ในตอนที่แสนรักกลับมาจากวัดวรสานส์ ไชยันต์ได้ถูกม็อกโกรับกลับเดอะวิวซีไปแล้ว
คนคนนี้กลับมา บรรยากาศในเดอะวิวซียิ่งครึกครื้นแล้ว
คนของกระทรวงเก่าเหล่านั้น ยังมีคนของไวท์ พาเลซที่เดิมทียืนอยู่ข้างตระกูลเทวเทพ ต่างมากันแล้ว พวกเขาได้รับข่าวคราวว่าไชยันต์ไม่ได้มีความผิดในที่สุดก็กลับมาแล้ว
ต่างปีติยินดีมารอต้อนรับเขา
จากนั้น เมื่อในที่สุดไชยันต์กลับมาแล้ว ลงจากรถแล้ว ทันใดนั้น ประทัดอันยาวใหญ่ที่ได้เตรียมเอาไว้ที่หน้าประตูเดอะวิวซีตั้งนานแล้ว ก็เริ่มแตกกระจายส่งเสียงดังออกมาแล้ว
“ดีแล้ว ก้าวผ่านตะแกรงไฟอันนี้ไปแล้ว ต่อไปก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ตระกูลเทวเทพของพวกเราก็ยังเป็นเหมือนก่อนเดิมอย่างนั้น”
ด้านล่างของประทัด ยังมีตะแกรงไฟอันหนึ่ง
ในเวลานี้ ประพันธ์ที่ไม่เห็นหน้าค่าตามาเป็นเวลานาน มายืนอยู่ด้านข้างตะแกรงไฟด้วยตัวเอง
มองเห็นน้องชายเดินมาแล้ว เขาจึงหยิบโกฏจุฬาลําพามาหลายกิ่ง สวดคาถาไปด้วย พร้อมทั้งตาแดงๆปัดเป่าไปตามร่างกายของเขาอย่างละเอียดลออ
เหมือนกับว่า ทำแบบนี้ จะทำให้ความโชคร้ายที่อยู่บนร่างกายของน้องชายจากถูกปัดเป่าไปจนหมดสิ้นยังไงอย่างงั้น
ไม่ใช่ น่าจะเป็นตระกูลเทวเทพของพวกเขาต่างหาก
หลังจากที่ได้ผ่านช่วงเวลาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ความจริงแล้วชายชราคนนี้ได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งแล้ว เมื่อก่อนเขายโสโอหังมาก ชอบยุยงให้คนของสมรมณ์วัลย์ขัดต่อคนทางด้านนี้
หลังจากตระกูลเทวเทพได้ล้มลง เขาก็ไม่หลงเหลืออะไรแล้ว
แม้แต่ออกไปหาข้าวรับประทาน ต่างไม่มีใครยินยอมให้เขาแม้แต่คำเดียว
ประพันธ์มองเห็นน้องชายคนนี้ก้าวข้าวตะแกรงไฟไปแล้ว เขาก็รีบร้อนเรียกแขกคนอื่นๆเข้ามา
ไชยันต์เดินเข้ามาด้านใน เป็นธรรมดา มองเห็นคนในกระทรวงเก่ากับเพื่อนสนิทเหล่านั้นและคนอื่นๆ มีการทักทายถามสารทุกข์สุกดิบระหว่างกัน จนแสนรักได้กลับมาแล้ว เขาต่างกำลังพูดคุยกับพวกเขาอยู่ในสวนดอกไม้
“คุณชายเล็กกลับมาแล้ว”
ก็ไม่รู้ว่าใครพูดประโยคนี้ออกมา ทันใดนั้น ในสวนดอกไม้แห่งนี้ก็สงบลงแล้ว
หลังจากนั้น ทุกคนต่างมองไปยังชายหนุ่มคนนี้ที่กำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก
ในพวกเขาเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นครั้งแรก ที่มีคนได้รับการต้อนรับในลักษณะนี้ ทั้งหมดต่างเงียบลง ทุกสายตาต่างมองมาที่เขา ทั้งยังแสดงความเคารพออกมาอย่างที่สุดอีกทั้งให้ความนับถืออย่างมาก
แม้แต่ไชยันต์เอง ยังตั้งใจวางแก้วชาที่อยู่ในมือลง หันหน้าเข้ามา
“คุณกลับมาแล้ว?”
“อืม”
สีหน้าของแสนรักยังคงเย็นชา
ความจริงแล้วเขาไม่ค่อยจะชอบความครื้นเครงเกินหน้าเกินตาอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะตอนนี้ในตอนที่เขาอารมณ์ไม่ดี
ม็อกโกมองออกแล้ว จากนั้นจึงเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ :“พึ่งจะกลับมา คงจะเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ ขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนก่อนเถอะ เดี๋ยวตอนทานข้าว ผมค่อยเรียกคุณ”
“ดี”
สีหน้าของผู้ชายคนนี้แสดงความปล่อยวางออกมาแล้ว
หลังจากนั้น เขาไม่ได้ทักทายคนเหล่านี้ รวมทั้งไชยันต์ ก็เดินขึ้นไปทันที
ไชยันต์เองก็ไม่ได้พูดอะไรเบนสายตากลับมาแล้ว
หญิงสาวที่งานยุ่งมาทั้งวัน เวลานี้ยกสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาให้เขาแล้ว นั่งอยู่ที่ด้านหน้าของเขา นัยน์ตาดำคลับเปล่งประกายสุกใส
ภายในใจของแสนรักยิ่งอบอุ่นจวนจะขาดใจแล้ว
เขานั่งลงแล้ว เริ่มลงมือแล้ว สเต๊กคำแรกที่เขาตัดออกมา ไม่ใช่ให้ตัวเองทาน ทว่ายื่นเข้าไปในปากของหญิงสาวที่กำลังนั่งค้ำคางมองเขาอยู่
“สามีของคุณดีหรือเปล่า?”
“ดีสิ”
“……”
เธอก้มหน้าลงอย่างทำอะไรไม่ได้ เขาเริ่มทานแล้ว
เส้นหมี่นั่งอยู่เป็นเพื่อนเขาที่กำลังทานสเต๊กอย่างสบายใจ คิดไปคิดมา สุดท้ายเธอก็เปิดปากออกมา:“พี่ชาย ฉันอยากจะพูดกับคุณเรื่องหนึ่ง”
แสนรักนิ่งไปสักพัก:“เป็นทางการขนาดนั้นเลย? เรื่องอะไร?”
เส้นหมี่ขมวดคิ้วเป็นปม:“ก็คือภาสดรคนนั้น ฉันจะบอกคุณนะ ฉันรู้สึกว่าเขามีความผิดปกติกับพี่สาว”
“……”
ชายหนุ่มที่กำลังทานสเต๊กอยู่ได้หยุดลงแล้ว
ผิดปกติ?
หมายความว่าอย่างไร?
ดวงตาดำคลับทั้งสองข้างของเขาแสดงความสงสัยออกมา :“ทำไมเหรอ? คุณค้นพบอะไรหรือเปล่า? ภาสดรเป็นเพื่อนร่วมชั้นของม็อกโก ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ค่อนข้างดีนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก