“คิกคิกคิก.......”
“ว้าว หัวเราะมีความสุขจัง ดารา? รีบมานี่ มาดูสิว่าใครมา?”
เขาเหมือนว่าเล่นมายากลได้ หลังจากที่นำของเล่นชิ้นเล็กที่มีสีสันสดใสชิ้นหนึ่งออกมาจากบนตัว ก็ทำการหลอกล่อเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมา
หนูดาราที่เท้าอ้วนๆ สองข้างกำลังวิ่งเล่นไปทั่วอยู่ในรถหัดเดินอยู่ในเวลานี้ พอได้ยินมีคนเรียกเธอ น้ำเสียงก็ยังคุ้นเคยเล็กน้อย ศีรษะน้อยๆ กลมๆ ของเธอก็หันมามอง
“ว้าวว้าว--”
เธอยังเป็นเด็กทารกอยู่
หลังจากที่เห็นคุณอาคนนี้ที่รู้จัก ทันใดนั้น เดิมทีเธอที่เป็นเด็กชอบยิ้ม พอส่งเสียงร้องดีใจมากดังขึ้นแล้ว เธอก็ใช้เท้าน้อยถีบวิ่งมาหาทางภาสดรทางนี้แล้ว
ภาสดรเองก็ยิ้มระรื่นและนั่งยองลงไป
ชวนเด็กเล่นอยู่สักพักหนึ่ง เดิมทีเขาคิดจะอุ้มเธอแล้วขึ้นไปหาแม่ของเด็กที่ชั้นบนโดยตรง
แต่ในเวลานี้ เส้นหมี่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกสวน กลับเดินเข้ามาแล้ว
“คุณชายภาสดร? มาเช้าจัง?”
เธอมองดูผู้ชายคนนี้ที่มาปรากฏตัวอยู่ที่เดอะวิวซีของพวกเขาแต่เช้าโดยมิได้รับเชิญ หลังจากที่อึ้งเล็กน้อยแล้ว คิ้วสวยๆ ก็ขมวดพันกัน
ภาสดรเห็นว่าคือเธอ หลังจากที่ตัวแข็งทื่อแล้ว ในที่สุด เขาก็ไม่ได้กำเริบเสิบสานขนาดนั้นเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว
“อืม เมื่อวานม็อกโกบอกว่าวันนี้เขาจะไปรับคุณท่านของพวกคุณ ผมมาเพื่อดูว่าจะให้ช่วยเหลืออะไรไหม?”
“อย่างนั้นเอง ไม่ต้องแล้ว เขาไปที่ค่ายทหารเรียบร้อยแล้ว เอ๊ะ? ทำไมเด็กคนนี้ถึงยอมให้คุณอุ้มอยู่ คนที่ดูแลเธอล่ะ? น้าแจ๋ว? น้าแจ๋ว?”
เส้นหมี่หันหน้าแล้วเรียกเสียงดังขึ้นมา
ทันใดนั้นภาสดรคิดอยากจะอธิบาย แต่ในเวลานี้ น้าแจ๋วที่ได้ยินเสียงเรียก ก็ได้รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรคะ? คุณผู้หญิง?”
“น้าไปทำอะไรอยู่? ทำไมปล่อยให้คุณชายภาสดรอุ้มเด็กอยู่ล่ะ? อย่าคิดถึงแต่ทำงานอย่างอื่น ดูแลเด็กถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด คุณชายภาสดรเป็นผู้ชายคนหนึ่งจะเลี้ยงดูเด็กได้อย่างไรกัน?”
ในขณะที่เส้นหมี่กำลังติเตียนอยู่ อีกมือหนึ่งก็ยื่นไปอุ้มเด็กออกมาจากในมือของชายคนนั้น
น้าแจ๋วเห็นแล้วก็รีบยอมรับผิด
จากนั้นเธอก็พาหนูดาราเดินออกไป
ภาสดรถูกกระทำแบบนี้ คนทั้งคนก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทั้งมือทั้งขาก็ไม่รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหนดี
“งั้นผม....”
“ขอโทษทีค่ะ คุณชายภาสดร วันนี้ที่บ้านยุ่งนิดหน่อย ทุกคนไม่ทันได้สนใจเด็กคนนี้ ฉันก็กำลังจัดห้องให้กับคุณท่านของพวกเราอยู่ ในเมื่อคุณชายภาสดรมาแล้ว สนใจจะมาช่วยกันไหมคะ?”
“หา? ไม่ล่ะไม่ล่ะครับ!”
ภาสดรรีบปฏิเสธทันที
ล้อเล่นเหรอ?
นี่เป็นถึงภรรยาของแสนรัก แสนรักเป็นใคร? นั่นคือคนบ้าคนเล็กของตระกูลเทวเทพที่ใครได้ยินชื่อต่างพากันหวาดกลัวไปทั่วทั้งเมืองหลวง เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ? ถึงได้กล้ามาทำงานบ้านกับภรรยาของเขา?
สุดท้ายภาสดรก็ออกไปจากเดอะวิวซีอย่างเหงาหงอย
และเมื่อเขาไปแล้ว สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังก็ได้เรียกคนใช้และหน่วยเอสเอสทั้งหมดในปราสาทมารวมกัน
ไฟโมโหใหญ่ขนาดนี้
เจ้าหนุ่มนี่มาเพื่อหาเรื่องจับผิดสินะ
พระผู้เฒ่าวางถ้วยน้ำชาลง
“โยมบอกมาเถอะ โยมมาหาอาตมามีเรื่องอะไร? คือคิดอยากจะมาถามเรื่องของทศราชใช่หรือไม่?”
ไม่มีใครรู้จักลูกชายได้ดีเท่าพ่อจริงๆ ด้วย
หรือจะพูดว่า เดิมทีเขาก็เป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่ง เพราะว่าความฉลาดของลูกชายที่เกิดออกมาก็มีให้เห็นอยู่ตรงนั้น
แสนรักก็ไม่พูดอะไร แต่ดวงตาทั้งคู่ที่ไม่พอใจมากก็เท่ากับว่ายอมรับแบบเงียบๆ เขามาก็เพื่อเรื่องนี้จริงๆ
พระผู้เฒ่าเห็นเช่นนั้น ในที่สุดก็อุทานออกมา
“ได้ งั้นอาตมาจะเล่าให้โยมฟัง แต่ โยมก็อย่าคาดหวังจนมากเกินไป เพราะว่าสิบปีมานี้ เขาก็ไม่ได้เปิดเผยกับอาตมามาทั้งหมด เขากันอาตมามาโดยตลอด”
“.......ทำไม?
ในที่สุดแสนรักก็ผ่อนคลายลงบ้าง
พระผู้เฒ่ายิ้มแห้งๆ ออกมา: “ประมาณเป็นเพราะว่าอาตมาไม่ค่อยเชื่อฟัง เขารู้สึกไม่ไว้วางใจ ดังนั้น เขาไม่ปล่อยให้อาตมาได้ล่วงรู้เรื่องที่เป็นความลับบางเรื่อง”
“แล้วท่านรู้เรื่องอะไรบ้าง?”
แสนรักจงใจละเลยคำว่า “ไม่ค่อยเชื่อฟัง” เหล่านี้ไป แล้วสอบถามต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
คนที่อายุสามปีแล้วในตอนนั้น อีกทั้งยังเป็นบุคคลในระดับแบบนั้น คนแบบนี้ ถ้าหากไม่เชื่อฟัง แล้วจะเจอกับการปฏิบัติแบบไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก