ได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดเช่นนี้ ในใจจางเต๋อหวั่งก็รู้สึกแปลกใจ จึงให้ลั่วเสี่ยวปิงพูดความคิดของนางออกมา
“ข้าอยากให้คนในหมู่บ้านช่วยข้าปลูกผัก” ลั่วเสี่ยวปิงพูดขึ้น
จางเต๋อหวั่งได้ยินเช่นนี้ ก็พูดขึ้นทันทีว่า “เรื่องปลูกผักไม่ใช่เรื่องใหญ่ รอเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิให้พวกเขามาช่วยก็พอแล้ว แต่ว่าเจ้าจะเอาผักเยอะขนาดนั้นไปทำอะไร?”
จางเต๋อหวั่งคิดได้อยู่แล้วว่าจะเอาไปขาย แต่ผักราคาถูกมาก แทบทุกบ้านล้วนมีการปลูกผัก ปกติหากทานไม่หมดก็จะเอาไปขายในเมือง แต่ก็ขายได้ไม่คิดตังค์
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินจางเต๋อหวั่งพูดเช่นนี้ ก็รู้ว่าเขาเข้าใจผิดแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “คุณปู่ผู้ใหญ่บ้าน ข้าอยากให้พวกเขาช่วยข้าปลูกผักในฤดูหนาว”
นางอยากเปิดร้านขายผักและผลไม้นอกฤดู
นางคิดดีแล้ว ในช่วงฤดูหนาวให้ทุกคนช่วยปลูกผัก ฤดูใบไม้ผลิมีผักเยอะแล้ว นางยังสามารถให้พวกชาวบ้านช่วยปลูกยาสมุนไพร ปลูกพริก
ไม่ว่ายังไง ล้วนเป็นเรื่องที่ดีทั้งสองฝ่าย
ส่วนเสื่อน้ำมันที่ต้องใช้สร้างโรงเรือนกระจก ถึงแม้ตอนนี้โอหยางฉี่หยู่ยังไม่มีคำตอบ แต่ดูจากท่าทีของโอหยางฉี่หยู่ โอหยางฉี่หยู่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ดังนั้นเรื่องที่จะหาเสื่อน้ำมันมาได้นั้นไม่ช้าก็เร็ว
ไม่อย่างนั้น หากปีนี้โอหยางฉี่หยู่หาเสื่อน้ำมันที่นางอยากได้แบบนั้นมาไม่ได้ ก็สามารถให้พวกชาวบ้านช่วยปลูกพวกเห็ดต่างๆ เร็วร้ายที่สุดก็สอนพวกเขาปลูกถั่วงอกในฤดูหนาว ยังไงก็ไม่ให้พวกเขาได้ว่าง
ลั่วเสี่ยวปิงคิดดีแล้ว แต่จางเต๋อหวั่งฟังแล้วกลับตกตะลึงจนตาค้าง
หากไม่ใช่เพราะช่วงนี้เห็นว่า ลั่วเสี่ยวปิงเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดเป็นของตนเอง เขาคงจะสงสัยแล้วว่าลั่วเสี่ยวปิง เสียสติหรือเปล่า
ไม่อย่างนั้นการปลูกผักในฤดูหนาวถือเป็นเรื่องเพ้อฝัน ลั่วเสี่ยวปิงพูดออกมาได้อย่างไร?
“เสี่ยงปิง เรื่องนี้ เจ้าคิดดีแล้ว ดีแล้วหรือหรือ?” จางเต๋อหวั่งอยากมั่นใจว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้กำลังพูดเล่น
“คุณปู่ผู้ใหญ่บ้าน ท่านวางใจ ข้ามีวิธีทำให้พวกชาวบ้านสามารถปลูกผักในฤดูหนาวได้” มองเห็นถึงความไม่เชื่อมั่นของจางเต๋อหวั่ง ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มหัวเราะพูดรับประกัน อยากให้จางเต๋อหวั่งมั่นใจ
หลังจากจางเต๋อหวั่งได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดเช่นนี้ มองดูความตั้งใจในสายตาลั่วเสี่ยวปิง จางเต๋อหวั่งที่ผ่านประสบการณ์อะไรต่างๆมามากมาย ก็ยังยากที่จะยับยั้งความตื่นตระหนกตกใจภายในใจไว้ได้
ผู้ชายของเสี่ยวปิง มีสถานะเป็นอะไรกันแน่? การปลูกผักในฤดูหนาวก็ยังสามารถสอนเสี่ยวปิง?
ฤดูหนาวยังสามารถปลูกผักได้ แล้วยังจะมีอะไรที่เขาทำไม่เป็น?
เห็นได้ชัดว่า จางเต๋อหวั่งเอาผลงานทั้งหมดยกให้กับฉีเทียนเห้า ยังไงลั่วเสี่ยวปิง ก็เคยพูดว่าความสามารถของตนเองล้วนเป็นพ่อของลูกเป็นคนสอน
ไม่อย่างนั้น จางเต๋อหวั่งจะเชื่อได้อย่างไรว่า จู่ๆลั่วเสี่ยวปิงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาตลอด จะมีความสามารถมากมายขนาดนี้?
แต่ถึงแม้ในใจจางเต๋อหวั่ง จะสงสัยสถานะของฉีเทียนเห้า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
อายุมากขนาดนี้แล้ว อะไรควรทำอะไรไม่ควรถามก็พอรู้อยู่ บางครั้งการที่หลับหูหลับตากับเรื่องบางอย่างถึงจะทำให้มีชีวิตที่ยืนยาว
ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ความคิดภายในใจของจางเต๋อหวั่งในตอนนี้ แน่นอนว่าต่อให้นางรู้นางก็ไม่กลัว
ยังไงสำหรับนาง พ่อของลูกที่นางพูดถึงในตอนนั้น ไม่มีทางปรากฏตัวและไม่มีตัวตนอยู่จริง ต่อให้พวกชาวบ้านเอาความสามารถทั้งหมดของตนยกให้กับฉีเทียนเห้าแล้วยังไง?
ก็แค่ให้ฉีเทียนเห้า ช่วยตอบรับเรื่องนี้เสียก็จบ
หลังจากจางเต๋อหวั่งรู้ว่าเบื้องหลังความสามารถของลั่วเสี่ยวปิงมาจากฉีเทียนเห้า ก็ไม่สงสัยในตัวเขา ตอบรับเรื่องนี้มา
“เรื่องนี้ข้าจะบอกแก่ชาวบ้าน ส่วนทุกคนจะตอบตกลงหรือไม่นั้นข้าไม่บังคับ” การปลูกผักในฤดูหนาวสำหรับตนเองยังถือเป็นเรื่องเพ้อฝัน แล้วพวกชาวบ้านล่ะ?
ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้ เขาไม่ค่อยเห็นด้วย
ลั่วเสี่ยวปิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณปู่ผู้ใหญ่บ้านพูดกับพวกเขาก็พอ หากบ้านไหนยินยอมที่จะมาปลูกผักกับข้า ก็ให้พวกเขามาหาข้าก็พอ”
แต่ร่างกายที่อยู่บนเตียงนั้นกลับไม่ขยับเขยื้อน ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่มั่นใจว่า ฉีเทียนเห้าหลับไปแล้วหรือยัง ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกค่อนข้างลังเล
“มีอะไรจะถามหรือ?”
จู่ฉีเทียนเห้าก็พูดขึ้นมา จนลั่วเสี่ยวปิงตกใจ
เวลานี้ ฉีเทียนเห้าลุกขึ้นมันนั่งอยู่บนเตียง มองดูลั่วเสี่ยวปิงผ่านความมืด
“คือ ข้าอยากถามเรื่องมาร์ควิสแห่งกวงอัน” ลั่วเสี่ยวปิงคิดดูแล้ว ยังคงพูดความเป็นกังวลในใจออกมาว่า “เมื่อวานมาร์ควิสแห่งกวงอัน มีตัวแทนมารับผิดแทน แล้วหลุดพ้นความผิดไป จะกลับมาแก้แค้นพวกเราไหม?”
ลั่วเสี่ยวปิงไม่สงสัยเลยสักนิด คนที่ขันทีคนนั้นพามาคือตัวแทนแพะรับบาป ตอนนี้มาร์ควิสแห่งกวงอันเป็นเหมือนดั่งปล่อยเสือกลับภูเขา เมื่อตั้งตัวได้แล้ว ก็จะต้องกลับมาแก้แค้นพวกเขา
เพราะคนที่ยิ่งโหดเหี้ยมอำมหิต ความคิดแก้แค้นก็ใจยิ่งหนักหนา
หากมาร์ควิสแห่งกวงอันจะลงมือกับพวกเขาจริงๆ นางก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะรับมือได้อย่างไร?
ต่อให้ฉีเทียนเห้าเป็นแม่ทัพคนหนึ่ง แต่ก็มีประโยคหนึ่งกล่าวว่า คนอ่อนแอสู้คนที่มีอำนาจไม่ได้ ไม่ใช่หรือ? มาร์ควิสแห่งกวงอันเป็นน้องชายของฮองเฮา เขาเป็นแม่ทัพคนหนึ่งจะรับมือยังไง?
เมื่อคิดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
ฉีเทียนเห้าฟังลั่วเสี่ยวปิงพูดเช่นนี้ ดวงตาฉายแววเป็นประกาย เพราะในห้องมืดมาก ลั่วเสี่ยวปิงจึงมองไม่เห็น
ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังวิตกกังวล ฉีเทียนเห้ากลับพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “วางใจ ต่อให้เขาอยากแก้แค้นก็ไม่สามารถทำได้”
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้แล้วก็เงยหน้ามองฉีเทียนเห้า นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ
คำพูดของฉีเทียนเห้า แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งหรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...