็มที่”
……
เรื่องของเตชิตก็ไปถึงหูชนุดมอย่างรวดเร็ว เขายังตกอยู่ในช่วงสะเทือนใจกับการจากไปของนัชชาไม่เลือนหายไป หลังฟังข่าวนี้ก็ตกตะลึงไปสักพักใหญ่ถึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบ
เขาไม่ได้ติดต่อกับคนอื่น กลับมาเมือง J ด้วยความรวดเร็วทันที หลังจากรู้ที่อยู่ของลูก รีบตรงดิ่งไปที่ไวโรจน์วิลล่าแม้แต่เวลาหายใจยังไม่มี
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ธีมนต์ถูกดูแลโดยน้ารินและจินต์ กลัวว่าหลังจากเด็กตกใจกลัวไม่คุ้นเคยกับการเปลี่ยนสภาพสิ่งแวดล้อม จินต์นำกระเป๋าเดินทางตัวเองย้ายออกไปโดยตรง
ตอนนี้โทรศัพท์บ้านดังขึ้นมา โทรมาจาส่วนกลางของคฤหาสน์ บอกว่าคุณชนุดมอยู่หน้าประตู จินต์อึ้งไปสักพัก ก่อนจะเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า ‘คุณชนุดม’ ที่ว่าหมายถึงใคร ใคร่ครวญเล็กน้อยก่อนจะอนุญาต “ให้เขาเข้ามาเถอะ”
ไม่ใช่นอกเหนือจากการคิดพิจารณาอื่น แต่เป็นเพราะสองวันนี้ได้ยินเด็กพูดถึงคุณอาชนุดมคนนี้ จินต์ยอมรับว่าให้ชนุดมเข้ามาก็เพื่อเด็ก
ผู้ชายเดินตรงไป ร่างกายสูงใหญ่ยืนอยู่หน้าโซฟา แม้แต่น้ารินก็ต้องพยายามเงยหน้าถึงจะมองเห็นใบหน้าเขา
ชนุดมดึงเด็กน้อยเข้าอ้อมอก ฝ่ามือใหญ่ลูบปลอบกระหม่อมเขาเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ อามาแล้ว”
รู้สึกถึงความอ่อนโยนบนกระหม่อม เด็กน้อยดูเหมือนว่าจะค่อยๆมีสติขึ้น เสียงของหนุ่มน้อยปนไปด้วยเสียงสะอื้น มือเล็กทั้งสองข้างกอดเข้าที่เอวเขาแน่น “คุณอา......”
ชนุดมเปลี่ยนท่าทางเย็นชาตอนก่อนเดินเข้ามา ย่อตัวลงในระดับเดียวกับเขา สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “กลัวมากเลยใช่หรือเปล่า?”
ธีมนต์นึกย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานทั้งหมด พื้นที่แคบๆในกระท่อมที่ทรุดโทรม และยังมีการคุกคามและการตบตีจากประทิน กะพริบตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา “อื้ม! ผมคิดว่าจะไม่ได้เจอพ่อแม่และอาอีกแล้ว”
ได้ยินเขาพูดคำว่า ‘พ่อ’ ชนุดมก็ไม่สามารถควบคุมความร้อนใจได้ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ไม่ต้องกลัวนะ มีอาแล้วใครก็มาทำร้ายหนูไม่ได้ คนร้ายก็ถูกจับแล้ว” สายตาชนุดมก็จับจ้องไปเห็นรอยช้ำสีม่วงบนหน้าเด็ก อยากลูบแต่กลัวเขาเจ็บ มือใหญ่ค้างอยู่กลางอากาศ “เจ็บไหม?”
เด็กส่ายหัวอย่างเข้าใจ ยิ้มออกมาทั้งๆที่มีหยาดน้ำตา “ไม่เจ็บครับ มีอาอยู่ด้วยผมก็ไม่เจ็บแล้ว!”
ด้านหลัง หลังจากจินต์ได้ยินประโยคนี้ก็หมุนตัวเบาๆ อดไม่ได้ที่จะอยากร้องไห้ รอยฟกช้ำสีม่วงทั้งใหญ่และเล็กนับรวมกันได้เจ็ดแปดที่ ส่ววนมากจะอยู่แถวท้องกับหน้าอก เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นลูกน้องของยัยบ้านั่นเยอะมาก
ชนุดมกัดฟันระงับอารมณ์โกรธในร่างกาย ไม่ให้เด็กกลับไปนึกต่อ “รอยแผลพวกนี้จะกลายเป็นเหรียญรางวัลของธีมนต์ เหมือนกัปตันอเมริกา แล้วก็ยังมีสไปเดอร์แมนที่หนูชอบไง ธีมนต์คือลูกผู้ชาย จึงไม่กลัว ต่อไปนี้เจอเรื่องพวกนี้หนูจะสามารถกลายเป็นยอดมนุษย์ปกป้องคุณแม่ได้”
โทนเสียงช้าและเบาของผู้ชายดังข้างหูจินต์ เธอรู้สึกมาโดยยตลอดว่าผู้ชายอย่างชนุดมนั้นหลักแหลมและอันตรายเกินไป ราวกับว่าไม่มีใครสามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่สุดภายในใจเขาได้ แต่พอได้ยินประโยคนี้เธอก็พบว่า มีเรื่องราวมากมายที่ไม่ใช่อย่างที่คุณเห็น เมื่อเผชิญหน้ากับธีมนต์ ร่างกายของผู้ชายคนนี้นั้น สว่างไสว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...