แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 249

“ข้า……”ลั่วเสี่ยวจู๋อยากจะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มอธิบายจากตรงไหน

จากนั้น ร่างกายของลั่วเสี่ยวจู๋ก็เริ่มโคลงเคลง สีหน้าเริ่มซีดเซียว นางใช้มือกุมขมับเอาไว้ “ข้าปวดหัว ขออภัย ข้าขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อน”

พูดจบ ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ไม่กล้าหันไปมองดูพ่อและน้องชายทั้งสองคนของตัวเอง วิ่งไปทางกระท่อมมุงจากราวกับกำลังหนีอะไรอยู่ ขนาดหวางซื่อเรียกนางไว้นางก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เสียง‘ปัง’ดังขึ้น ลั่วเสี่ยวจู๋ขังตัวเองไว้ในห้อง

และตรงที่เดิม ลั่วต้าโซ่วสามคนพ่อลูกต่างก็ยืนอยู่กับที่อย่างมึนงง ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้น

เพราะที่ที่พวกเขายืนอยู่นั้นอยู่ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้าน ผู้คนในหมู่บ้านจะแวะมามองดูหน้าประตูอยู่เป็นระยะๆเพื่อที่จะดูว่าสิ่งที่คนในหมู่บ้านกลับไปแจ้งข่าวนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เมื่อเห็นสามคนพ่อลูกยืนงงอยู่ตรงนั้น จึงเดินเข้าไปอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เหมือนเห็นของที่ตกอยู่บนพื้น ก็ตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด “นี่มันต้องสิ้นเปลืองสิ่งของแค่ไหนกันเชียว……”

จากนั้นก็มองไปทางสามคนพ่อลูก และเหมือนว่าจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น จึงทำหน้า‘แสดงความเสียใจ’แล้วเหลือบมองไปที่พวกเขา จากนั้นก็เดินจากไปทันที

“ท่านพ่อ……”ลั่วฝูซิงที่อายุน้อยที่สุดเอ่ยปากพูด มองไปที่ลั่วต้าโซ่วด้วยสายตาที่สับสน “พี่เขาเป็นอะไรไปหรือขอรับ?”

ลั่วต้าโซ่วเองก็สับสนเช่นกัน

นางที่เป็นเด็กเรียบร้อย เหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ได้? เปลี่ยนไปจนเขาเองก็รู้สึกว่าไม่ค่อยรู้จักแล้ว

คิดไปคิดมา ลั่วต้าโซ่วถึงได้ฝืนคิดเหตุผลออกมาได้อยู่ข้อหนึ่ง “บางทีอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้พี่เจ้าเคยได้รับบาดเจ็บที่หัวกระมัง”

พูดไป ก็หยิบเนื้อที่ตกอยู่บนพื้นพร้อมกับถอนหายใจ

แม้ว่าคนจะกินไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังสามารถให้ไก่กินได้

อีกด้านหนึ่ง ลั่วเสี่ยวจู๋ที่กลับเข้าไปในห้องทิ้งตัวเองลงบนเตียง ตาของนางแดงก่ำ น้ำตาแห่งความไม่พอใจหลั่งไหลออกมา

ชาติก่อน จ้าวซื่อที่อยู่บ้านสองมีความโลภทรัพย์ นางได้ขายลั่วเสี่ยวอวี่ให้กับตระกูลจูที่อยู่ในเมืองเพื่อให้หล่อนไปเป็นเมียน้อย

แต่เพราะว่าที่สามีที่กำหนดไว้ตั้งแต่เด็กของนางสอบเข้าเป็นซิ่วฉาย บ้านสองจึงอิจฉาขึ้นมา เกิดความคิดที่จะเอานางไปแทนที่ จึงได้ให้เฉินซื่อคนนั้นบังคับให้ตัวเองแลกเปลี่ยนงานแต่งครั้งนี้กับลั่วเสี่ยวอวี่ นางจึงได้ถูกยกขึ้นเกี้ยวสีชมพูเข้าสู่ตระกูลจู ไปเป็นเมียน้อยให้กับชายที่มีอายุมากกว่าพ่อตัวเองอยู่หลายปี

แต่ ภายใต้ชะตากรรมชีวิตที่เล่นตลก นางไม่ได้มีอะไรกับตาแก่ตระกูลจูคนนั้น และได้ใช้ชีวิตสงบเงียบอยู่สวนหลังบ้านของตระกูลจูอย่างหวาดระแวงไปหนึ่งเดือน

และฝันร้าย ก็ได้เริ่มขึ้นหลังจากหนึ่งเดือนนี้

นางถูกส่งไปที่เรือนหลักของตระกูลจูที่อยู่ในเมือง กลายเป็นของเล่นให้กับนายท่านใหญ่ของเรือนหลัก

นายท่านใหญ่คนนั้น มีอายุมากกว่าคุณปู่ของนางเสียอีก แต่ร่างกายกลับแข็งแรงดี และยังมีนิสัยแปลกประหลาด ไม่รู้ว่าระหว่างมีเพศสัมพันธ์เขาทำเมียน้อยตายไปแล้วกี่คน

และนาง หลังจากผ่านความทุกข์ทรมานที่นับครั้งไม่ถ้วนมาได้ ก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา ความแค้นที่นางมีต่อตระกูลลั่วเป็นแรงผลักดันให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป ถึงขั้นเรียนรู้การยอมรับความเจ็บปวดและยิ้มหน้ารับ

แต่ แม้ว่านางจะได้ตำแหน่งเมียน้อยดีเด่น ได้มีหน้ามีตาในบ้านหลักของตระกูลจู มีอำนาจสั่งการ และยิ่งกว่านั้นคนของตระกูลลั่วก็ได้รับผลกรรมแล้วด้วย

แต่ในท้ายที่สุด ในที่ที่สกปรกเช่นนั้น นางที่มีอายุสามสิบซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังงดงาม ก็ถูกทรมานจนตายไป

ตอนที่นางเพิ่งตื่นขึ้นมา นางเคียดแค้นอย่างถึงที่สุด

เพราะเดิมทีนางคิดว่านางจะได้หลุดพ้นเสียที ไม่อยากจะทนอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่นางกลับพบว่า นางกลับมาเกิดใหม่ แต่เรื่องราวหลังจากการเกิดใหม่กลับแปรเปลี่ยนไปหมด

ชาติก่อน ลั่วเสี่ยวปิงตายไปตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ร่วง หลังจากนั้นไม่นานอานอานและเล่อเล่อก็ถูกป้าสะใภ้ใหญ่ขายออกไป แต่พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ตาย ยังดูงดงามขึ้นอีก อานอานและเล่อเล่อก็ไม่ได้ถูกขายออกไป กลับโตขึ้นเป็นลูกทองสาวหยกเช่นนั้น

เริ่มแรกนางทั้งตกใจทั้งสับสน แต่เมื่อมีประสบการณ์จากชาติที่แล้ว นางก็รู้สึกทันทีว่านี่เป็นโอกาสของนาง

เพราะว่า ชาติก่อน ก่อนที่นางจะตายนางเคยกลับมาที่หมู่บ้านต้าซิงอยู่ครั้งหนึ่ง

เดิมทีเป็นเพราะนางขอร้องต่อหน้านายท่านใหญ่ถึงได้ขอกลับมาได้ นางพาพวกนักตี เตรียมพร้อมจะไขเรื่องที่ข้องใจ กลับมาแก้แค้นคนของตระกูลลั่ว

แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่านางจะได้เจอกับคนที่คาดไม่ถึง และยังเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งพร้อมกับอำนาจมากล้นคนหนึ่ง

นางไม่พอใจ!

คืนก่อนมีความตื่นเต้นมากเท่าไหร่ ตอนนี้นางก็ไม่พอใจมากเท่านั้น

ลั่วเสี่ยวจู๋แค้นจนกัดฟัน สุดท้ายจึงทำได้เพียงกัดผ้าห่มเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมา เพียงแต่ว่าความแค้นที่อยู่ในตา กลับลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง

ลั่วเสี่ยวจู๋เป็นเช่นไร แน่นอนว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่มีทางรู้

และแน่นอน ถึงแม้จะรู้ เชื่อว่าลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาสนใจ หัวใจทั้งดวงของนางอยู่แต่กับงานแต่งในวันนี้

หลังจากเที่ยงวัน ก็มีแขกเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

ต่างกับที่มาทักทายในตอนเช้า ครั้งนี้มีแขกมามากมายจนเกือบเต็มลานบ้านและพวกเขาดูสนุกสนานกันจริงๆ

จนกระทั่งถึงช่วงเย็น ลั่วเสี่ยวปิงที่แต่งกายครบเครื่องถึงถูกพยุงให้เดินออกมาจากห้อง มาอยู่ตรงลานบ้าน

ที่ต้องพยุงเอาไว้ เพราะเครื่องแต่งกายทั้งตัวที่สวมอยู่สวมใส่มาทั้งวัน ร่างกายแข่งทื่อไปหมด เหนื่อยล้ายิ่งนัก

เพียงแต่ การปรากฏตัวของลั่วเสี่ยวปิง แม้ว่าจะคลุมผ้าไว้มองไม่เห็นหน้าตา แต่ก็ยังได้รับเสียงร้องไห้จากคนรอบข้าง

และทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นเพราะชุดแต่งงานที่สง่างามนั่น แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงต้องทรมานอย่างถึงที่สุด

ภายใต้การเป็นพยานของพิธีกรซึ่งทำหน้าที่โดยผู้ใหญ่บ้าน ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าก็ได้ไหว้ฟ้าดินจนเสร็จสิ้นพิธี

เสี้ยววินาทีที่สามีภรรยาหันหน้าคำนับให้กัน ในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกโผล่ขึ้นมา

ราวกับว่าการก้มหัวครั้งนี้ จะทำให้นางและฉีเทียนเห้าถูกผูกมัดไว้ด้วยกันตลอดชีวิต

เพียงแต่ในตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะถูกส่งเข้าไปในเรือนหอ ทันใดนั้นในหมู่ผู้คนก็ได้ส่งเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจดังขึ้นมาให้ได้ยิน……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง