มองดูฉีเทียนเห้าที่สวมหน้ากากายืนอยู่ท่ามกลางฝูงคน เจ้าเมืองเกอเฉิงฮุยจำต้องฝืนใจ เคาะไม้ปลุกสติ ตะโกนตามขึ้นตอนว่า
“ทหาร เบิกตัวผู้กล่าวหา”
แต่หลังจากที่ตะโกนเสร็จแล้ว จู่ๆท่าทีเกอเฉิงฮุยก็ชะงักงัน ตอนนี้เขาเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ตนเองไม่รู้ว่าผู้กล่าวหาคือใคร
เวลาสามวัน เขามัวแต่คิดหาหนทางส่งข่าวออกไป หรือหลบหนีจากการเปิดศาลในครั้งนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้ไปถามว่าผู้กล่าวหาว่าคือใคร หรือพูดว่า เขาลืมที่จะถามแล้ว
แม้กระทั่ง มู่กุ้ยผิงที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่รู้
คิดถึงพวกนี้แล้ว สีหน้าเกอเฉิงฮุยย่ำแย่มาก
ในความเงียบ เกอเฉิงฮุยหันไปมองฉีเทียนเห้า แต่ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ฉีเทียนเห้าไม่ได้มองเกอเฉิงฮุยเลย
ทันใดนั้นเกอเฉิงฮุยรู้สึกเหมือนขี่หลังเสือแล้วลงยาก
วันนี้ด้านนอกศาลมีคนล้อมมองดูอยู่ไม่น้อย นี่หากไม่มีผู้กล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหา ตนเองที่เป็นเจ้าเมืองไม่กลายเป็นตัวตลกหรือ?
ยิ่งคิด เกอเฉิงฮุยก็ยิ่งรู้สึกทรมาน สักพักด้านหลังก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ในขณะที่เกอเฉิงฮุยคิดว่าวันนี้ตนเองจะต้องกลายเป็นตัวตลก ลั่วเสี่ยวปิงจูงมืออานอาน ค่อยๆเดินฝ่าฝูงคนออกมา
“ข้าน้อยถวายบังคมใต้เท้า” ลั่วเสี่ยวปิงพาอานอานคุกเข่าทำความเคารพ
อย่าถามนางว่าทำไมในฐานะที่เป็นวิญญาณคนยุคปัจจุบันคนหนึ่ง แล้วคุกเข่าได้อย่างสบายใจขนาดนี้
นางเพียงแค่บอกกับตนเองก่อนหน้านี้ว่า ทุกอย่างตรงหน้าตอนนี้เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
ตอนนั้นถึงแม้นางจะเป็นเพียงนักแสดงมือสมัครเล่นคนหนึ่ง แต่ความเป็นมืออาชีพนั้นไม่ได้สมัครเล่น ดังนั้นขอเพียงนางบอกกับตนเองว่าทุกอย่างตรงหน้าเป็นเพียงการแสดง ในใจก็จะไม่มีความกดดันแม้เพียงนิด
แต่ว่า ลั่วเสี่ยวปิงไม่มีความกดดันอะไรในใจ ท่าทีฉีเทียนเห้ากลับไม่พอใจขึ้นมา ดวงตาหรี่ลงมองดูเกอเฉิงฮุย ราวกับจะการแล่เนื้อเถือหนังเกอเฉิงฮุยได้ทุกเมื่อ
เกอเฉิงฮุยรู้สึกชาไปทั้งหลัง หันไปมองดูแหล่งที่มาของความอันตรายอย่างไม่รู้ตัว เมื่อสบกับสายตาฉีเทียนเห้า เกอเฉิงฮุยรู้สึกราวกับวินาทีต่อไปหัวตนเองจะขาด ตกใจจนแทบนั่งไม่ติด
เมื่อกำลังคิดอยู่ว่าตนเองทำอะไรผิดตรงไหน ในที่สุดฉีเทียนเห้าก็หันสายตาไปทางอื่น เกอเฉิงฮุยค่อยโล่งอก
จากตื่นตระหนกตกใจแล้ว เมื่อเกอเฉิงฮุยหันมามองลั่วเสี่ยวปิงสองแม่ลูกอีกครั้ง ก็รู้สึกว่าสองแม่ลูกคู่นี้แลดูพอใจอย่างบอกไม่ถูก
แน่นอนว่า ก็เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดีของลั่วเสี่ยวปิงกับอานอาน
“เจ้าคือผู้กล่าวหา?” เกอเฉิงฮุยรวบรวมสติแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าชื่อแซ่อะไร? จะฟ้องร้องใคร? มีเอกสารฟ้องร้องไหม?”
เมื่อถามคำถามแล้ว เกอเฉิงฮุยค่อยมีความรู้สึกว่าดีขึ้น แสดงถึงความมีอำนาจ
ลั่วเสี่ยวปิงฟังแล้ว ก็พูดตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ข้าน้อยแซ่ลั่ว ฟ้องนายท่านจางจางไฉจือเมืองหลินอานเมืองซีเหอ ลักพาตัวลูกชายของข้ามาขายก่อน แล้วก็ลักพาตัวข้ามาขายด้วย”
“จากนี้แล้ว ข้าน้อยยังฟ้องผู้ซื้อมาร์ควิสแห่งกวงอันมู่กุ้ยผิง ร่วมมือกับจางไฉจือ ลักพาตัวผู้หญิงและเด็ก”
พูดเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็ล่วงเอาเอกสารยื่นฟ้องออกมา
เอกสารยื่นฟ้องฉบับนี้ฉีเทียนเห้าให้นางบนรถม้า สิ่งที่ไม่เหมือนกับที่นางพูดก็คือ บนเอกสารยื่นฟ้องไม่ได้พูดถึงว่านางก็ถูกลักพาตัวมาขาย
ลั่วเสี่ยวปิงพูดออกมา สีหน้าเกอเฉิงฮุยแข็งทื่อ ความรู้สึกดีๆที่มีต่อลั่วเสี่ยวปิงทั้งสองแม่ลูกเมื่อกี้ มลายหายสิ้นหมด
สองแม่ลูกนี้ตั้งใจจะส่งเข้าไปตาย เขาจะรู้สึกดีได้อย่างไร
หากเกิดอะไรขึ้นกับมาร์ควิสแห่งกวงอันภายใต้เงื้อมือของเขา คนที่อยู่ข้างบนพวกนั้นไม่มีทางปล่อยไปสักคน
เกอเฉิงฮุยทั้งโกรธทั้งโมโห อยากที่จะลากลั่วเสี่ยวปิงออกไปตีตาย
แต่เพราะมีฉีเทียนเห้าอยู่ด้วย เกอเฉิงฮุยไม่กล้าลงมือ
คำพูดที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดพวกนี้ กลับสร้างความโกลาหลแก่ผู้มาล้อมมุงดู
“โอ้พระเจ้า หญิงคนนี้จะฟ้องคนอย่างมาร์ควิสแห่งกวงอัน ไม่กลัวตายหรือ?”
แน่นอน ผู้คนที่มาล้อมมองดู นอกจากสนใจคดีแล้ว สิ่งที่สนใจที่สุดคือลั่วเสี่ยวปิง
สายตาทุกคนที่มองดูลั่วเสี่ยวปิง ราวกับกำลังมองดูคนบ้า มีบางสายตาถึงขั้นมองดูอย่างดูถูก
ยังไงยุคสมัยนี้ สำหรับผู้หญิงไม่ได้มีความเที่ยงธรรมขนาดนั้น ลั่วเสี่ยวปิงถูกลักพาตัวมาขาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ เมื่อเดือดร้อนมาถึงที่ทำการปกครอง ชื่อเสียงก็ถือว่าเสื่อมเสียแล้ว
ทำไมจะต้องทำแบบนั้น?
ฉีเทียนเห้าก็ขมวดคิ้ว ตอนที่อยู่บนรถม้าเขาก็บอกแล้ว ให้ลั่วเสี่ยวปิงเป็นผู้เดือดร้อน ฟ้องมู่กุ้ยผิงที่ลักพาตัวอานอานมาขาย ไม่ได้ให้นางเอาตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
มองดูสายตาพวกนั้นที่มองดูนางอย่างแปลกประหลาด ฉีเทียนเห้ารู้สึกโกรธจัด มีความรู้สึกอยากควักลูกตาออกมา
แต่ที่ฉีเทียนเห้าโกรธ คือสายตาแปลกประหลาดที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงพวกนั้น ไม่ใช้ลั่วเสี่ยวปิง
เพราะฉีเทียนเห้ารู้ ลั่วเสี่ยวปิงเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตนเองคนหนึ่งมาตลอด นางไม่ใช่เป็นเหมือนอย่างนกในกรงทอง
ดังนั้น ต่อให้ไม่เห็นด้วย แต่ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของลั่วเสี่ยวปิง ฉีเทียนเห้ายังคงให้ความสนับสนุน
ส่วนเรื่องชื่อเสียงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาทีหลัง? เชอะ มีเขาอยู่ เขาไม่มีทางยอมให้ใครมาทำลายลั่วเสี่ยวปิงเด็ดขาด
คำพูดลั่วเสี่ยวปิงพูดออกมากระตุ้นอย่างคลื่นพันชั้น ข้างนอกศาลคึกคักขึ้นมาทันที ส่วนในศาลสีหน้าเกอเฉิงฮุยกลับขาวซีดไร้เลือดฝาด
เขาราวกับสามารถคาดเดาถึงจุดจบของตนเองได้ว่า จบเฮแล้ว
ตอนนี้เขายิ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชมในหมู่ประชาชนมากเท่าไหร่ อนาคตของเขาก็จะจบลงเร็วเท่านั้น
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะ......
สายตาเกอเฉิงฮุยหันไปมองฉีเทียนเห้า แต่ไม่กล้ามองฉีเทียนเห้านาน มองผ่านฉีเทียนเห้า หันมามองลั่วเสี่ยวปิง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ล้วนเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำร้ายเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...