แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 287

ฉีเทียนเห้าส่ายหน้า “เรื่องนี้ยังตรวจสอบอยู่...”

เห็นลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้วมุ่น ฉีเทียนเห้ากลับไม่อยากให้นางกังวลกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงดึงนางเข้าอ้อมอก “ฉลองปีใหม่ไม่พูดเรื่องให้เสียอารมณ์แล้ว ฟ้าถล่มยังมีคนตัวสูงแบกรับไว้ ถ้าเจ้าเบื่อ บางทีเราอาจทำเรื่องน่าสนใจนิดหน่อยได้นะ”

ฉีเทียนเห้ากำลังพูดก็อุ้มลั่วเสี่ยวปิงเดินไปทางห้อง

ลั่วเสี่ยวปิงกระจ่างในจุดประสงค์ของฉีเทียนเห้า ทันใดนั้นจึงค้อนถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง “ยังต้องอยู่ข้ามปีอีกนะ”

“อืม เราก็อยู่กันนี่”

จากนั้น ริมฝีปากก็ประกบกับริมฝีปากของลั่วเสี่ยวปิง ไม่ให้นางส่งเสียงต่อต้านใดๆ อีก...

วันขึ้นปีใหม่วันนี้ ทุกคนตื่นกันเช้ามาก ทุกคนเพิ่งอวยพรปีใหม่กันก็มีคนจากหมู่บ้านมาอวยพรปีใหม่ที่เรือนฉี

ถ้าเป็นสมัยก่อน ธรรมเนียมของหมู่บ้านต้าซิงทุกคนจะอวยพรปีใหม่ทีละครัวเรือน แต่ปีนี้ทุกคนในหมู่บ้านต้าซิงต่างมีชีวิตที่ดีเพราะลั่วเสี่ยวปิง ดังนั้นจึงซาบซึ้งลั่วเสี่ยวปิงมาก หลั่งไหลมาหาลั่วเสี่ยวปิงที่นี่

ดีที่ฮันหลินคาดเดาสถานการณ์แบบนี้อยู่แต่แรก เตรียมของจำนวนหนึ่งล่วงหน้าแล้ว ใช้เป็นของขวัญให้คนในหมู่บ้านที่มาอวยพรปีใหม่นำกลับไป

บรรดาชาวบ้านมาด้วยความซาบซึ้งและกลับด้วยความซาบซึ้ง

หลังจากต้อนรับการอวยพรปีใหม่รอบหนึ่งแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็พาฉีเทียนเห้าและเด็กทั้งสองไปสกุลจางและบ้านผู้ใหญ่บ้าน โดยให้หนานซิงและไป๋เสายกของขวัญปีใหม่ที่เตรียมไว้

รอจนอวยพรปีใหม่ทั้งสองบ้านและกลับมาแล้ว ก็เห็นชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเฉินเจียยกขบวนมาอวยพรปีใหม่กับลั่วเสี่ยวปิง

ถึงลั่วเสี่ยวปิงจะเตรียมของขวัญปีใหม่แต่แรกแล้ว แต่กลับไม่ได้เตรียมของเหมือนกับที่ให้คนของหมู่บ้านต้าซิงนำกลับไป แต่ให้ขนมครอบครัวละหนึ่งห่อ ให้นำกลับไปให้เด็กๆ กินเล่น

ชาวบ้านหมู่บ้านเฉินเจียเดิมก็ติดดิน ที่ขาดไม่ได้คือความซาบซึ้งถ้วนหน้า เพราะสำหรับคนธรรมดาแล้วขนมนั้นเป็นของมีราคา

แต่ที่พวกเขาคิดไม่ถึงคือ เท้าหน้าพวกเขาเพิ่งกลับถึงหมู่บ้านเฉินเจีย เท้าหลังของขวัญปีใหม่ที่ลั่วเสี่ยวปิงเตรียมไว้ก็ให้คนส่งมาแล้ว อีกทั้งยังได้ทุกครัวเรือน ในนั้นนอกจากขนมอบยังมีของประเภทผ้าฝ้าย นี่ทำให้คนของหมู่บ้านเฉินเจียซาบซึ้งลั่วเสี่ยวปิงมากกว่าเดิม

ปีใหม่วันที่สอง ที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงนึกไม่ถึงคือ ครอบครัวอู๋วิ่นเฉิงและหราวชิงหย่าต่างก็มามอบของขวัญปีใหม่ให้นางด้วย

ด้วยเหตุนี้เช้าวันที่สาม จึงนำของขวัญปีใหม่ที่เตรียมแล้วนั่งรถม้าไปด้วยกันทั้งบ้าน

เนื่องจากใกล้กับเมือง ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงไปตระกูลอู๋ก่อน

หลังจากเรื่องตระกูลอู๋นั้น อู๋ฮูหยินใหญ่ก็รู้ความผิดของตัวเองในที่สุด และยอมจำนน ขออภัยต่อสองสามีภรรยา

ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องไม่มีอุปสรรคใดที่ผ่านพ้นไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นอู๋วิ่นเฉิงและภรรยาจึงย้ายเข้าอยู่ในตระกูลอู๋

ที่ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงคาดไม่ถึงคือ จิ่นเหนียงก็ตั้งครรภ์ด้วย

ถึงชีพจรจะอ่อนมาก แต่ลั่วเสี่ยวปิงกลับมั่นใจว่าจิ่นเหนียงตั้งครรภ์แล้วจริงๆ

ครั้นคนตระกูลอู๋รู้ข่าว ก็ปลื้มปีติจนหลั่งน้ำตาในช่วงปีใหม่ นอกจากความดีใจ อู๋ฮูหยินใหญ่ยังยัดของดีมากมายใส่รถม้าของลั่วเสี่ยวปิงเป็นการขอบคุณ ลั่วเสี่ยวปิงอยากปฏิเสธก็ทำไม่ได้

เมื่อออกจากตระกูลอู๋ พวกลั่วเสี่ยวปิงก็ไปในเมืองต่อ เพราะตอนที่ถึงในเมืองก็เป็นยามบ่ายแล้ว อวยพรปีใหม่ยามบ่ายไม่ดี ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงพาเด็กๆ ไปพักบ้านที่ฉีเทียนเห้าซื้อ

เรื่องทั่วไปในบ้านย่อยมีคนจัดการโดยเฉพาะ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ต้องเก็บกวาดอะไรอยู่แล้ว

ช่วงเวลาบ่ายยังอีกยาวนาน เด็กๆ ก็เข้าเมืองในช่วงปีใหม่เป็นครั้งแรก ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงตัดสินใจพาเด็กๆ ออกไปเดินเที่ยว ฉีเทียนเห้าย่อมติดตามไปด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นกลุ่มคนจึงยกขบวนออกจากบ้าน

คนในเมืองกลับไม่เยอะมาก เพราะคนบ้านนอกจัดของปีใหม่เสร็จตั้งแต่เดือนสิบสอง บัดนี้กำลังยุ่งอยู่กับการอวยพรปีใหม่ไปทั่ว ย่อมไม่มีเวลาเดินเที่ยวในเมือง

“ว้าว คล้องได้แล้ว คล้องได้แล้ว ยอดไปเลยๆ!” เล่อเล่อกระโดดด้วยความตื่นเต้น ราวกับคนที่คล้องได้เป็นตัวนางเอง

คล้องได้ในห่วงเดียว จึงมีเสียงโห่ร้องดังมาจากในฝูงชน เถ้าแก่โยนห่วงก็ยิ้มชมเชยด้วย “คุณชายน้อยแม่นจริงๆ”

เล่อเล่อ “ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าอยากได้ดอกไม้ประดับศีรษะดอกนั้น สีชมพูอันนั้นน่ะ”

พออานอานโยนไป ก็คล้องได้อีก

ชนะอีกครั้งได้เสียงร้องทั่วหน้า

ถัดมา เล่อเล่อบอกให้คล้องอะไร อานอานก็ทำตาม คล้องได้หมด ไม่มียกเว้น

เล่อเล่อดีใจจนไม่รู้ทิศรู้ทาง เอาห่วงที่เหลือในมือของตัวเองยกให้อานอานหมด

คนหนึ่งสั่งการ คนหนึ่งโยน ทั้งยังแม่นทุกครั้ง กลุ่มคนที่มาดูความสนุกมากขึ้นทุกที คนที่ไชโยก็มากขึ้นเรื่อยๆ ครื้นเครงเป็นที่สุด

เพียงแต่เถ้าแก่โยนห่วงกลับต้องเหงื่อกาฬเต็มหน้าผากเพราะเจออานอานดวงเฮงคนนี้

เช่นนี้ต่อไป เขาต้องขาดทุนหนักแน่

มีคนดูมากขนาดนี้ เขาจึงได้แต่ให้คนโยนห่วงในมือจนหมดทั้งอย่างนั้น ใบหน้าปราศจากรอยยิ้มนานแล้ว เพียงภาวนาในใจอย่าคล้องได้เงินก้อนก้อนนั้น

แต่เรื่องราวกับย้อนแย้งความปรารถนา เล่อเล่อที่หาของที่ชอบไม่ได้ สุดท้ายสายตาจึงตกทอดอยู่กับเงินก้อนนั้น

“ท่านพี่ ยังเหลือห่วงอันสุดท้าย ท่านพี่ก็คล้องเงินก้อนนั้นมาแล้วกัน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง