ในเวลาประมาณหนึ่งวินาที หลังจากเหมือนมีสิ่งของอะไรบางอย่างมาแทงเข้าที่หัวใจของเธอ ความกังวลใจและความรีบร้อนต่างๆที่มีก็หายเข้ากลีบเมฆไปหมดสิ้น เธอยกมือขึ้นและวางสายโทรศัพท์ลง!
ที่แท้ ก็เป็นเธอที่คิดมาไปเอง
ที่แท้ ก็เป็นเธออีกที่ยุ่งวุ่นวาย!
เขาสามารถที่จะบล็อกเบอร์ของเธอได้ จากนั้นมายืนถามอยู่ข้างเลขาคนนี้ด้วยอารมณ์โมโหว่าเขาโทรคุยกับใคร เส้นประสาทเส้นไหนของเธอผิดปกติกันแน่? ถึงได้โง่เง่าคิดว่าเขาจะตกอยู่ในอันตราย?
เส้นหมี่เกลียดถึงขีดสุด ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองไปหนึ่งฉาด!
แต่ เธอยังไม่รู้ โทรศัพท์มาครั้งนี้ อันที่จริงตอนที่เธอเพิ่งจะกดวางสาย โทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่ง แสนรักที่เพิ่งจะเย็บบาดแผลเสร็จ ก็ล้มตึงกลับลงบนเตียงอย่างจัง
แม้แต่จะหายใจก็ไม่ออก
“ท่านประธาน ผม....”
“นาย ... นายจำเอาไว้ ต่อไปนี้ อย่ารับ....สายโทรศัพท์จากเธอ!!”
ผู้ชายที่เหงื่อท่วมศีรษะ เหมือนกับเพิ่งถูกดึงขึ้นมาจากในน้ำ จ้องมองผู้ช่วยคนนี้และกัดฟันกรอด และด่าออกมาทีละคำทีละคำ
เคมีรีบรับปากทันทีด้วยน้ำตาคลอเบ้า
จากนั้นไม่กี่นาที ดลธีก็เข้ามา
“ท่านประธาน วุฒิพลเขาไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่ ท่านฆ่าม็อกกาลูกชายของเขา เขาจะต้องมาจัดการจนที่นี่ราบเป็นหน้ากลองแน่ ๆ ผมเดาว่า ครั้งนี้ที่มาเป็นเพียงแค่....คนมาดูลาดเลาแค่นั้น”
ดลธีมองไปที่ Boss ผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังนอนอยู่นั้นที่แม้แต่แรงจะเงยหน้าก็แทบไม่มี ในใจรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
เขาคาดเดาได้ว่าสงครามครั้งนี้สู้รบได้ยาก
แต่ ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ นี่เพียงแค่สามวัน ดราก้อน แชนท์ของพวกเขาก็ได้รับความสูญเสียมากขนาดนี้แล้ว แม้แต่เจ้านายคนนี้ของเขา ก็ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องนอนอยู่ที่นี่
“ไม่เป็นไร เพียงแค่กาวินไปถึงเมืองหลวง ก็ไม่มีอะไรแล้ว”
ผู้ชายคนนี้นอนพูดอยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้นแล้ว แต่ ในเวลานี้ ตรงริมมุมปากขาวซีดของเขา กลับมองเห็นเป็นรอยยิ้มเลือดเย็นราวกับสัตว์ป่าดุร้าย
ดลธีเห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชาหนังศีรษะ
การแสดงออกทางสีหน้าเช่นนี้ มันช่างน่ากลัวจริงๆ
ตั้งแต่สามวันก่อนที่กาวินออกเดินทาง พวกเขาก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาพาสิ่งของอะไรไปด้วย?
แต่ ในช่วงสามวันมานี้ เจ้านายหนุ่มผู้อยู่ตรงหน้าคนนี้ กลับดูนิ่งสงบเกินกว่าปกติอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับวันนั้นในออฟฟิศหลังจากที่เขาฆ่าม็อกกาแล้ว เรียกพวกเขาเข้าไปเก็บศพอย่างเรียบเฉย ไม่มีความตื่นกลัวแม้แต่น้อย บอกให้พวกเขานำใส่กระสอบขนออกไป เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ชั้นบนสุด ช่วงบ่ายก็ยังคงไปทำงานทั้งครึ่งวันบ่าย
คนอย่างนี้ ช่างน่ากลัวมากจริงๆ
เพราะว่า ใครก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าในใจลึกๆเขากำลังคิดอะไรอยู่ แน่นอนว่า ก็อย่าหวังว่าเขาจะพูดออกมาให้คุณฟัง
หรือว่า เขาต้องการให้กาวินตรงไปบ้านตระกูลเทวเทพเพื่อลอบฆ่าชายแก่คนนั้นเหรอ?
ไอ้หยา!
จู่ ๆ ดลธีก็เกิดความคิดอันน่าตกใจอย่างมากนี้ออกมา คิดแล้วนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย
จากนั้น เขาก้าวเท้าเดินจากไป
“คุณรอผมก่อน” คณาธิปราวกับว่าเสียสติไปแล้ว รีบยื่นมือไปจับเขาไว้ทันที!
“คุณบอกแสนรักว่า ผมมาหาเขา ไม่ใช่มาเพื่อแก้แค้น ผมแค่มาเพื่อให้เขาปล่อยแม่ของผม ถ้าหากเขาตกลง ผมสามารถนำซาจาทั้งหมดมาให้กับเขาได้!”
ผู้ชายคนนี้ คว้าเคมีไว้แน่น พร้อมเสนอข้อเสนอที่ยากจะเชื่อได้นี้ออกมา
เคมีตกตะลึง
เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า? เพื่อแม่แบบนี้ คุ้มค่าเหรอ? เขารู้หรือไม่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของตัวหล่อนเอง แม้แต่ลูกชายแท้ๆคนนี้ก็หักหลังไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง?
เคมีไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง
แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้หัวเราะเยาะเขาอีก แต่หลังจากที่ยื้อดึงแขนหลุดออกมาจากมือของเขาแล้ว เขาก็มองเขาอย่างเรียบเฉย
“คุณกลับไปเถอะ ท่านประธานของพวกเราไม่เคยสนใจซาจาของคุณอยู่แล้ว ที่เขาต้องการ ก็เพียงแค่ชีวิตของคนที่ฆ่าคุณท่านของพวกเรามาชดใช้เท่านั้น”
จากนั้น เคมีก็เดินเข้าไป
ทิ้งไว้เพียงแค่ชายคนนี้ให้ยืนมึนงงอยู่ตรงนั้น เวลาผ่านไปนานมาก เขาไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวใดๆ
อันที่จริงทำไมเขาจะไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะให้เขาช่วยชีวิตเธอ
เธอทำเรื่องเลวร้ายไว้กับเขามากมาย เธอบอกว่าทำเพื่อหวังดีต่อเขา แต่ ทุกเรื่องที่เธอทำนั้น กลับเห็นเขาแค่หมากที่ไม่ต่างอะไรกับหมากตัวอื่นๆของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก