แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 140

จู่ๆฉีเทียนเห้าก็พูดขึ้นมา ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกประหลาดใจ

หอว่านเซียง?

ที่อยู่ตรงข้ามหอฝูหม่านไม่ใช่หรือ ร้านอาหารอันดับหนึ่งในเมืองต้าซิงก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ?

หอว่านเซียงในตอนนี้เพราะตอนนี้ธุรกิจหอฝูหม่านรุ่งเรืองขึ้นมา สถานการณ์ไม่เหมือนเมื่อก่อน ถือเป็นอันดับสองของเมืองต้าซิง

แต่ร้านอาหารแบบนี้ ทำไมฉีเทียนเห้าจะต้องพูดเตือนตนเองว่าไม่ต้องไปเผชิญหน้าโดยตรง?

ตามหลักแล้ว ตนเองก็ไม่ไปหาหอว่านเซียงอย่างแน่นอน ส่วนฉีเทียนเห้าก็ไม่มีทางที่จะพูดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล

นอกเสียจาก หอว่านเซียงไม่ได้ธรรมดาเหมือนอย่างที่นางคิด

มองเห็นท่าทีประหลาดใจของลั่วเสี่ยวปิง ฉีเทียนเห้าให้ลูกทั้งสองกลับห้องไปก่อน

ลูกทั้งสองมองดูท่าทีของผู้ใหญ่ทั้งสองคนแล้ว รู้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องจะคุยกัน จึงเข้าห้องไปอย่างว่าง่าย

รอเมื่อลูกทั้งสองไปแล้ว ฉีเทียนเห้าค่อยพูดขึ้นว่า “หอว่านเซียงเป็นกิจการของพ่อค้าราชวงศ์ตระกูลฮัว”

พ่อค้าราชวงศ์ ?

ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว ฟังดูแล้วและดูมีอำนาจมาก แต่นางไม่ใช่คนในยุคนี้ จึงไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ รู้เพียงว่าเป็นสินค้าที่ส่งให้กับราชวงศ์โดยเฉพาะ แต่พวกเขามีอำนาจขนาดไหน นางไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์จริงๆ

“ระหว่างตระกูลฮัวกับโอหยางฉี่หยู่ ค่อนข้างมีปัญหากัน ครั้งนี้เจ้าช่วยเหลือโอหยางฉี่หยู่ ตระกูลฮัวจะต้องคิดแค้นเจ้าแน่”

ฉีเทียนเห้าอธิบายให้ลั่วเสี่ยวปิงฟัง หวังว่าลั่วเสี่ยวปิงจะคอยระวังตัวไว้บ้าง

ยังไงคนตระกูลฮัวพวกนั้น หากลงมือขึ้นมา จะไม่เป็นการดีแน่

ลั่วเสี่ยวปิงฟังแล้วกลับขมวดคิ้ว มองดูฉีเทียนเห้า แล้วถามขึ้นว่า “เจ้าหมายความว่า ข้าไม่ควรช่วยโอหยางฉี่หยู่หรือ?”

นางไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตนเองจะหาคนมาร่วมทำธุรกิจ ยังจะต้องดูสีหน้าคนอื่น ต่อให้อีกฝ่ายคือพ่อค้าราชวงศ์ก็ตาม

นางรู้เพียงว่า โอหยางฉี่หยู่คือคนที่นางรู้สึกว่าไม่เลว สามารถทำธุรกิจร่วมกันได้ เพียงเท่านั้น

แต่หากเพราะกลัวแล้วหยุดทำความร่วมมือ ในใจของนางก็จะไม่สบายใจ

ต่อให้นางรู้ว่าความคิดของนางเช่นนี้ ไม่เหมาะสมกับในยุคสมัยนี้ แต่จิตวิญญาณของนาง ยังไงก็ไม่ใช่คนในยุคสมัยนี้ ชาติที่แล้วก็ถือว่าเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นจึงไม่มีทางเพียงเพราะอำนาจใหญ่กว่าแล้วกระทำเรื่องที่ตนเองไม่สบายใจ

นางรู้ว่าความคิดของตนเองเช่นนี้บางทีอาจจะทำให้นางเดือดร้อน

แต่บนทางเดินชีวิตคน มีใครไม่พบเจอกับความเดือดร้อนต่างๆนานาบ้าง?

พบกับความเดือดร้อน นางไม่เคยคิดที่จะหลบหนี

การหลบหนีไม่ใช่ลักษณะการกระทำของนาง การเผชิญหน้า จากนั้นก็แก้ปัญหาทีละนิด คือวิถีชีวิตของนาง

หากฉีเทียนเห้า หวังอยากให้ตนเองทำเช่นนี้....

ลั่วเสี่ยวปิงเงยหน้ามองดูฉีเทียนเห้า ดวงตาทั้งคู่จ้องมองดูฉีเทียนเห้าอย่างลึกซึ้ง

หากเพราะเรื่องนี้ แล้วฉีเทียนเห้าให้นางหยุดทำความร่วมมือกับโอหยางฉี่หยู่ นางคิดว่า นางจะผิดหวังมาก

ส่วนทำไมถึงผิดหวัง ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ครุ่นคิดต่อ

ตอนนี้เวลานี้ ลั่วเสี่ยวปิงจ้องมองฉีเทียนเห้าด้วยตาไม่กะพริบ รอคอยคำตอบจากฉีเทียนเห้า

ถูกลั่วเสี่ยวปิงจ้องมองเช่นนี้ ถึงแม้ฉีเทียนเห้าจะรู้สึกแปลก แต่คำถามของลั่วเสี่ยวปิงก็ทำให้เขาอึ้งไปเล็กน้อย

เพราะตระกูลฮัว ให้นางหยุดทำความร่วมมือกับโอหยางฉี่หยู่?

ไม่

ตระกูลฮัวยังไม่คู่ควร

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ปล่อยไปแบบนี้แหละ ปล่อยให้เป็นไปตามเดิมก็ดีแล้ว

“ใช่ว่าไม่ให้เจ้าทำความร่วมมือกับโอหยางฉี่หยู่ แต่ทางด้านหอว่านเซียง น่าจะสืบมาเจอเจ้าในสักวัน เจ้าระวังตัวไว้บ้างก็พอ”

ส่วนประมุขตระกูลฮัวกับคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาพวกนั้น คงจะยังไม่สังเกตมาถึงทางนี้ได้ในเร็ววัน

หากพวกเขาคิดไม่ซื่อขึ้นมาจริงๆ งั้น เขาก็จะไม่ปล่อยไปง่ายๆ

ส่วนปัญหาเล็กน้อยในที่นี้พวกนั้น....

สายตาฉีเทียนเห้าที่มองดูลั่วเสี่ยวปิง จู่ๆก็หวานซึ้งขึ้นมา แววตาแลดูอ่อนโยนลงบ้าง

มีชีวิตมาสองภพ นางไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน

เมื่อกี้นางคิดอะไรอยู่?

นั่งรอคอยที่จะให้มือข้างนั้นลูบตนเอง

เห็นทีต้องโทษชาติที่แล้ว นางมัวแต่สนใจหาเงิน โดยไม่สนใจมีความรัก ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้จักสงวนตัวขนาดนี้หรือ?

สายตาลั่วเสี่ยวปิงกระสับกระส่าย ไม่กล้ามองฉีเทียนเห้า

ตอนนี้เวลานี้ นางหวังเพียงว่าความคิดของตนเองเมื่อกี้นั้นจะสามารถปกปิดได้เป็นอย่างดี ไม่ให้ฉีเทียนเห้าดูออก ไม่อย่างนั้นนางคงไม่มีน่าเจอใคร

“แม่นางลั่ว?”

และในตอนนี้ เสียงเมื่อกี้นั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ลั่วเสี่ยวปิงค่อยได้สติกลับมา หันไปมองทางด้านหน้าประตู กลับเห็นว่าคนที่มาคือช่างไม้หลี่ที่ทำเฟอร์นิเจอร์ในบ้านใหม่ให้กับนาง

“ช่างไม้หลี่มาแล้วหรือ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านทำเสร็จแล้วใช่ไหม ข้าไปดูหน่อย”

ลั่วเสี่ยวปิงพร้อมกับรีบวิ่งผ่านฉีเทียนเห้า ออกจากประตูไป ไม่กล้าแม้แต่จะมองฉีเทียนเห้า

ท่าทีรีบร้อนนั่น ราวกับข้างหลังมีคนไล่ตามนางอยู่ ท่าทีแฝงไปด้วยความกระวนกระวาย

เห็นลั่วเสี่ยวปิงเป็นเช่นนี้ ฉีเทียนเห้ากลับหัวเราะออกมาเบาๆ

เสียงหัวเราะของฉีเทียนเห้า ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเพียงอยากที่จะมุดดินหนี

หวาดกลัวอะไร? ที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึงไม่ใช่หรือ?

เดิมก็ไม่มีอะไร ตนเองกระวนกระวายเช่นนี้ ไม่เป็นการบอกคนอื่นหมดหรือว่าเมื่อกี้ตนเองมีความคิดเป็นอื่น?

ลั่วเสี่ยวปิงหงุดหงิดไปด้วย เดินอย่างมั่นคงไปด้วย และก็พยายามการรับอารมณ์ของตนเอง อยากทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ที่ไหนได้ ข้างหลังกลับมีเสียงฉีเทียนเห้าดังขึ้นว่า

“ข้าไปพร้อมกับเจ้า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง