แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 286

ท่ามกลางความมืด ความตะลึงในดวงตาฉีเทียนเห้าอยู่นานยังคงไม่สลายไป

คลองจักษุเบนจากมือลั่วเสี่ยวปิงไปถึงดวงหน้าลั่วเสี่ยวปิง ความซับซ้อนบนใบหน้าฉีเทียนเห้ามากขึ้นทุกที

ก่อนหน้านี้เสี่ยวปิงบอกกับคนในหมู่บ้านว่าทุกสิ่งที่นางเป็นล้วนร่ำเรียนมาจากเขา จุดนี้เขารู้นานแล้ว เดิมนึกว่านางแอบเรียนอย่างลับๆ ไม่อยากถูกคนอื่นรู้ถึงพูดเช่นนี้ และไม่คิดสืบ

แต่...ตอนนี้ดูแล้วเรื่องจริงมิได้ธรรมดาอย่างนั้น อีกทั้งความลับในตัวนางก็เหมือนไม่เพียงเท่านี้ แต่ความลับของนางเกี่ยวกับที่นางสามารถเสกสั่งของออกมาได้หรือเปล่านะ?

“เจ้าเป็นอะไรไป?” ในห้องมืดเกินไป ลั่วเสี่ยวปิงมองอารมณ์ฉีเทียนเห้าไม่ชัด เห็นฉีเทียนเห้าไม่ขยับจึงอดถามขึ้นไม่ได้ “พิษกำเริบหรือ? เจ้ารีบกินยาถอนพิษเร็ว”

ว่าแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็รีบเดินไปข้างหน้า คลำควานจะป้อนยาถอนให้ฉีเทียนเห้า แต่กลับถูกฉีเทียนเห้าคว้ามือไว้หมับ

ขณะลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะถาม ก็ได้ยินฉีเทียนเห้ากล่าวด้วยเสียงทุ้มหนืด “ข้าไม่เป็นไร”

กลัวลั่วเสี่ยวปิงไม่เชื่อ ฉีเทียนเห้าจึงกล่าวเสริมต่อ “เจ้ายังทำร้ายข้าไม่ได้หรอก”

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้นจึงโล่งอก กำลังจะลุกกลับถูกฉีเทียนเห้าดึงเข้าอ้อมอกอีก “เจ้าทำให้ข้าตกใจ ไม่คิดชดเชยข้ายังอยากไปไหนอีก?”

ในเสียงของฉีเทียนเห้าเต็มไปด้วยความสับสนเด่นชัด

สำหรับความลับของเสี่ยวปิง...แต่ละคนล้วนมีความลับ ในเมื่อนางไม่พูด เช่นนั้นเขาก็จะไม่ถาม

อีกอย่าง ความลับของนางแทบเหนือขอบเขตความรู้ของเขาแล้ว ถึงจะถาม เขาก็ไม่รู้ว่าจะถามอย่างไร ส่วนคำตอบ บางทีเขาก็อาจรู้สึกเหนือกว่าที่เขาจะคาดถึงกว่าเดิม

ดังนั้น ไม่ถามไม่สืบ ช่วยนางรักษาความลับจึงเป็นทางเลือกของเขา

สำหรับเขา ขอเพียงเขาได้อยู่ข้างกายนาง อย่างอื่นก็ไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว

ดังนั้นหลังจากคิดได้ ฉีเทียนเห้าจึงมีอารมณ์หยอกล้อลั่วเสี่ยวปิง

ส่วนลั่วเสี่ยวปิงที่ผ่อนคลายทั้งตัวสติปัญญาก็กลับมา ย่อมฟังความนัยในถ้อยคำของฉีเทียนเห้าออก ‘พรึบ’ หน้าแดงฉับพลัน

ส่วนฉีเทียนเห้าไม่รอให้ลั่วเสี่ยวปิงตอบกลับ อุ้มลั่วเสี่ยวปิงวางบนเตียงทันทีก่อนที่เรือนกายบึกบึนจะทับลงไป...

เช้าวันส่งท้ายปีเก่า เด็กทั้งสองฝึกวรยุทธ์อยู่ในลานบ้านแล้ว

รอจนอานอานกับเล่อเล่อล้างหน้าล้างตาเสร็จเข้าห้องเตรียมเรียกมารดาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าปากประตูมารดามีคนยืนอยู่ ทั้งสองตะลึงทันที

หลังจากเห็นดวงหน้าเด็กทั้งสองตกใจตะลึงอย่างชัดเจนแล้วก็เป็นความยินดียิ่ง

“ท่านพ่อ!” เล่อเล่อตะโกนเรียกด้วยความดีใจ กำลังจะกระโจนเข้าหาฉีเทียนเห้า

ทว่าเล่อเล่อเพิ่งวิ่งไปได้ก้าวเดียวก็ถูกเสียงร้องด้านหลังขัดจังหวะ

เล่อเล่อหันไปด้วยความสงสัย แต่แล้วก็เห็นซ่งหลิงหลิงที่ออกมาจากห้องตรงข้ามชี้ฉีเทียนเห้าด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ

“เจ้าๆๆ...” ซ่งหลิงหลิงพูดเจ้าสามครั้งแล้วถึงสูดลมหายใจเข้าลึก “เจ้าอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

กล่าวจบ ซ่งหลิงหลิงก็ชี้ไปทางอานอานกับเล่อเล่อ ชี้ไปชี้มา สุดท้ายนิ้วก็หยุดที่ตัวเล่อเล่อ “เมื่อกี้เจ้าเรียกเขาว่าอะไรนะ?”

อานอานกับเล่อเล่อมองกันไปมองกันมา เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมซ่งหลิงหลิงจึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้

ฉีเทียนเห้าแค่กวาดมองซ่งหลิงหลิงทำเป็นตื่นตกใจชืดๆ จากนั้นก็เข้าไปกอดอานอานกับเล่อเล่อไว้กับอก มือข้างละคน

“คิดถึงพ่อไหม?” ฉีเทียนเห้ามองเจ้าตัวเล็กทั้งสอง

เล่อเล่อคล้องคอฉีเทียนเห้าขวับ “คิดถึงท่านพ่อแล้ว”

อานอานมองฉีเทียนเห้าสายตาหนึ่งก่อนจะเบือนหน้า พูดหยิ่งนิดๆ “ไม่คิดถึง”

ฉีเทียนเห้า “...” ยังเป็นลูกสาวที่ชิดใกล้

วันส่งท้ายปีเก่า ทุกคนกินอาหารพร้อมหน้า กลางคืนกินเกี๊ยวแล้วก็เริ่มอยู่รอข้ามปี

แต่เด็กทั้งสองเนื่องจากอายุยังน้อย ยังไม่ถึงเวลาก็หลับปุ๋ยไปแล้ว ฉีเทียนเห้ากับลั่วเสี่ยวปิงจึงอุ้มคนละคน ส่งเข้าห้องของพวกเขาไป

จากนั้นในเรือนหลักจึงเหลือแต่ลั่วเสี่ยวปิงกับฉีเทียนเห้าสองคน สำหรับซ่งหลิงหลิง นางไปเกาะแกะกับอู้เจิน

ทั้งสองรอข้ามวันจะไม่พูดอะไรก็ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ลั่วเสี่ยวปิงจึงถามถึงเรื่องแคว้นซีหรง

“เรื่องนี้ ไม่เพียงเกี่ยวพันกับแคว้นซีหรง” ฉีเทียนเห้าเอ่ย “บางทีหนานเจียงทางนั้นอาจเป็นต้นเหตุด้วยก็ได้”

ลั่วเสี่ยวปิง “หนานเจียงไม่ใช่มีความวุ่นวายภายในหรือ?”

ในเมื่อมีความวุ่นวายภายใน แล้วทำไมถึงมีเวลาคิดแตกแยกกับต้าชิ่งอีก?

“ถึงหนานเจียงจะวุ่นวายมาก แต่หัวหน้าเผ่าของชนเผ่าม้งกลับไม่ยอมหนานเจียง จะขึ้นกับต้าชิ่งเท่านั้น ดังนั้นความร่วมมือกับแคว้นซีหรง อยากรอให้แคว้นซีหรงบุกเข้าต้าชิ่ง ฉวยโอกาสตอนที่ต้าชิ่งยุ่งงวดต่อต้านต้าชิ่งแล้วตั้งตนเป็นเอกเทศ”

“แล้วครั้งนี้เรื่องพิษกู่ล่ะ เจ้าสืบชัดแล้วหรือ?” ลั่วเสี่ยวปิงสงสัย

“อืม” ฉีเทียนเห้าพยักหน้า “หลายปีมานี้แคว้นซีหรงทางนั้นอาหารค่อนข้างขาดแคลน สถานการณ์ก็สั่นคลอน ที่จริงลงมือกับตาชิ่งเวลานี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่ดีสักเท่าไร หากเดาไม่ผิด แคว้นซีหรงน่าจะเตรียมใช้วิธีลับ ดังนั้นถึงใช้พิษกู่กับหมอชายแดนทางนี้”

ลั่วเสี่ยวปิงฟังถึงตรงนี้ก็อดตกใจไม่ได้ ในหัวสมองมีความคิดเขย่าขวัญมากขึ้นอีกหนึ่ง “ความหมายเจ้าคือ แคว้นซีหรงเตรียมวางยาพิษต้าชิ่ง?”

ฉีเทียนเห้าพยักหน้า

“พิษอะไร? พวกเขาเตรียมวางยาเมื่อไร? พวกเขาใช้พิษกู่จัดการกับหมอทางนี้ หรือจะลงมือกับหมอที่อื่นพร้อมกันด้วย?”

ที่ลั่วเสี่ยวปิงตระหนกเช่นนี้ เป็นเพราะฐานที่เป็นคนสมัยปัจจุบันรู้ดีถึงอันตรายเรื่องสงครามการวางยาพิษประเภทนี้ดีที่สุด

ถ้าแคว้นซีหรงทำเช่นนี้จริง เช่นนั้นจะภัยอันตรายของประชาชนที่นี่ กระทั่งประชาชนต้าชิ่งทั้งหมดด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง