แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 274

ลั่วเสี่ยวปิงไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านโดยตรง เพราะจางเอ้อหู่สองพี่น้องตอนนี้ล้วนอยู่ในบ้านของผู้ใหญ่บ้าน

ตอนที่ชั่วเสี่ยวปิงไป ไข้ของจางเอ้อหู่ก็ลดแล้ว แต่ยังสลบอยู่

ลั่วเสี่ยวปิงหยิบหลอดยาขึ้นมาขวดหนึ่ง แล้วให้หมอฉูช่วยป้อนเข้าปากของจางเอ้อหู่

หลอดยาขวดนี้นางเพิ่งไปผสมเสร็จเมื่อกี้นี้เอง มีประโยชน์ในการระงับความรู้สึก เพราะนางกลัวว่าจางเอ้อหู่จะรับความเจ็บปวดในการเล็มแผลไม่ได้ เลยกลับไปผสมมาโดยเฉพาะ

หลังจากยืนยันว่าเด็กหลับไปอย่างสนิท ลั่วเสี่ยวปิงก็ให้หมอฉูออกไปก่อน ให้ไป๋เสาอยู่ช่วย

รอหมอฉูออกไปแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ใช้การปิดบังของแขนเสื้อและเอามีดเล่มหนึ่งออกมาจากสเพซ จากนั้นก็หยิบน้ำแร่วิญญาณที่มียาผสมอยู่ด้วยออกมาขวดหนึ่ง

หลังจากลั่วเสี่ยวปิงใช้น้ำแร่วิญญาณล้างแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ว ก็เตรียมจะใช้มีดไปทำความสะอาดสิ่งสกปรกในบาดแผล

แต่ยังไงลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ใช่หมอมืออาชีพ ดังนั้นเมื่อเผชิญกับสิ่งนี้ มือของลั่วเสี่ยวปิงก็สั่นเล็กน้อย ตั้งนานก็ไม่ได้ขยับเลย

ไป๋เสาเหมือนสังเกตเห็นความผิดปกติของลั่วเสี่ยวปิง เลยอ้าปากพูด"นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้าน้อยมาทำไหมเจ้าคะ?"

ลั่วเสี่ยวปิงลังเลเล็กน้อย ไป๋เสาพูดต่อ"บ่าวล้างบาดแผลให้ตัวเองทุกครั้งที่รับบาดเจ็บ และเคยล้างบาดแผลให้เพื่อนด้วยเจ้าค่ะ"

ในฐานะที่เป็นองครักษ์ เป็นไปไม่ได้ที่ไป๋เสาจะไม่เคยเห็นเหตุการณ์นองเลือดแบบนี้

หรือพูดอีกนัยหนึ่ง สิ่งต่อหน้าพวกนี้ สำหรับไป๋เสาที่ได้ผ่านเหตุการณ์ที่ร้ายแรงต่างๆมานั้น มันไม่เท่าไหร่หรอก

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ ถึงยื่นมีดให้ไป๋เสา

หลังจากบอกไป๋เสาว่าต้องทำยังไงเสร็จ นางก็เริ่มลงมือ ส่วนลั่วเสี่ยวปิงก็เทน้ำแร่วิญญาณขึ้นไป ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกในแผล จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็สั่งให้ไป๋เสาต่อกระดูกให้จางเอ้อหู่

ในทั้งกระบวนการ นายบ่าวสองคนร่วมมือกันได้อย่างดี แต่ความสงสัยในสายตาของไป๋เสาก็มากขึ้นเรื่อยๆ

นางก็ไม่ได้สงสัยในวิธีการเล็มแผล แต่นางรู้ว่าพอทำแบบนี้แล้วมันจะเจ็บขนาดไหน ถึงแม้เป็นผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้วก็ทนไม่ไหวหรอก

แต่เด็กอายุแค่แปดขวบเองทำไม่เจ็บจนตื่นขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ?

หรือว่ายาเมื่อกี้ที่นายหญิงให้เด็กคนนี้กินลงไปนั้นไม่ใช่ยาสลบ แต่เป็น......

ไป๋เสาไม่ได้เก็บไว้ในใจ ถามความสงสัยในใจของตัวเองออกมาโดยตรง

"นี่เป็นยาชา"ลั่วเสี่ยวปิงพูด

ไม่ใช่ยาชาอย่างสมัยปัจจุบันที่ใช้เข็มฉีดเข้าไปในร่างกาย แต่เป็นยาชาที่กินเข้าไป เป็นสิ่งที่นางคิดค้นขึ้นมาเอง และประสิทธิภาพก็ดีมาก เกือบไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย

ยาชา?

ไป๋เสารู้สึกไม่คุ้นเคยกับคำนี้เลย

พอเห็นเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดว่า"ก็คือยาระงับความรู้สึกนี่แหละ พอๆกัน"

พอได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดเช่นนี้ ไป๋เสาก็เข้าใจแล้ว ในขณะเดียวกันก็ตกใจมากขึ้น

ยาระงับความรู้สึก!

นี่เป็นยาวิเศษที่หมอเทวดาฮว่าถัวทำออกมาไม่ใช่หรือ?

แต่ยานี้มันสูญหายไปนานแล้ว มีแค่ยาที่เลียนแบบยานี้ แต่ไม่มีใครทำออกมาได้จริง

ถึงแม้ไป๋เสาตกใจ แต่ก็ไม่ได้เผยแพร่ออกมา

วันนี้นางถามมาเยอะแล้ว ในฐานะที่เป็นองครักษ์มืด นางต้องระงับความสงสัยแบบนี้

ต้องรู้ว่า นายหญิงที่นางติดตามในตอนนี้เป็นคนที่มีความสามารถและคู่ควรกับท่านอ๋องมากก็พอ

ถึงแม้เห็นใจจางเอ้อหู่สองพี่น้อง แต่ไม่มีบ้านไหนสามารถเลี้ยงอีกสองคนเลย

จางเต๋อหวั่งเห็นเช่นนี้ เลยต้องถอนหายใจออกมา"ช่างเถอะ เด็กสองคนนี้ก็อยู่ที่บ้านข้าชั่วคราวละกัน!"

พอจางเต๋อหวั่งเพิ่งพูดออกมา จั่วซื่อภรรยาของจางเหว่ยเม่าก็ไม่ค่อยยินยอม เพราะเตียงที่จางเอ้อหู่นอนอยู่เป็นเตียงของนางกับสามี ถ้าให้เด็กสองคนนั้นอยู่ต่อ นางกับสามีต้องนอนที่ไหนล่ะ?

ถึงแม้ที่บ้านเป็นบ้านอิฐ แต่คนมากมายอาศัยอยู่ด้วยกันก็ถือว่าแออัดมาก

แถมลูกคนเล็กของนางยังต้องอ่านหนังสืออีก ถ้าที่บ้านมีทางรถที่รู้แต่นอนหลับ กินข้าวและร้องไห้อยู่วันๆ ลูกชายของนางจะสอบราชการได้ยังไงล่ะ?

แต่ยังไม่ทันรอให้จั่วซื่ออ้าปาก จางเหว่ยเม่าก็จ้องไปทางจั่วซื่ออย่างแรง ทำให้จั่วซื่อกลืนคำพูดที่จะพูดนั้นกลับไป ปล่อยให้พ่อตาของตัวเองตกลงเรื่องนี้

รายละเอียดเหล่านี้ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นแล้ว แต่นางไม่ได้พูดว่าจะเลี้ยงดูเด็กสองคนนั้นเลย

เพราะคนในตระกูลจางในที่สุดก็ต้องตัดสินว่าให้เด็กสองคนไปที่ไหน นางในฐานะที่เป็นคนนอกไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว

และถ้านางอ้าปากในตอนนี้ ถ้าทีหลังยังมีเรื่องประมาณนี้เกิดขึ้น ทุกคนก็ต้องนึกถึงตัวเองเป็นคนแรก ถ้าไม่ช่วยก็จะถูกกล่าวว่าด้วยวาจา นางไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

แต่เด็กสองคนนี้น่าสงสารจริงๆ นางก็ปล่อยไปเลยก็ไม่ดี

เมื่อนึกถึงที่นี่ ลั่วเสี่ยวปิงก็ยื่นเงินห้าตำลึงให้ผู้ใหญ่บ้าน"ท่านปู่ ข้าก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ เด็กสองคนนี้สงสารมาก เงินห้าตำลึงนี้ก็ถือว่าเป็นค่าข้าวที่ข้าจ่ายให้เด็กสองคน ถือว่าเป็นน้ำใจของข้าเจ้าค่ะ"

ทีแรกจางเต๋อหวั่งไม่อยากรับ แต่เห็นสีหน้าของสะใภ้หลายคน ในที่สุดก็ถอนหายใจแล้วรับ

เหล่าชาวบ้านเห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงทำเช่นนี้ ก็ล้วนทำตาม

แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่มีเงินให้ เลยให้ของกินบ้าง ให้ของใช้บ้าง สิ่งพวกนี้ก็สามารถช่วยได้อยู่ เลยทำให้บรรยากาศดีขึ้นเยอะเลย

แต่ในเวลานี้ อยู่ๆนอกประตูก็มีเสียงตะโกนที่รีบร้อนส่งมา"เสี่ยวปิง เสี่ยวปิง......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง