แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 149

เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเล่อเล่อ ลั่วเสี่ยวปิงก็เกือบจะยืนขึ้นตอบสนองกลับไปในทันที และทิ้งผู้คนที่มีการเคลื่อนไหวอย่างกระเหี้ยนกระหือรือแต่ก็รู้สึกเขินอายเกินกว่าจะไปสังเกตมองอย่างระมัดระวังมากเกินไปซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงเหล่านั้นเอาไว้ แล้ววิ่งตรงไปที่เรือนด้านหลังเรือนนั้น

“นังเด็กบ้าคนนี้ เจ้ามันเป็นของชดเชยที่ไม่เคารพผู้อาวุโส ดูซิว่าข้าจะไม่ตีเจ้าให้ตายได้ไหม”

ลั่วเสี่ยวปิงเพิ่งจะมาถึงห้องทางด้านหลัง นางก็เห็นว่าจ้าวซื่อป้าสะใภ้รองของนางกำลังไล่ตามเพื่อที่จะตีเล่อเล่อ และเล่อเล่อก็ร้องไห้เสียงดังในขณะที่กำลังวิ่งอ้อมเป็นวงกลม

เมื่อเห็นภาพนี้ ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเพียงว่าความโกรธได้พุ่งตรงขึ้นไปบนหน้าผากของนางแล้ว

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ลั่วเสี่ยวปิงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด

พอจ้าวซื่อได้เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงมาแล้ว นางก็หยุดฝีเท้าที่กำลังไล่ตามเล่อเล่อทันที แล้วจึงมีสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย และสายตาก็เก้อเขิน

และเมื่อเล่อเล่อเห็นว่าแม่ของตัวเองมาแล้ว นางจึงกระโจนเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของลั่วเสี่ยวปิงด้วยเสียงร้องไห้แงๆ

พอลั่วเสี่ยวปิงกวาดสายตามองไป กลับไม่เห็นอานอานเลย

ในขณะที่กำลังเร่งรีบอยู่นั้น นางกลับเห็นอานอานกับฉีเทียนเห้าเดินเข้ามาจากประตูที่อยู่ข้างๆเรือนด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าสองคนพ่อลูกเพิ่งจะออกไปข้างนอกผ่านประตูบานนั้นมา

เมื่อเห็นว่าอานอานไม่ได้เป็นอะไร ลั่วเสี่ยวปิงหันไปมองจ้าวซื่อด้วยสายตาที่เฉียบคม

จ้าวซื่อเคยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่าหนึ่งครั้งในเงื้อมมือของลั่วเสี่ยวปิงดังนั้นในขณะที่กำลังถูกลั่วเสี่ยวปิงมองเช่นนี้ ภายในหัวใจของจ้าวซื่อก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาในทันที

“เสี่ยวปิง ข้า......เจ้าอย่าเข้าใจข้าผิดนะ ข้าก็แค่ล้อเล่นกับเล่อเล่อเด็กคนนี้อยู่น่ะ” ในขณะที่จ้าวซื่อกำลังพูด ก็มองไปทางเล่อเล่อ “เล่อเล่อเจ้าบอกไปสิว่าใช่หรือเปล่า ยายรองกำลังล้อเล่นกับเจ้าอยู่ใช่ไหมจ๊ะ?”

จ้าวซื่อคิดว่าเล่อเล่อก็แค่เด็กคนหนึ่ง นางจะต้องไม่กล้าฟ้องอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่า จริง ๆ แล้วในเวลานี้ภายในหัวใจของจ้าวซื่อจะรู้สึกว้าวุ่นมากก็ตาม อย่างไรเสียอีกไม่กี่วันก็จะเป็นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของลั่วเสี่ยวปิงนางจึงเกรงว่าจะทำให้ลั่วเสี่ยวปิงจะไม่สบายใจและจะเป็นการทำลายงานใหญ่ที่บ้านเก่าด้านนั้นในเวลานี้

บ้านที่ยอดเยี่ยม ทั้งหลังใหญ่และเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในบ้านก็ครบครันและใหม่เอี่ยมขนาดนี้ ตราบใดที่นางคิดถึงว่าตัวเองจะได้เข้ามาอยู่อยู่ที่นี่ในอนาคตภายในหัวใจของนางก็เริ่มพองโตอย่างมีความสุขแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่สามารถทำเรื่องแย่ๆขึ้นมาได้ในเวลานี้อย่างเด็ดขาด

คาดคิดเลยว่าในขณะที่จ้าวซื่อกำลังคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ของ ลั่วเสี่ยวปิงอย่างปลื้มอกปลื้มใจอยู่นั้นเล่อเล่อกลับเบ้ปาก และกำลังฟ้องลั่วเสี่ยวปิงอยู่

“ท่านแม่ ท่านยายรองคิดจะขโมยเนื้อที่ครอบครัวเราจะใช้มาต้อนรับแขกเจ้าค่ะ พอเล่อเล่อไปเห็นเข้า ท่านยายรองก็ดุเล่อเล่อบอกว่าเล่อเล่อเป็นของชดเชย เป็นนังเด็กบ้าที่เลี้ยงเสียข้าวสุก และท่านยายรองก็ยังก็ตีเล่อเล่อด้วย”

ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น น้ำตาของเล่อเล่อก็หยดติ๋ง ๆ ลงมา “ท่านแม่ ท่ายายรองบอกว่าถ้าเล่อเล่อไม่แสดงความกตัญญูต่อนางก็จะต้องโดนฟ้าผ่า เล่อเล่อจะถูกฟ้าผ่าจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

ท่าทางนี้ของเล่อเล่อแลดูเศร้าโศกเสียใจไปมากเลยทีเดียว

และสิ่งที่ เล่อเล่อพูดก็ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงโกรธมากจนแทบอยากจะทุบตีจ้าวซื่ออย่างโหดเหี้ยมขึ้นมาชั่วขณะ

จะต้องเป็นคนที่ชั่วช้าแค่ไหนกัน ถึงสามารถพูดคำพูดเหล่านี้กับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้?

ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกโกรธอยู่ในใจ แต่นางกลับอดกลั้นเอาไว้แล้วตอบคำถามของเล่อเล่อก่อน “เล่อเล่อเด็กดี เล่อเล่อเป็นลูกของแม่ กตัญญูต่อผู้อาวุโสเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่ผู้อาวุโสที่เลวทรามไม่คู่ควรที่จะไปแสดงความกตัญญูด้วย ดังนั้น เล่อเล่อจะไม่ถูกฟ้าผ่าหรอกนะ มีเพียงคนที่มีจิตใจชั่วช้าและไม่ถูกทำนองคลองธรรมเท่านั้นแหล่ะถึงจะโดนฟ้าผ่าน่ะจ๊ะ”

ลั่วเสี่ยวปิงกลัวว่าคำพูดของ จ้าวซื่อจะทิ้งจุดด่างพร้อยที่ไม่สามารถลบเลือนออกไปได้เอาไว้ในหัวใจของ เล่อเล่อ

ในขณะที่จ้าวซื่อกำลังฟังคำพูดที่แอบใส่ความให้ร้ายอยู่ลับหลังนั้นของลั่วเสี่ยวปิงนางก็โกรธจัดขึ้นมาในทันที “นังผู้หญิงชั้นต่ำ เจ้าพูดว่าใครสมควรจะโดนฟ้าผ่า.....กรี๊ดดด”

จ้าวซื่อยังพูดไม่ทันจบ ร่างกายของนางก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้จ้าวซื่อตกใจจนต้องกรีดร้องขึ้นมา

พอหันหน้ากลับมา กลับเผชิญหน้ากับดวงตาที่เย็นชาราวกับจะฆ่าคนนั้นของฉีเทียนเห้าเข้าพอดี

ไม่เพียงแต่จ้าวซื่อเท่านั้น แม้แต่ผู้คนที่กำลังมุงดูอยู่ก็ตกใจเช่นเดียวกัน และไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าฉีเทียนเห้าปรากฏตัวอยู่หลังจ้าวซื่อได้อย่างไร

“เจ้า......เจ้าปล่อยข้านะ......” ลิ้นของจ้าวซื่อสั่นเทาไปหมดแล้ว

น่ากลัวมาก!

นางรู้สึกว่าสายตานั้นยังน่ากลัวกว่าสายตาของงูพิษที่นางไปพบในทุ่งนาในฤดูร้อนหลายเท่าเสียอีก

ฉีเทียนเห้าไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่หิ้วปกคอเสื้อของจ้าวซื่อ อยู่ ในขณะที่กำลังเดินไปที่ประตูด้านข้างด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

สีหน้าของจ้าวซื่อขาวซีดและในใจของนางก็กลัวว่าจะตาย แต่นางกลับยังคงขอความช่วยเหลือจากลั่วเสี่ยวปิง

ทุกคนรู้สึกทอดถอนใจ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฉีเทียนเห้าจะสามารถทำเรื่องที่โหดร้ายเช่นนี้ได้

หารู้ไม่ว่า ในมุมมองของฉีเทียนเห้า การลงโทษจ้าวซื่อของตัวเองนั้นช่างเบามากเกินไปจริง ๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ต้องการสร้างปัญหาให้ลั่วเสี่ยวปิง ตอนนี้จ้าวซื่อก็คงจะตายไปแล้ว

กล้ามาดูถูกเหยียดหยามลูกสาวของเขาอย่างนั้น ช่างสมควรตายเสียจริง ๆ !

ลูกสาวของเขาเป็นผู้สูงศักดิ์มาตั้งแต่เกิด จะถูกรังแกแบบนี้ได้อย่างไร?

และยังมีลั่วเสี่ยวปิงอีก คนที่เขาล้วนแต่ข่มเหงรังแกไม่ลง แต่กลับถูกผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งด่าว่าเป็นคนชั้นต่ำ

ความโกรธที่แผดเผาอยู่ในใจของเขานั้นอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้นก็ใกล้จะกลบสติสัมปชัญญะของเขาไปหมดแล้ว และสายตาของฉีเทียนเห้าในขณะนี้ก็เย็นชาราวกับอสูรกายที่มาจากนรกอย่างไรอย่างนั้น

“ขืนข้าได้ฟังเจ้าด่าอีกประโยคล่ะก็ ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่ายๆแบบนี้แล้ว”

ในขณะที่ฉีเทียนเห้ากำลังพูดอยู่ เขาก็ไม่เหลือบไปมองจ้าวซื่ออีก แล้วหันหลังกลับและเดินไปหาลั่วเสี่ยวปิง จากนั้นก็รับเล่อเล่อที่อยู่ในมือของลั่วเสี่ยวปิงมาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่ ฉีเทียนเห้าและไม่รู้ว่าทำไม ในขณะนี้ ลั่วเสี่ยวปิงถึงได้รู้สึกว่าภาพลักษณ์ของฉีเทียนเห้านั้นสูงใหญ่และหล่อเหลาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ขึ้นมา

ถ้าไม่ใช่เพราะโอกาสไม่เหมาะสม ลั่วเสี่ยวปิงก็คงคิดว่า ตัวเองต้องดวงตาเป็นประกายอย่างแน่นอน

ฉีเทียนเห้ารู้สึกได้ถึงสายตาอันเร่าร้อนที่เหลือบมองมานั้นของ ลั่วเสี่ยวปิงแต่ทว่าเมื่อเขาหันไปมอง ลั่วเสี่ยวปิงกลับเดินไปหาจ้าวซื่อ ที่อยู่ในคูระบายน้ำเสียแล้ว

เสื้อผ้าของจ้าวซื่อเปียกโชกไปแล้ว และนางก็รู้สึกแค่ว่าหนาวเย็นไปทั้งตัว

แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกหนาวมากยิ่งกว่า กลับเป็นสายตานั้นของ ฉีเทียนเห้าเมื่อสักครู่นี้ต่างหาก จนกระทั่งลั่วเสี่ยวปิงเดินมาอยู่ตรงหน้านาง นางจึงพอที่จะมีสติขึ้นมาได้

หลังจากจ้องมองลั่วเสี่ยวปิงอย่างงงงวยสักครู่จ้าวซื่อจึงมีสติสัมปชัญญะกลับมา แล้วหันไปถามลั่วเสี่ยวปิงอย่างบ้าคลั่งจนคุมสติไม่อยู่ว่า “เสี่ยวปิง เจ้าปล่อยให้สามีของเจ้ามาข่มเหงรังแกป้าสะใภ้รองของเจ้าแบบนี้ได้อย่างไร?”

ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังมองจ้าวซื่อที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนอยู่นั้น ก็ยิ้มอย่างไม่จริงใจขึ้นมา แล้วพูดว่า “เช่นนั้นป้าสะใภ้รองคิดเห็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง