【เส้นหมี่: หนูเย่ เธอรีบดู ด้านล่างของต้นสนที่เธอถ่ายมาเมื่อสักครู่เหมือนจะมีเห็ดอยู่นะ】
【คณาธิป: จริงเหรอคะ?】
【แสงดาว: อยู่ไหนๆ? ฉันดูหน่อย ทำไมเมื่อกี้ฉันถึงไม่เห็นล่ะ?】
หญิงสาวสองสามคนต่างพากันรวมตัวกันอีกครั้ง
และในเวลานี้ แสนรักที่ไม่พูดอะไรมาโดยตลอดก็ปรากฏตัวขึ้นครู่หนึ่งในกลุ่ม
【แสนรัก: ตอนค่ำกินหม้อไฟหัวปลาไม่เลวเลยทีเดียว เอาเห็ดมาหน่อย】
【……】
ระเบิดแล้ว!
ทุกคนต่างเริ่มจับจ้องไปที่เห็ดนั้นทันที
และเชียนหยวนล๋ายเย่ ด้วยความที่ถูก “บังคับ” จึงต้องเริ่มไลฟ์ถ่ายทอดสดการเก็บเห็ดไปด้วย
“ที่รัก คุณรีบมานี้ พี่สาวเธอบอกว่าเห็นอันนี้กินได้ พวกเราเด็ดกลับไปสักหน่อย”
“เหรอ?”
คณาธิปก็เดินมาแล้วด้วย
หลังจากที่เห็นว่าตรงโคนต้นสนมีเห็ดสีเหลืองๆ จำนวนมากขึ้นอยู่จริงๆ เขายื่นมือไปเด็ดมันออกมา จากนั้นก็วางไปตรงหน้ากล้องโทรศัพท์
เส้นหมี่: “พระเจ้า นี่คือเห็ดสน อร่อยมากเลยนะ ลื่นมาก ทำหม้อไฟกินอร่อยที่สุดเลย”
เชียนหยวนล๋ายเย่: “พี่สาว แล้วอันนี้ล่ะ?”
เส้นหมี่: “!!!!”
คือลุกพรวดขึ้นจากบนดาดฟ้าเรือเกือบแทบไม่ทัน!
“เฮเซลนัท!ไม่ได้แล้ว พี่ชาย ฉันก็อยากขึ้นเขา ฉันอยากไปเก็บเห็ด เก็บเฮเซลนัท อันนี้มันสามารถทำเต้าหู้ได้ ไม่รู้จะอร่อยมากแค่ไหน ฉันอยากไป”
แสนรักที่กำลังนั่งตกปลาอยู่ข้างๆ: “.......”
แสงดาวก็ร่วมสนุกด้วย พอเห็นหญิงสาวคนนี้ตื่นเต้นมากขนาดนี้ เธอยิ่งตื่นเต้นคึกคักมากยิ่งขึ้น
“ที่รัก คุณไปไหม? คุณไม่ไปฉันไปเองได้”
“……”
นี่เป็นผู้หญิงแบบไหนกัน?
ดังนั้นในท้ายที่สุด เดิมทีสามคู่สามีภรรยาที่จะแยกกัน ผลคือต่างพากันมารวมตัวกันที่บนภูเขา และเมื่อพวกเขาไปถึงตรงนั้น หลังจากที่ได้เห็นของมีค่าที่สามารถกินได้ขึ้นอยู่เต็มไปทั่วทั้งบริเวณกลางป่า จึงพากันปฏิบัติการเก็บกันขึ้นมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
บ้างก็ถอดเสื้อ บ้างก็เด็ดใบไม้ใบใหญ่ๆ คือแทบทนไม่ไหวที่จะขนเอาสิ่งของในป่าทั้งหมดนี้กลับออกไปด้วย
คณาธิปได้เห็นฉากนี้ มุมปากกระตุกเล็กน้อย
ส่วนหนูเย่นั้นหลังจากที่เห็นทุกคนมากันหมดแล้ว ก็มุดเข้าไปยังโต้ต้นสนนั้นด้วย
“ที่รัก เร็วเข้า พวกเราก็เก็บด้วยสิ ไม่แน่ว่าอาจจะมีของอร่อยมากกว่านี้นะ”
“……”
สุดท้าย คณาธิปเองก็ได้เพียงแค่ก้มลงแล้วมุดเข้าตามสาวน้อยคนนี้ไปด้วย
หนูเย่เห็นเข้า หลังจากที่แอบเหลือบตามองดูพี่เขยคนนี้ ก็เหมือนกับเจ้ากวางน้อยขี้กลัววิ่งมาใช้มือเล็กๆ คว้ากลับไปสองสามกิ่งแล้ววิ่งกลับมาที่ด้านข้างสามีอีกครั้ง
และคราวนี้ หลังจากที่เธอยื่นให้ชายคนนี้แล้ว เธอเห็นว่า เขาก็เอามันทาริมปากแล้วชิมมันจริงๆ
เนื่องจากเวลาเริ่มสายแล้ว และทุกคนก็ได้ผลการเก็บเกี่ยวเยอะมากอีกด้วย ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงเริ่มลงจากภูเขาเตรียมจะไปทำอาหารเที่ยงที่แคมป์ที่พัก
“รัก คืนนี้แสงขั้วโลกจะปรากฏขึ้นกี่โมงเหรอ?”
ในระหว่างทางเดินกลับ จู่ ๆ ม็อกโกก็ถามขึ้น
แสนรักได้ยินยกมือขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ: “ประมาณสักหนึ่งทุ่มกว่า ทำไมเหรอ?”
ม็อกโก: “เปล่า ก็คือยืนยันเวลา พวกเรากินดื่มกันให้อิ่มเอมเต็มที่ก่อนถึงเวลานี้ จากนั้นก็สามารถนั่งลงแล้วเพลิดเพลินไปกับมัน”
ท้ายที่สุดแล้วคนนั้นที่อาวุโสที่สุดในกลุ่มนี้จัดการวางแผนเรื่องต่างๆ ได้รอบคอบและครอบคลุมมาก
ทุกคนต่างพยักหน้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ในตอนนั้นหลังจากที่กลับไปแล้ว กินอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว พวกผู้หญิงก็พักผ่อนกันสักครู่ แล้วก็เริ่มยุ่งวุ่นวายเรื่องของอาหารเย็นกันต่อ และพวกผู้ชายก็กำลังตั้งกล้องโทรทรรศน์และก่อกองไฟ
“ธิป นายไปช่วยรักเถอะ กล้องโทรทรรศน์ของเขานั้นคงจะปรับได้ยาก จำเป็นต้องมีคนกำหนดตำแหน่งที่ถูกต้องในเลนส์ให้กับเขา กองไฟนี้ฉันจัดการเองได้”
ทันใดนั้น ม็อกโกที่กำลังก่อกองไฟอยู่ด้วยกันกับคณาธิป ก็ได้เสนอให้เขาไปช่วยแสนรักทางนั้นที่กำลังทำกล้องโทรทรรศน์อยู่
พอพูดจบ คณาธิปแม้แต่นิ้วมือก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดเล็กน้อย
สีหน้าของเขาแข็งทื่อ หลังใบหูก็รอยแดงปรากฏขึ้นมาชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าสถานที่ที่ให้เขาไปนั้นคือภูเขามีดคือทะเลเพลิงไม่ปาน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถก้าวผ่านก้าวนั้นออกไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก