ฉีเทียนเห้ามองดูลั่วเสี่ยวปิง มองดูท่าทีลั่วเสี่ยวปิง ก็พอคาดเดาได้ว่าในใจลั่วเสี่ยวปิงคิดอะไรอยู่ จึงพูดขึ้นว่า “ข้าเคยช่วยชีวิตเซี่ยงเซียวเซียนในสนามรบ เขาติดหนี้บุญคุณข้า”
คำพูดนี้ไม่ถือว่าเป็นการโกหก
ใช่ว่าเขาไม่อยากบอกสถานะของตนเองให้นางรู้ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา
ตอนนี้ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง คนที่รู้ถึงสถานะของเขายิ่งน้อยก็ยิ่งดี
ได้ยินฉีเทียนเห้าพูดเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ยิ่งสงสัยสถานะของฉีเทียนเห้าเพิ่มมากขึ้น
ในสนามรบ นั่นก็แสดงว่า ฉีเทียนเห้าอาจจะเป็นแม่ทัพคนหนึ่ง
ได้รับอิทธิพลจากการศึกษาภายใต้ธงชาติแดง ลั่วเสี่ยวปิงเคารพและให้เกียรติคนที่เป็นทหารอย่างมาก ดังนั้นแววตาที่มองดูฉีเทียนเห้า ก็เป็นประกายแวววาวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ฉีเทียนเห้ามองดูท่าทีที่เปลี่ยนไปของลั่วเสี่ยวปิง ด้วยสายตาฉายแววสงสัย
คำตอบของตนเองมีปัญหาตรงไหนหรือ?
ฉีเทียนเห้าไม่ถามอะไร เพราะในแววตาลั่วเสี่ยวปิงตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่อยากละสายตาอย่างบอกไม่ถูก
มีความรู้สึกเหมือนอยากโอบกอดแนบอก
คิดอยู่เช่นนี้ ฉีเทียนเห้าก็อยากทำเช่นนี้
แต่....
“แม่ เราจะกลับเมื่อไหร่?” อานอานที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นมา
ถึงแม้อานอานกำลังถามลั่วเสี่ยวปิง แต่สายตากลับหันไปมองฉีเทียนเห้า ขมวดคิ้วบอมบอกว่าเวลานี้เขาไม่พอใจ
เมื่อกี้เขามองเห็นแล้ว สายตาที่พ่อมองแม่ ราวกับสุนัขในหมู่บ้านเวลามองเห็นเนื้อกระดูก
แม่เป็นของเขา นอกจากเล่อเล่อ ใครก็ห้ามแย่งเขา
คิดอยู่เช่นนี้ อานอานหลบสายตา หันไปมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสีหน้าโศกเศร้า พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ข้าคิดถึงน้องสาวแล้ว น้องสาวไม่เห็นพวกเราตั้งหลายวันจะต้องทรมานอย่างมากแน่ เราไปซื้อของไปฝากน้องแล้วก็กลับกันไหม?”
ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ความเคลื่อนไหวระหว่างพวกเขาสองพ่อลูก เมื่อได้ยินอานอานพูดเช่นนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ฟัง
ในเมื่อเรื่องราวคลี่คลายแล้วระดับหนึ่ง นางก็ควรที่จะรีบกลับไป
แต่ยังไงก็มาถึงเมืองใหญ่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปมือเปล่า นางอยากไปดูร้านขายเมล็ดพันธุ์ว่ามีเมล็ดพันธุ์อะไรที่ดีไหม
ดังนั้นรถม้าจึงเปลี่ยนเส้นทาง วิ่งไปยังในตลาด
ตลอดทาง อานอานที่เงียบสงบมาตลอด จูงมือลั่วเสี่ยวปิงแล้วก็ซื้ออย่างเดียว แน่นอน ล้วนเป็นสิ่งของที่เลือกซื้อให้กับเล่อเล่อ
ส่วนฉีเทียนเห้าที่เดินตามอยู่ด้านหลังสองแม่ลูก นอกจากสามารถช่วยหิ้วของแล้ว ก็ราวกับถูกลืมไปแล้ว นี่ทำให้ฉีเทียนเห้ามองดูอานอาน ที่เป็นตัวการของปัญหาด้วยความรู้สึกกัดฟันพูดไม่ออก
แต่เมื่อคิดได้ว่าเจ้าเด็กนั่นอาจจะเป็นลูกของตนเอง ความไม่พอใจในใจฉีเทียนเห้าก็ถูกยับยั้งลงไป
รอพวกลั่วเสี่ยวปิงกับอานอานกลับมาถึงหมู่บ้านต้าซิง ก็เป็นหลังเที่ยงวันที่สองแล้ว
เพราะที่บ้านลั่วเสี่ยวปิงไม่มีคน หลายวันมานี้พวกชาวบ้านก็ไม่มีรายได้ ดังนั้นตรงหน้าหมู่บ้านก็จะมีคนมาคอยดูว่าลั่วเสี่ยวปิงกลับมาหรือยัง
ดังนั้นเมื่อรถม้าพวกลั่วเสี่ยวปิง มาหยุดตรงหน้าบ้านของตนเอง ก็มีคนในหมู่บ้านล้อมมาหาไม่น้อย
“อ้า ขอบคุณฟ้าดิน อานอานกลับมาแล้ว” มีคนเห็นอานอานแล้วก็ร้องตะโกนพูดขึ้น
“ได้ยินว่าอานอานถูกนายท่านจางในเมืองลักพาตัวไป นายท่านจางคนนี้เหี้ยมโหดอำมหิตจริงๆ แต่อานอานสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย จะต้องมีบุญวาสนาในภายหลังอย่างแน่นอน”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินว่ามีเด็กคนไหน ที่ถูกลักพาตัวไปแล้วยังสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
“……”
ทุกคนต่างพูดกันไปมา ส่วนใหญ่ล้วนดีใจยินดีกับอานอาน
หากเป็นเมื่อก่อน คนในหมู่บ้านแทบจะไม่สนใจลั่วเสี่ยวปิงสามแม่ลูก แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ลั่วเสี่ยวปิงทำให้คนในหมู่บ้านมีรายได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นทุกคนจึงเป็นห่วงเป็นใหญ่พวกเขาขึ้นมา
อานอานพูดพร้อมกับหันไปมองฉีเทียนเห้า จากนั้นก็หันหน้าไปอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาเป็นคนช่วยข้าไว้”
ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเล่อเล่อก็หยุดไหล สายตาที่หันไปมองฉีเทียนเห้า เต็มไปด้วยความชื่นชม
“พ่อ ต่อไปข้าจะตั้งไจเรียนฝีมือการต่อสู้กับเจ้า” ต่อไปหากมีคนร้ายกล้ามาแย่งพี่ชายไป ข้าก็จะต่อยเขา
ได้ยินเล่อเล่อเรียกตัวเองว่าพ่อ ในใจฉีเทียนเห้ามีความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้น
เมื่อมองดูใบหน้าของเล่อเล่ออย่างละเอียด นอกจากดวงตาคู่นั้นที่ค่อนข้างเหมือนตนเอง อย่างอื่นเหมือนลั่วเสี่ยวปิงไม่มีผิด
คนนี้ คือลูกสาวของเขา
ตามความคิดภายในใจ ฉีเทียนเห้าเอื้อมมือไปอุ้มเล่อเล่อมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี ต่อไปเล่อเล่อต้องตั้งใจนะ”
ฉีเทียนเห้าไม่ใช่คนที่มีความคิดเห็นว่าผู้หญิงก็ควรที่จะเป็นกุลสตรี ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธการที่เล่อเล่ออยากจะเรียนฝีมือการต่อสู้
มองดูปฏิกิริยาระหว่างฉีเทียนเห้ากับเล่อเล่อ ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเหมือนสองคนนี้ เหมือนเป็นพ่อลูกกันจริงๆ
การกลับมาของลั่วเสี่ยวปิง เป็นที่รู้กันไปทั่วในไม่ช้า จางเฉินซื่อกับพวกผู้ใหญ่บ้าน ต่างก็มาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย
หลังจากรู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่เป็นไรแล้ว ทุกคนต่างก็โล่งอก
แต่ก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะกลับไป ลั่วเสี่ยวปิงกลับเรียกเขาไว้
“คุณปู่ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนหน้านี้เรื่องที่คนในหมู่บ้านช่วยข้าตามหาอานอาน ข้าอยากขอบคุณพวกเขา” ลั่วเสี่ยวปิงไม่ชอบติดหนี้บุญคุณคนอื่น บวกกับอุปนิสัยใจคอของคนที่ยอมช่วยนางตามหาคนก็คงจะไม่เลว ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงเตรียมที่จะใช้การกระทำเพื่อเป็นการขอบคุณ
จางเต๋อหวั่งได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดเช่นนี้ ก็รีบโบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า “ทุกคนต่างเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เด็กหายตัวไปแล้วช่วยกันตามหาเป็นสิ่งที่สมควร เจ้าไม่ต้องเกรงใจ”
จางเต๋อหวั่งรู้สึกว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในตอนนี้ ดีกว่าเมื่อก่อนล้วนเป็นความดีความชอบของลั่วเสี่ยวปิง ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะให้ลั่วเสี่ยวปิงเสียตังอีก
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ กลับส่ายหัว
“คุณปู่ผู้ใหญ่บ้าน ข้าเองก็มีความต้องการส่วนตัว เจ้าฟังข้าพูดจบก่อนดีไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...