แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 277

ตามที่ลั่วเสี่ยวปิงคิดเอาไว้ วันนี้คนที่มาในเมืองนั้นเยอะมาก และมีชีวิตชีวาอย่างมาก

มากเสียจนทันทีที่รถม้าของนางเข้าไปในเมือง ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย

ในท้ายที่สุด ลั่วเสี่ยวปิงจึงต้องพาเด็กทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าพร้อมหนานซิงและไป๋เสา

เดิมทีมีเพียงในตลาดเท่านั้นที่สามารถตั้งแผงลอยขายของได้ แต่วันนี้คนเยอะมากจนมีแผงลอยขายของมาตลอดทาง

มีคนขายของมากขึ้น คนซื้อของมากยิ่งกว่า บนถนนหลายสายเต็มไปด้วยผู้คน

อย่าว่าแต่ลั่วเสี่ยวปิงเลย แม้แต่เด็กสองคนเองก็หมดอารมณ์ที่จะเดินเที่ยวแล้ว

ฉะนั้นเป้าหมายของพกวเขาชัดเจนอย่างมาก นั่นก็คือไปที่หอฝูหม่านก่อน

ดูเหมือนจะรู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงจะมาวันนี้ ฉะนั้นเถ้าแก่ฉินจึงรอต้อนรับอยู่หน้าหอฝูหม่านแต่เช้า

เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิง เถ้าแก่ฉินก็ยิ้มหน้าบาน จากนั้นจึงต้อนรับลั่วเสี่ยวปิงไปที่ห้องส่วนตัวชั้นบน ซึ่งจุดนี้สามารถมองเห็นภาพของหอว่านเซียงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้

“ขอบคุณท่านฮูหยิน วันนี้หอฝูหม่านของเราคนเต็มหอจนจะล้นแล้ว” เถ้าแก่ฉินยิ้มอย่างมีความสุข

เมื่อก่อนเขาเป็นเถ้าแก่ที่มีสถานะต่ำสุดในหอฝูหม่าน แต่ตอนนี้เขาภูมิใจในตัวเองอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าเถ้าแก่คนอื่น ส่วนเถ้าแก่คนอื่นๆนั้นอยากจะมาแทนที่เขาอย่างมากในตอนนี้

“ถ้าไม่ใช่เพราะความกล้าที่จะลองทำของเถ้าแก่ฉิน หอฝูหม่านก็คงไม่มีวันนี้” ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มและมอบความดีความชอบทั้งหมดให้เถ้าแก่ฉิน

แท้จริงแล้ว หากตอนนั้นเถ้าแก่ฉินไม่มีความกล้าที่จะให้โอกาสนางลองทำเห็ด เช่นนั้นหอฝูหม่านก็คงจะไม่ร่วมมือกับนาง และนางก็จะไม่เอาสูตรอาหารให้หอฝูหม่าน และหอฝูหม่านเองก็คงไม่มีวันนี้

เถ้าแก่ฉินชอบการชมเชยเช่นนี้ของลั่วเสี่ยวปิงอย่างมาก เขาจึงส่งยิ้มให้ลั่วเสี่ยวปิง

เพียงแต่วันนี้คงจะยุ่งอย่างมาก เถ้าแก่ฉินมิได้กล่าวกระไรมาก ก็เร่งลงไปชั้นล่างไปทำงาน

วันนี้ในเมืองมีคนเยอะมาก คนที่มาร้านก็เยอะเช่นกัน

เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ เมนูใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ถูกติดอยู่หน้าร้านหอฝูหม่าน ส่วนหนึ่งในนั้นมีอาหารนกพิราบห้าเครื่องเทศ กระต่ายแปดสมบัติ ไก่ฝอยเห็ดหูหนูขาว กุ้งหลัวฮ่าน หมูหัน ปลากระป๋องนึ่ง เนื้อกวางหอม และบะหมี่หม่าล่ารวมมิตร

นอกจากนี้ เสี่ยวเอ้อในร้านยังคงตะโกนบอกส่วนลดและราคาพิเศษของวันนี้อยู่ที่หน้าหออีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ถ้าสั่งอาหารใหม่ 3 จาน จะได้ผัดผักฟรี 1 จาน ถ้าสั่งอาหาร 4 จาน จะได้รับอาหารจานใหม่1จาน ถ้าซื้ออาหารครบ 5 ตำลึง จะได้ชานมจากร้านเมืองแห่งอาหารฟรีหนึ่งแก้ว และเมื่อซื้อครบ 10 ตำลึง คุณจะได้ขนมที่ออกใหม่จากร้านเมืองแห่งอาหารที่มีชื่อว่าเค้ก

ด้วยความที่เขาร้องบอกเช่นนี้ คนที่อยากกินข้าวในหอก็เข้ามา ไม่นานหน้าหอฝูหม่านก็มีแต่ลูกค้าเต็มไปหมด มีบางคนไม่อยากต่อแถว อยากจะไปกินที่หอว่านเวียงที่อยู่ตรงข้าม แต่เพื่อนก็ห้ามเอาไว้

“เจ้าโง่หรือ? จะไปที่หอว่านเซียงทำไม? อาหารในหอว่านเซียงอร่อยสู้หอฝูหม่านได้ที่ไหน?”

“จะว่าเช่นนี้ก็มิได้ นกพิราบทอด เนื้อกระต่ายตุ๋น ไก่ผัดรวมมิตร หมูหันย่าง และซุปปลาเนื้อกวางของหอว่านเซียงรสชาติก็เด็ดเหมือนกัน”

“นกพิราบทอด? จะอร่อยสู้นกพิราบห้าเครื่องเทศของหอฝูหม่านได้ยังไง? เนื้อกระต่ายตุ๋นจะอร่อยสู้เนื้อกระต่ายแปดสมบัติได้ยังไง? ไก่ผัดรวมมิตร? จืดซะยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่ายังไงข้าก็อยากลองชิมไก่ฝอยเห็ดหูหนูขาวของหอฝูหม่านมากกว่า หอฝูหม่านยังมีไก่ย่างเป็กย่างอีก มีขนมจากร้านเมืองแห่งอาหารให้กินฟรีอีก......เอาเป็นว่า อาหารที่ออกใหม่หลายเดือนที่ผ่านมานี้ขอหอฝูหม่าน ยังไม่เคยมีจานไหนทำข้าผิดหวังมาก่อน มีอาหารใหม่ในฟอฝูหม่านไม่กิน มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไปหอว่านเซียง”

ชายคนนี้พูดด้วยเสียงที่ดังมากและทำให้คนที่คิดไม่อยากต่อแถวจะไปกินข้าวที่หอว่านเซียงกลับใจอีกครั้ง

ในเวลาต่อมา หลังจากที่เห็นหอฝูหม่านมีคิวยาวมาก และมีอาหารออกใหม่ และยังมีคล้ายกับอาหารของหอว่านเซียงอีก ทุกคนจึงต่อแถวรอกินที่หอฝูหม่านแทน

หอฝูหม่านงานยุ่งอย่างมาก ทั้งเถ้าแก่และพนักงานต่างก็งานยุ่งแต่มีความสุข

ส่วนหอว่านเซียง หน้าประตูมีคนไม่กี่คน เสี่ยเอ้องานว่างจนไม่รู้จะทำอะไร

ส่วนเถ้าแก่นั้นกังวลมากจนแทบจะถอนผมตัวเองออกมาทั้งหมด

“นายท่านสาม...มันไม่ใช่ความผิดของข้าน้อย เพราะฝั่งตรงข้ามเขามีอาหารใหม่......” เถ้าแก่ตกใจกระวนกระวาย

ฮัวเว่ยมาจากข้างนอก ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอก

แม้แต่ตอนที่เขาเข้ามาในร้านอาหารของตัวเอง เขาก็ยังถูกคนที่ต่อแถวมองด้วยสายตาที่มองคนโง่ ซึ่งทำให้เขาโกรธเคืองมากขึ้นไปอีก

ก่อนหน้านี้เขาถูกทุบตีอย่างไร้เหตุผล และยังหาตัวคนทำไม่เจอ ตอนนี้มองไม่เห็นบาดแผลแล้ว เขาจึงอยากมาสำรวจร้านอาหารดูสักหน่อย แต่กลับไม่คิดว่าจะเห็นภาพที่หน้าร้านว่างเงียบเหงาขนาดนี้ มันทำให้เขาโกรธเคืองอย่างมาก

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนคิดเมนูใหม่ของหอฝูหม่าน” ฮัวเว่ยถามด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“เป็นสาวบ้านนอกที่มาจากหมู่บ้านต้าซิง เมื่อสักครู่ข้าน้อยเก็นเถ้าแก่ฉินมาต้อนรับนางด้วยตนเอง” เถ้าแก่กล่าวอย่างรวดเร็ว

ในความเป็นจริง เขาไม่แน่ใจว่าใช่ลั่วเสี่ยวปิงหรือไม่ แต่เนื่องจากลั่วเสี่ยวปิงอยู่ในหอฝูหม่าน ฉะนั้นถือแม้จะไม่ใช่ลั่วเสี่ยงปิง แต่ก็คงต้องบอกว่าเป็นลั่วเสี่ยวปิง

มิฉะนั้น หากเขาบอกว่าไม่ทราบ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก

เมื่อฮัวเว่ยได้ยินว่าเป็นลั่วเสี่ยวปิงอีกครั้ง เจตนาฆ่าก็ฉายแววในดวงตาของเขา

“ดี ดีมาก!” ฮัวเว่ยกัดฟัน “ก่อนหน้านี้นางรอดไปได้ ครั้งนี้ข้าจะคอยดูว่านางจะเอาตัวรอดอย่างไร?”

เมื่อพูดเช่นนั้น ฮัวเว่ยก็โบกมือเรียกเถ้าแก่เข้ามา

เถ้าแก่เข้าใจและขยับเข้าใกล้เขาทันที

หลังจากที่ฮัวเว่ยพูดข้างหูเถ้าแก่เรียบร้อยแล้ว เถ้าแก่ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ออกจากหอว่านเซียงไปตามคำสั่ง.........

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง