แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 239

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงไปที่บ้านตระกูลจาง ก็เห็นไป๋เสารออยู่ที่ประตูบ้านตระกูลจางด้วยความร้อนใจ

“ข้าไม่เป็นไร เจ้าไปดูเสี่ยวหลิง อย่าให้นางเกิดเรื่อง” ลั่วเสี่ยวปิงสั่งกับไป๋เสา

ไป๋เสาเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงมาอย่างปลอดภัย ความวิตกกังวลบนใบหน้าของนางก็หายไป นางตอบรับแล้วเดินจากไป

เวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงก็เคาะประตูบ้านตระกูลจาง

ผู้ที่มาเปิดประตูก็คือจางต้าฉวน

เมื่อเข้าไปในลานบ้าน ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นจางเสี่ยวเหม่ยกำลังขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของจางเฉินซื่อ ราวกับนกที่หวาดกลัว เมื่อนางเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิง กำลังมาจางเสี่ยวเหม่ยก็ผ่อนคลายลง

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่จางเสี่ยวเหม่ยด้วยรอยยิ้มที่ใจดี “เสี่ยวเหม่ย เป็นน้าเสี่ยวปิง น้าเสี่ยวปิงนำขนมกุ้ยฮวาที่เจ้าชอบมาให้เจ้าด้วย”

เมื่อพูดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ยกกล่องขนมในมือขึ้น

ตอนแรกนางไม่ได้เอามาด้วย เพราะว่านางมีผงยาติดตัว นางจึงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเอามาอีกครั้งเมื่อออกมา

ตาของจางเสี่ยวเหม่ยเป็นประกายเมื่อนางเห็นขนมกุ้ยฮวา โดยไม่ลังเลใดๆ นางกระโดดจากออมแขนของจางเฉินซื่อไปที่ลั่วเสี่ยวปิง และมองขึ้นไปที่ลั่วเสี่ยวปิง

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นอย่างนี้ ก็ลูบหัวของจางเสี่ยวเหม่ย แล้วมอบขนมกุ้ยฮวาให้จางเสี่ยวเหม่ย

จางเสี่ยวเหม่ยรับขนมกุ้ยฮวาไป แต่ก็ยังอยู่ข้างๆลั่วเสี่ยวปิง ความใกล้ชิดกับลั่วเสี่ยวปิงเห็นได้ในแวบเดียว

เมื่อจางเฉินซื่อเห็นอย่างนั้น ก็พูดอย่างกังวลเล็กน้อยและชื่นใจเล็กน้อย “เด็กคนนี้ไม่สนิทกับใครเลยนอกจากฉัน กับเจ้าช่างหายากจริงๆ”

เมื่อพูดแล้ว จางเฉินซื่อก็มองไปทางจางต้าฉวน “แม้แต่เขา เด็กคนนี้ก็ยังรู้สึกกลัวและออกห่างอยู่บ้าง”

ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกแปลกๆ เมื่อนางได้ยินสิ่งที่จางเฉินซื่อพูด

อย่างไรจางเสี่ยวหลิงทางนั้นก็มีไป๋เสาดูอยู่ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่รีบร้อนที่จะอธิบายความตั้งใจของนางที่มาที่นี่

ที่นางเชื่อในความสามารถของไป๋เสาขนาดนี้ ก็เพราะในใจของลั่วเสี่ยวปิงได้คาดเดาหนึ่ง

เดิมไป๋เสาถูกเรียกว่าเสี่ยวลิ่ว แล้วยังมีอั้นหวู่และอั้นปา ดังนั้นไป๋เสาเป็นไปได้มากว่านางจะเป็นอั้นลิ่ว

นางมีวรยุทธ์ ลั่วเสี่ยวปิงจึงมั่นใจในความคิดนี้มากขึ้น

สำหรับการยืนยันการคาดเดานี้กับไป๋เสานั้น ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น บางเรื่องรู้อยู่ในใจก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องสอบถามให้แน่ชัด

เล่นกับจางเสี่ยวเหม่ยครู่หนึ่ง กินขนมกุ้ยฮวากับจางเสี่ยวเหม่ย จางเสี่ยวเหม่ยก็ง่วงนอน จางเฉินซื่อจึงพาจางเสี่ยวเหม่ยไปพักผ่อน

เมื่อจางเฉินซื่อออกมาอีกครั้ง ลั่วเสี่ยวปิงก็ได้ยินจากปากของจางเฉินซื่อว่าสองวันก่อนซิ่งฮวาไปที่ร้านเสื้อผ้าของอู๋กี้

“ข้ารู้ ซิ่งฮวาต้องขอบคุณเจ้ามากๆ เถ้าแก่ของร้านเสื้อผ้าจึงไม่รังเกียจนางที่เคยมีเรื่องแบบนี้…” จางเฉินซื่อซาบซึ้งมาก

ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหัว “คุณป้าท่านเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย จิ่นเหนียงและสามีของเขาเป็นคนดี และในด้านนี้ซิ่งฮวาก็มีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่มีหัวการค้าและพวกเขาจะไม่ละทิ้งช่างปักที่มีความสามารถอย่างซิ่งฮวาแน่นอน "

สิ่งที่ลั่วเสี่ยวปิงพูด ทำให้ใบหน้าของจางเฉินซื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะใครไม่อยากได้ยินลูกสาวของตนเองถูกชื่นชมบ้าง?

แต่จางเฉินซื่อเป็นคนที่มองอย่างทะลุปรุโปร่ง นางยังพูดว่า “ซิ่งฮวาก็ได้เจ้าถึงมีทุกวันนี้”

ลั่วเสี่ยวปิงไม่พูดถ้อยคำที่ถ่อมตนอะไรอีก ถือเป็นการยอมรับคำพูดนี้ของนางจางเฉินซื่อโดยปริยาย ความดีความชอบบางเรื่องนางไม่รับ บางเรื่องรับก็ไม่เป็นไร เพราะก็เป็นความจริง

“เหตุใดจึงไม่เห็นพี่ต้าหลาง?” ลั่วเสี่ยวปิงถามไปตามจิตใต้สำนึก

ทันทีที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดถึงจางต้าหลาง สีหน้าของจางเฉินซื่อก็เป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย “พี่ต้าหลางของเจ้าเข้าเมืองไปหางานทำแล้ว”

กล่าวต่อ ในเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ จางเฉินซื่อไม่ได้ปิดบังความคิดของตัวเอง มองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง “ป้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังจะเปิดโรงงาน ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าให้ต้าหลางทำงานในโรงงานได้ไหม?”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการคน ค่าแรงก็ต่ำเกินไป หรือไม่ก็เขาแค่ปฏิเสธโดยไม่คำนึงถึงเหตุและผล

ซึ่งนั่นทำให้เขาหงุดหงิดมากจึงกลับมา

เพิ่งมาถึงประตูบ้านและกำลังคิดหาวิธีปลอบใจพ่อแม่ของเขา เมื่อเขาได้ยินข้อเสนอของลั่วเสี่ยวปิงที่จะให้เขาร่วมทำแฟรนไชส์ จางต้าหลางอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น

อันที่จริง นับตั้งแต่หมดงานทำกับที่ลั่วเสี่ยวปิงแล้ว จางต้าหลางก็อิจฉาเอ้อหลางมากที่ได้ทำงานร่วมกับลั่วเสี่ยวปิง

แต่เมื่อก่อนรบกวนลั่วเสี่ยวปิงมากมาย เขาจึงเกรงใจที่จะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลั่วเสี่ยวปิงมาตลอด ตอนนี้ลั่วเสี่ยวปิงเสนอมา เขาย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่คว้าไว้

“อันที่จริง ข้ายังมีอาหารอีกอย่างหนึ่งอยู่ในมือ เรียกว่าปิ้งย่าง ดูว่าพี่ต้าหลาจะเลือกอันไหน”

ปิ้งย่างและของทอด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารอันโอชะสุดคลาสสิก และจางต้าหลางก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง แต่ปิ้งย่างนั้นออกจะเหนื่อยกว่าอยู่บ้าง

หลังจากที่จางต้าหลางถามลั่วเสี่ยวปิงว่าปิ้งย่างคืออะไรแล้ว เขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็เลือกของทอด

เพราะของทอดเป็นของที่ทอดมาจากน้ำมัน ตอนนี้น้ำมันมีค่ามาก หากเป็นของที่ทอดมาจากน้ำมันแล้วละก็ การตอบรับจะต้องดีกว่าแน่นอน

แม้ว่าต้นทุนจะสูง แต่ก็มีคำที่เรียกว่ากำไรน้อยขายเยอะ และเขาก็ไม่โลภ

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่จางต้าหลางเลือก นางพยักหน้า

จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงได้อธิบายถึงจุดประสงค์สูงสุดในการมาที่บ้านตระกูลจางวันนี้ และขอให้จางต้าฉวนช่วยนางจัดการบัญชีในหมู่บ้าน

เรื่องดีเช่นนี้ จางต้าฉวนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

ในลานบ้านเล็กๆของบ้านตระกูลจาง นับว่ามีความสุขชื่นมื่น แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นข้างนอก

“ให้ตายเถอะ!”  

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง