แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 259

หลังจากพูดอย่างนั้น ฉีเทียนเห้าก็กล่าวต่อว่า "นอกจากเมืองซีเหอ ทั้งเมืองหยู เมืองเยว่และสถานที่อื่นๆล้วนเกิดเรื่องคล้ายเช่นนี้กันหมด"

ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว "เจ้าหมายความว่า มันเป็นฝีมือของคนเหรอ?"

ฉีเทียนเห้าพยักหน้า ลั่วเสี่ยวปิงก็เริ่มไม่เข้าใจ "ทําไมล่ะ? "

ฉีเทียนเห้านึกคิดไปครู่หนึ่ง จึงค่อยพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ตอนนี้ยังทราบเหตุผล แต่ต้องเกี่ยวข้องกับหนานเจียงแน่นอน"

หนานเจียง?

ทันใดนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็คิดอะไรบางอย่างได้ "เจ้าว่า คนเหล่านั้นจะตายเพราะพิษกู่หรือไม่?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉีเทียนเห้าก็รู้สึกประหลาดใจ "เจ้ารู้จักพิษกู่? "

ลั่วเสี่ยวปิงส่ายหัวแล้วก็พยักหน้า และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านจิ่นเหนียงในวันนี้นั้นให้เขาฟัง

แต่ยังพูดไม่จบ ฉีเทียนเห้าก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่กังวล และดึงนางลุกขึ้นจากที่นั่ง "เจ้าเป็นไรหรือไม่?"

ว่าแล้ว ฉีเทียนเห้าก็จึงดึงข้อมือของลั่วเสี่ยวปิงและเดินออกไป "ข้าพาเจ้าไปหาหมอ"

เมื่อเห็นฉีเทียนเห้ากังวลตัวเองเยี่ยงนี้ ก็ทําให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกซาบซึ้งในใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะอธิบายว่า "ข้าไม่เป็นไร"

เห็นว่าฉีเทียนเห้ายังไม่เชื่อ ลั่วเสี่ยวปิงก็กล่าวว่า "วันนี้ยังดีที่มีหมอเทวดามู่หยางอยู่ มิฉะนั้นจิ่นเหนียงคงเกิดเรื่องแล้ว"

ในที่สุดฉีเทียนเห้าก็สงบลง แต่แปลกใจเล็กน้อย "เจ้าหมายถึงซุนมู่หยาง? เขาอยู่ในเมืองซีเหอเหรอ? "

เมื่อเห็นฉีเทียนเห้าเป็นแบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็แปลกใจเช่นกัน "ท่านรู้จักเขาเหรอ?"

ฉีเทียนเห้า: "ก็พอมีความสัมพันธ์บ้าง"

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ก็ไม่ได้ถามลึกเข้าไป เพียงแต่บอกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เห็นซุนมู่หยาง และเมื่อฉีเทียนเห้าได้ยินว่าซุนมู่หยางได้นำหนังสือที่เกี่ยวกับพิษกู่นั้นมอบให้กับลั่วเสี่ยวปิง สีหน้าของเขาก็เริ่มดูไม่ค่อยดี

เขารู้ดีกว่าใครอีกว่าพิษกู่เล่มนั้นมาได้อย่างไร

ของสําคัญเยี่ยงนั้น ทำไมซุนมู่หยางถึงมอบให้เสี่ยวปิง?

รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ฉีเทียนเห้าก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงพูดว่า "หนังสือที่เขาให้เจ้านั้น เจ้าต้องศึกษามันดีๆ ในอนาคตอาจต้องถึง"

ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า เดิมที่นางก็เตรียมจะศึกษาดีๆอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งพิษกู่จะมาหาตัวเองหรือไม่?

แต่สำหรับท่านซุน นางก็ยังกังวลเล็กน้อย "ในเมื่อการตายของคนเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านซุนพวกเขา งั้นท่านซุนก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"ไม่เป็นไรแน่นอน" ฉีเทียนเห้าตอบ "เพียงแต่ว่าคงต้องถูกจําคุกสักสองสามวัน"

ลั่วเสี่ยวปิงนึกคิดไปครู่หนึ่ง ก็เข้าใจว่าทําไมถึงต้องถูกจำคุก

ในเมื่อเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นแค่ในเมืองซีเหอ เช่นนี้เบื้องหลังของเรื่องนี้ต้องมีแผนการร้ายแน่เลย

และถ้าเจ้าต้องการหาแผนการร้ายเจอ อย่างแรกก็ต้องทําให้คนที่วางแผนคิดว่าแผนการของตัวเองนั้นสําเร็จแล้ว

เพียงแต่ว่า……

"ข้ามีคําถามหนึ่ง" ลั่วเสี่ยวปิงลังเลเล็กน้อย

ฉีเทียนเห้า: "เจ้าพูดสิ"

"ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหนานเจียง แล้วคนของหนานเจียงจะปรากฏตัวขึ้นที่ชายแดนตะวันตกได้อย่างไร?" ลั่วเสี่ยวปิงบอก "ข้าก็ไม่ได้บอกว่าคนของหนานเจียงมาที่นี่ไม่ได้ แต่หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหนานเจียง แล้วหนานเจียงจะมีวางแผนการร้ายอะไรให้ชายแดนตะวันตกล่ะ?หรือมีคนกำลังใช้พิษกู่ของหนานเจียงก่อเรื่อง? " ความจริงก็ย่อมเป็นเช่นนี้

ไม่ว่าจะเป็นเมืองเยว่หรือเมืองหยู หรือเมืองหลินอานของเมืองซีเหอ ฝั่งนี้ต่างก็เป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้กับชายแดนตะวันตก

หากเป็นแผนการร้ายของหนานเจียง เหตุใดหนานเจียงจึงไม่ใช้วางแผนการให้ใกล้กับตอนใต้ของหนานเจียงล่ะ?ใกล้เกลือกินด่างเช่นนี้มันค่อนข้างไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ยิ่งนัก

คําถามของลั่วเสี่ยวปิง ทําให้ฉีเทียนเห้าตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นฉีเทียนเห้าก็ตกอยู่ในการไตร่ตรอง

แต่เป็นเพราะเหตุนี้ เขาจึงต้องปกป้องบ้านหลังนี้ให้ดี

"ถ้าอย่างนั้นก็อย่าจากไปเลย" ทันใดนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็พูดประโยคนี้ออกมา เหมือนเด็กที่กําลังงอนอยู่เลย

ฉีเทียนเห้าตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้จากนั้นก็หัวเราะ

จากนั้นก็อุ้มลั่วเสี่ยวปิงขึ้น "ในเมื่อฮูหยินทนจากข้าไม่ได้เยี่ยงนี้ เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าจากข้าไม่ได้"

ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนี้ ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงหน้าแดงไปหมด "เจ้าอย่าทำตัวเหลวไหล……"

"ต่อหน้าฮูหยิน ทำไมต้องทำตัวไม่เหลวไหลด้วย?"

จากนั้นฉีเทียนเห้าก็อุ้มลั่วเสี่ยวปิงมายังข้างเตียง ขณะที่จูบริมฝีปากของลั่วเสี่ยวปิงอย่างทนรอไม่ไหว ก็ล้มลงบนเตียงพร้อมกับลั่วเสี่ยวปิงไป

การกระทําโดยเจตนาของฉีเทียนเห้าประกอบกับการไม่อยากให้จากไปของลั่วเสี่ยวปิง ความรู้สึกระหว่างสองคนร้อนแรงมาก

คืนหนึ่ง ผ่านไป

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหลับไปเมื่อไหร่ รู้เพียงว่าตอนตัวเองใกล้หลับนั้น ฉีเทียนเห้ากลับยังคงเต็มไปด้วยพลังงาน

เมื่อลั่วเสี่ยวปิงตื่นขึ้นมา มันก็สายมากแล้ว ส่วนฉีเทียนเห้าก็จากไปแล้ว

บนเตียงมีกลิ่นของฉีเทียนเห้าทิ้งเอาไว้ แต่ไม่มีความอบอุ่นของเขาเหลืออยู่อีกแล้ว ซึ่งทําให้ลั่วเสี่ยวปิงเศร้าไปครู่หนึ่ง

แต่ไม่นานลั่วเสี่ยวปิงก็กลับมาเป็นปกติ

ทุกคนย่อมมีความอ่อนไหวในด้านสนความรัก นางยอมให้ตัวเองมีอารมณ์เล็กน้อยเพราะเรื่องความรู้ แต่นางไม่เคยยอมให้ตัวเองลืมสิ่งที่นางควรทําเพราะสิ่งนี้

เพราะนางเป็นผู้หญิงที่ได้รับการสั่งสอนในยุคใหม่ โลกของนางจะมีแต่ผู้ชายไม่ได้

หลังจากฟื้นคืนพลัง ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้ออกจากห้องทันที แต่เข้าไปในสเพซ

ด้วยการนางใช้สเพซน้ำแร่วิญญาณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดิมทีสเพซน้ำแร่วิญญาณที่มีขนาดน้อยกว่าชามนั้นก็ได้กลายเป็นสระน้ำขนาดเล็กแล้ว และนางยังใส่ปลาสองสามตัวเข้าไปด้านในด้วย

ส่วนทุ่งนาของนาง ก็เปลี่ยนจากสองสามแปลงในตอนนั้น กลายมาเป็นหลายสิบแปลงในตอนนี้

นางเอามาปลูกผักครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยเครื่องยา

ของเหล่านี้ นางจะไม่เอาออกไปอย่างง่ายดาย เก็บไว้เป็นเพียงของสํารองเท่านั้น

และหลังจากวันนี้ไป โครงสร้างของที่นาของนางคงต้องเปลี่ยนแปลงสักหน่อยแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง