ตอนที่488 กลับสู่วงการทนายความอีกครั้ง
เตชิตขับรถไปถึงที่ตึกของเตนัทลอว์เฟิร์ม ช่วงปีนี้ธนัทเป็นคนดูแลและขยายกิจการบริษัทได้ดีมาก เดิมทีบนตึกมีสองชั้นหลัก ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกสามชั้น รวมเป็นห้าชั้น
เตชิตจอดรถอยู่โรงรถชั้นใต้ดิน ขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นหนึ่งของเตนัทลอว์เฟิร์ม พอออกจากลิฟต์มา ก็เห็นคนแปลกหน้าสองคนอยู่เคาวเตอร์ต้อนรับ อีกฝ่ายก็มองเขาแปลกๆ มองเขาแต่งตัวแบบนี้และช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ รู้สึกผู้ชายคนนี้แปลกตาไป ยืนขึ้นทักทายโดยไม่รู้ตัว “สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย คุณมาหาใครคะ?”
เตชิตก็พูดชื่อของธนัท สบตากับพนักงานตรงเคาว์เตอร์ต้อนรับ ใครจะพูดชื่อเต็มของธนัทได้......
หนึ่งในนั้นก็ถามขึ้นมาอย่างสุภาพ “คุณผู้ชายคะ สอบถามหน่อยนะคะคุณได้นัดไว้ไหมคะ?”
เตชิตเตรียมจะพูด ทันใดนั้นก้มีพนักงานคนหนึ่งเดินออกมาจากในห้องทำงาน เป็นผู้จัดการระดับกลางที่เคยเป็นลูกน้องของเตชิต เขาเห็นป้ายชื่อที่เปลี่ยนไป ตอนนี้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้ว
เห็นเตชิต เขาดูเหมือนเห็นอะไรที่ผิดปกติ นิ่งไปสักพักก่อนจะค่อยๆมีสติ “ประ ประธานเตชิต?”
เตชิตขมวดคิ้ว “ไม่เจอกันนานเลย ดรณ์”
ดรณ์!?
รองประธานของเตนัทลอว์เฟิร์ม เรียกเขาว่าดรณ์ ยิ่งน่ากลัวก็คือท่าทางที่ดูน่าเคารพของนภนต์ สองสาวที่อยู่ตรงเคาว์เตอร์อึ้งไปเลย คนคนนี้เป็นใครกันแน่?
“ประธานเตชิต มาหาประธานธนัทใช่ไหม?” ดรร์ต้อนรับเขาเข้าไปทันที เห็นท่าทางทั้งสองที่ยังไม่ได้สติ จึงพูดปลอบ “ไม่มีอะไรๆ ทำงานกันต่อเถอะ”
เตชิตถือช่อดอกไม้เดินจากทางเดินในชั้นที่ทำงาน ในบริษัทเตนัทส่วนมากจะเป็นกระจกโปร่งแสง มีเพียงห้องที่นำไปเท่านั้นถึงจะเปิดมูลี่ได้ ดังนั้นเมื่อพนักงานคนเก่าเห็นเขา ทุกคนๆก็โค้งศีรษะให้สามร้อยหกสิบองศา
ใบหน้าของเตชิตไม่ได้แสดงออกอะไร แต่ในใจก็รู้สึกซาบซึ้ง ยังไงครั้งหนึ่งเขาก็เคยดิ้นรนมานาน เคยผ่านอะไรด้วยกันมา จะไม่รู้สึกอะไรเลยก็เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหวนรำลึกความหลัง
ดรณ์พาเขาเข้าไปในห้องประธาน ซึ่งเป็นห้องทำงานของธนัท ไม่รอให้เขาพูดก็ออกมาเองโดยอัตโนมัติ “ประธานเตชิตเข้าไปเถอะครับ ทางผมมีเรื่องยังต้องทำ เดี๋ยวไว้คุยกันนะครับ”
ในฐานะผู้จัดการ ก็ยังมีทัศนวิสัย
เตชิตตบบ่าเขา “เหนื่อยหน่อยนะ”
“เป็นสิ่งที่ควรทำครับ”
เตชิตเคาะประตูห้องทำงาน คนที่มาก็ทักทายธนัทเรียบร้อย คนนี้เดาว่าเป็นเขาแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงออกไปอยู่นาน ขณะที่เตชิตเตรียมจะยกมือเคาะ ประตูตรงหน้าก็เปิดออก เขาก็เปิดแทนเขา “ยินดีต้อนรับ”
เตชิตสุดท้ายก็หัวเราะออกมาเบาๆอย่างอดไม่ได้ “นี่ธนัท ดูเป็นทางการขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ธนัทไม่รอให้เขาพูดจบก็โบกมือขัด “หุ้นส่วนไม่เคยเปลี่ยน นายยังเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในเตนัท มีอำนาจในการอภิปรายอย่างแน่นอน แล้วยังกังวลอะไรอีกล่ะ? เรื่องอื่นฉันก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรนะ ความสามารถของนายฉันก็ไม่เคยกังขา”
พูดถึงตรงนี้ เตชิตก็รู้สึกขอบคุณธนัท ปีนั้นเพราะว่าเขายุ่งกับเรื่องที่นัชชาหนีไปอย่างไม่คาดคิด เขาก็ได้แบกภาระอยู่คนเดียว ไม่เพียงแต่ไม่บ่นเขาแม้แต่คำเดียว ขณะที่เสียไปตั้งมากมาย กลับไม่เคยได้รับหุ้นอภินันทนาการจากเขาเลย
นั่นไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย ไม่ใช่เงินจำนวนที่แน่นอน ซึ่งมีค่าอย่างมหาศาล ฝากอยู่ที่ใครแล้วก็ต้องอยากได้ของ แต่ธนัทก็ยังไม่ใจเต้นเลย
ในเรื่องงาน ธนัทเป็นคนที่มีเหตุผล ในเรื่องเงินทอง เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในคุณธรรม
แต่อย่างไรก็ตามเตชิตก็ยังรู้สึกเสียใจ “ธนัท ที่จริงตอนนี้บริษัทนายก็เป็นคนดูแล ที่ฉันกลับมาก็ไม่ได้อยากเป็นคนสำคัญ เพียงแค่อยากทำงานด้านกฎหมายก็พอแล้ว”
ธนัทดื่มชาอึกหนึ่ง ไม่รู้ก็ถูกลวกปาก คำพูดของเขาทำให้เขาไม่พอใจ ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “เตชิต พวกเราก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัยจนถึงวันนี้ มีเงินหรือไม่มี มีตำแหน่งงานหรือไม่มี นายคิดว่าฉันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้หรอ? หุ้นของนายเยอะที่สุด ของฉันก็ไม่น้อย ฉันไม่อยากได้รับของอภินันทนาการจากนายหรอกนะ สำหรับฉันแค่นี้ก็พอแล้ว เงินมันไม่หมดไปหรอก แต่ยังไงก็ต้องเห็นคุณค่าในตัวเอง นายสมควรได้รับสิ่งที่ดียิ่งกว่า ดังนั้นฉันเลยหวังให้นายกลับมา เข้าใจไหมเนี่ย?”
ในฐานะที่ทำงานด้านกฎหมาย ธนัทจึงเข้าใจความรู้สึกนั้น ทุกๆการเรียนกฎหมาย หรือการทำงานด้านกฎหมาย มันจะมีความรับผิดชอบที่มองไม่เห็นและความกดดันอยู่ตัว เขาก็มั่นใจว่าเตชิตมี ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาหาเขาที่นี่
ความมีน้ำใจของเขา เตชิตรู้สึกถึงได้ ประทับใจมาก “ธนัท ขอบคุณนะ”
ธนัทยกยิ้ม ลุกขึ้นมากระแทกไหล่เบาๆกับเขาสักหน่อย เหมือนครั้งหนึ่งที่เคยทำตอนสมัยเรียน เป็นท่าที่พวกเขาคุ้นชินกันมากที่สุด “นายกลับมาได้ ฉันสิต้องขอบคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...