แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 275

น้ำเสียงของคนนั้นรีบร้อนมาก ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเรื่องเร่งรีบ

ไม่เพียงแต่ลั่วเสี่ยวปิงใจสั่น แม้กระทั่งชาวบ้านก็ทำหน้าจริงจัง กลัวว่าบ้านไหนเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว

"เอ๊ะ นั่นมันผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเฉินเจียไม่ใช่หรือ?"

ในเวลานี้ ชายหนุ่มตอนประตูเห็นคนที่ตะโกน เลยถามด้วยความสงสัย

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเสียงก็วิ่งไปทางประตู พอได้ยินเสียงของเขา หัวใจก็กระตุกไปทีหนึ่ง

ทางโรงเรือนเกิดอะไรขึ้นหรือ?

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงออกไปก็เห็นว่าชุยเหวินเฉิงพาเฉินฟู่ชุนผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเฉินเจียวิ่งมาทางนี้

เฉินฟู่ชุนอายุสี่สิบกว่าปี เนื่องจากวิ่งมาและหิมะก็ลื่นด้วย แถมยังปรากฏความเศร้าโศกบนใบหน้าอีก ทำให้เขาดูแก่ขึ้นหลายปีเลย

เมื่อเห็นลักษณะนี้ของเฉินฟู่ชุน ลั่วเสี่ยวปิงก็เกือบจะเดาได้ว่าหมู่บ้านเฉินเจียเกิดเหตุขึ้นแล้ว

"เสี่ยว......"เฉินฟู่ชุนได้เห็นลั่วเสี่ยวปิง ก็ดีใจขึ้นมา แต่ก็เพราะสิ่งนี้จึงลืมดูทาง เลยล้มลงไปกับพื้นทันที

แต่ทุกคนล้วนเห็นถึงความรีบร้อนของเขา ดังนั้นไม่มีใครไปขำเขา

จางเต๋อหวั่งสั่งลูกชายสองคนไปประคองคนขึ้นมา ยังพูดว่า"ถึงแม้มีเรื่องที่เร่งด่วนมาก ก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดีนะ"

เฉินฟู่ชุนรู้สึกเก้อเขิน หลังจากกล่าวคำขอบคุณแล้วก็รีบมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง"เสี่ยวปิง โรงเรือนกระจกที่หมู่บ้านเกิดเหตุขึ้น......"

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงมาถึงหมู่บ้านเฉินเจีย สิ่งที่เข้าตาก็เป็นโรงเรือนกระจกของแต่ละบ้านที่เดิมเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ แต่ตอนนี้กลับมีหลายเรือนถูกหิมะทับจนถล่ม

ที่ถูกทับจนถล่มมีไม่มาก มีแค่สามหลัง

แต่โรงเรือนกระจกสามหลังนี้เป็นความหวังของสามครอบครัว มูลค่าของผักต่อหนึ่งโรงเรือนก็ไม่น้อยเลย ผักในโรงเรือนกระจกตั้งสามหลังเต็มๆ ก็ถือว่าเสียหายมากเลยทีเดียว

ส่วนคนในสามครอบครัวนั้น ตั้งแต่เด็กจนถึงคนแก่ ล้วนทำหน้ามึนงงและหมดหวัง ขอบขากับจมูกแดงไปหมด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้ร้องไห้กลางหิมะแล้ว

มือของผู้ชายหลายคนก็แดงก่ำเพราะความหนาว น่าจะได้ใช้มือไปขุดหิมะมาก่อน

เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิงเดินมา ชายร่างใหญ่ในนั้นขอบตาแดงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง"เสี่ยวปิง ผักข้างในเสียหมดแล้ว......"

เวลาที่พูด เสียงของผู้ชายก็สั่นสะเทือนอยู่

หลังจากถอนหายใจออกมายาวๆแล้ว ผู้ชายถึงพูดต่อว่า"เมื่อวานเจ้าเตือนพวกเราว่าให้ดูแลโรงเรือนให้ดี พวกเราทั้งครอบครัวก็ล้วนไม่กล้านอนหลับสนิท ทุกๆหนึ่งชั่วโมงก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาตรวจเช็คและทำความสะอาด เดิมทีก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึง......"

พอผู้ชายพูดถึงตอนนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะใช้แขนเสื้อไปปิดตา

ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เมื่อคืนเขาจะไม่นอนแม้แต่ชั่วโมงหนึ่ง จะเฝ้าโรงเรือนอย่างเดียว

"เสี่ยวปิง ขอโทษด้วย ที่ทำให้เจ้าผิดหวัง"อีกครอบครัวหนึ่งก็เดินออกมาด้วยความรู้สึกผิด

พวกเขาล้วนรู้ว่าวัสดุที่เสี่ยวปิงเอามาทำโรงเรือนนั้นแพงมากๆ เสี่ยวปิงช่วยพวกเขาอย่างแทบเหนื่อยแทบตาย แต่พวกเขากลับทำให้เสี่ยวปิงผิดหวัง ไม่ได้ดูแลโรงเรือนไว้ให้ดี

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าพวกเขาสูญเสียไปมาก แต่ยังมาขอโทษกับตัวเองอีก ก็เลยรู้สึกซาบซึ้งใจเพราะความซื่อสัตย์ของคนในหมู่บ้านเฉินเจีย

การที่โรงเรือนถล่มก็ไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจของพวกเขาด้วย นางเลยโทษพวกเขาไม่ได้อยู่แล้ว

แต่ว่า......

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่โรงเรือนอื่นที่อยู่รอบข้าง

โรงเรือนเหล่านั้นถูกหิมะปกคลุมชั้นหนึ่ง แต่ไม่เป็นอะไรเลย

หลังจากผ่านการสอบถาม ลั่วเสี่ยวปิงถึงรู้ว่าคนเหล่านี้ก็ล้วนไปเช็คดูและทำความสะอาดทุกๆหนึ่งชั่วโมงเช่นกัน

สถานที่เดียวกัน โรงเรือนที่เหมือนกัน และล้วนทำความสะอาดทุกๆหนึ่งชั่วโมง เหตุใดถึงมีแค่โรงเรือนของสามครอบครัวนี้ถล่มเท่านั้นล่ะ?

มองดูรอบข้าง ขาวสะอาดมาก ไม่เห็นร่องรอยใดๆเลย

ความแตกต่างแบบนี้ คนธรรมดาคงมองไม่ออกหรอก?

แต่พออิงจากคำพูดของไป๋เสา ลั่วเสี่ยวปิงก็ยืนยันได้ว่าการถล่มของโรงเรือนถูกกระทำโดยฝีมือคน

เพื่อพิสูจน์อย่างชัดเจน ลั่วเสี่ยวปิงเลยให้ไป๋เสาไปดูว่ามีตรงไหนผิดปกติอีก

อย่างที่คิด ไม่นานไป๋เสาก็หาสิ่งผิดปกติออกมาได้

โรงเรือนแต่ละหลังมีส่วนประกอบเป็นไม้ไผ่โดยส่วนใหญ่ แต่มีไม้สี่อันรองรับน้ำหนักอยู่ ส่วนรอยแตกบนไม้จะดูคมชัดกว่า

นอกจากนี้แล้ว ไป๋เสายังเห็นรอยเท้าที่ไม่คมชัดในบริเวณที่ถล่มของโรงเรือน

เนื่องจากรอยเท้านั้นถูกเสี่ยน้ำมันปกปิด ดังนั้นร่องรอยเลยไม่ได้ถูกลบล้างโดยหิมะ

พอรู้ว่าถูกกระทำโดยฝีมือคน ลั่วเสี่ยวปิงเลยให้อั้นหวู่ไปตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนนางหลังจากที่ได้สั่งข้อควรระวังให้ชาวบ้านแล้ว ก็ถูกชาวบ้านรอบข้างเชิญเข้ามาที่บ้าน

แน่นอนว่าลั่วเสี่ยวปิงถูกต้อนรับขับสู้

หลังจากทุกคนได้กินน้ำหวานอบอุ่นร่างกายแล้ว คนบ้านนี้ก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ"ถึงแม้โรงเรือนกระจกของบ้านซานฟู่สามารถสร้างใหม่ได้ แต่ความทุ่มเทของปีนี้ถือว่าเสียเปล่าแล้ว"

ผักในโรงเรือนปลูกไปด้วยขายไปด้วย แต่ชาวบ้านกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้ว พอถึงฤดูใบไม้ผลิบ้านของทุกคนก็ล้วนมีผักกัน ผักก็ไม่มีราคาแล้วสิ

ลั่วเสี่ยวปิงบอกทุกคนว่า รอหลายวันก่อนถึงปีใหม่ คนในหมู่บ้านต่างๆล้วนจะออกมาซื้อของต้อนรับปีใหม่กัน ตอนนั้นจะเป็นโอกาสที่ขายดี

พอลั่วเสี่ยวปิงได้รับประกันแบบนี้ ทุกคนก็ล้วนขยันทำงานมาก ไม่กลัวว่าผักจะเยอะไปแล้ว ต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยปีใหม่

ส่วนบ้านที่เกิดเหตุ ก็ต้องทุ่มเทเปล่าๆแล้วสิ

ได้ยินเช้นนี้ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดแทรกว่า"ขอให้ขยันทำงาน ข้าจะไม่ให้ความทุ่มเทของพวกเขาเสียเปล่าหรอก"

พอคนบ้านนี้ได้ยินแบบนี้ก็ล้วนประหลาดใจ ในที่สุดผู้นำครอบครัวของบ้านนี้ก็ถามลั่วเสี่ยวปิงว่า"เถ้าแก่เสี่ยวปิงหมายความว่าอย่างไรขอรับ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง