แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 302

ลั่วเสี่ยวปิงจ้องมองหวังเถาฮวาอย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร ภายใต้สายตาที่น่ากลัวของลั่วเสี่ยวปิง ในที่สุดหวังเถาฮวาก็ก้มหน้าลง ไม่กล้าแก้ตัวอีก

คนที่ล้อมรอบอยู่ล้วนเห็นหวังเถาฮวายอมรับเอง เลยไม่รู้สึกสงสารหวังเถาฮวาอีก ใบหน้าของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความผิดหวัง รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆเลย

ไม่นานมือปราบก็มา หวังเถาฮวาก็ถูกพาไป

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปที่คนอื่นอย่างเย็นชา และพูดอย่างเย็นชาว่า"ทำงานที่นี่ มีโอกาสเพียงครั้งเดียว หากครั้งต่อไปมีใครเกิดความคิดที่ไม่ควรมี หรือฝ่าฝืนเงื่อนไขในข้อตกลงลงรักษาความลับ งั้นก็ไม่ใช่ว่าเพียงส่งไปที่หยาเหมินอย่างเดียวนะ"

ถึงแม้ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดว่าจะเป็นยังไง แต่ไหนๆก็ได้พูดแล้วว่าโหดกว่าส่งไปที่หยาเหมินอีก และตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดคำพูดนี้ดูน่าเกรงขามมาก ทุกคนเลยรู้สึกกลัวยิ่งขึ้น ต่างคนต่างแสดงความจงรักภักดีว่าจะไม่หักหลังแน่นอน

แถมยังมีคนสาบานโดยตรง

มีคนหนึ่งสาบาน คนอื่นก็เลียนแบบสาบานตาม

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้ห้าม เพราะคนสมัยนี้เน้นคำสาบานมาก

แต่ถึงแม้มีคนผิดคำสาบานนางก็ไม่กล้ว วิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูของวันนี้ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว

เรื่องต่อมาลั่วเสี่ยวปิงก็มอบให้หญิงชราซูจัดการ ส่วนตัวเองก็ออกไปจากโรงงาน

หลังจากออกจากโรงงานผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ไปโรงงานเครื่องปรุงรสต่อ

โรงงานเครื่องปรุงรสเปิดแค่สองวัน คนงานล้วนถึงกันแล้ว

เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คนของโรงงานเครื่องปรุงรสก็มากกว่า และงานก็หนักกว่าด้วย ดังนั้นส่วนใหญ่เลยเป็นผู้ชาย

ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้อยู่ในโรงงานเครื่องปรุงรสนาน หลังจากเดินตรวจสอบตามอัธยาศัยแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็กลับไปที่บ้าน

แต่ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ถึงหน้าประตูบ้าน ก็เห็นหลี่ต้าวิ่งไปทางบ้านอย่างรีบร้อน

เห็นลักษณะที่รีบร้อนแบบนั้น ที่บ้านน่าจะเกิดเหตุขึ้น

ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของลั่วเสี่ยวปิงมีความจริงจังพาดผ่าน และในใจก็เกิดความคาดเดาต่อเรื่องที่เกิดด้วย

อย่างที่คิด รอลั่วเสี่ยวปิงเดินเข้าบ้าน ก็เห็นว่านอกจากฉีเทียนเห้ากับเด็กสองคนแล้ว คนอื่นล้วนอยู่ในลานบ้าน

และสีหน้าของทุกคนล้วนไม่ค่อยดี ส่วนคนเดียวที่ไม่กระทบ ก็คงเป็นอู้เจินที่นั่งสมาธิอยู่ใต้หลังคา

สายตาของลั่วเสี่ยวปิงกวาดมา ก็เห็นแม่นางจ้าวในที่ไม่ไกลกำลังอุ้มหลี่อิงที่หน้าซีดและนอนอยู่บนพื้นอย่างเพลียอยู่

มุมปากหลี่อิงมีเลือดไหลออกมา บนร่างกายยังมีรอยเท้าอยู่ เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บภายใน

ส่วนหลี่ต้าเพิ่งเข้าบ้านมาไม่นาน ดังนั้นฉากต่อหน้านี้ทำให้เขาในฐานะที่เป็นชายร่างใหญ่นั้นยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จะทำตัวยังไงดี

เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิงเข้ามา หลี่ต้าถึงฟื้นสติกลับ

ตามด้วยเสียง"ปัง" หลี่ต้าก็คุกเข่าลงบนพื้นหินสีเขียวอย่างหนัก

หลี่ต้าไม่มีเวลาไปคำนึงถึงความเจ็บปวดบนหัวเข่า กราบใส่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างเดียว"บ่าวสั่งสอนลูกสาวไม่ดีขอรับ นายหญิงโปรดลงโทษบ่าวขอรับ"

หลังจากกราบไปหลายทีติดต่อกันแล้ว หน้าผากของหลี่ต้าก็เขียวช้ำขึ้นมา

อาจจะเป็นเพราะว่ารู้เรื่องที่เกิดแล้ว ดังนั้นอารมณ์ของหลี่ต้าดูตกต่ำมาก ในสายตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บใจ

ส่วนพอแม่นางจ้าวไดเยินเสียงนี้ ก็วางหลี่อิงไว้บนพื้น

จากนั้นคลานไปทางลั่วเสี่ยวปิง พร้อมกล่าวขอร้องว่า"นายหญิงโปรดเมตตาเถอะ นายหญิงโปรดเมตตาเจ้าค่ะ"

รอมาถึงข้างหลี่ต้า แม่นางจ้าวก็ไม่ได้ขึ้นไปอีก ขอร้องว่า"นายหญิงเจ้าคะ โปรดช่วยเสี่ยวอิงของข้าเถอะเจ้าค่ะ บ่าวมีแค่ลูกสาวคนเดียวเท่านั้น เสี่ยวอิงรู้สึกผิดแล้ว ทีหลังนางไม่กล้าทำอีกแล้ว นายหญิงโปรดช่วยเสี่ยวอิงเถอะเจ้าค่ะ"

ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่ทันได้ตอบ ซ่งหลิงหลิงที่อยู่ข้างๆและสีหน้าก็แย่อยู่ก็เดินออกมา ชี้ไปที่แม่นางจ้าวแล้วด่าว่า"เจ้ามีแค่ลูกสาวเดียวก็อย่างไรเล่า?ลูกสาวของเจ้ามายั่วยวนเสด็จ......อาเล็กของข้า คิดจะให้อาของข้านอกใจอาสะใภ้ เจ้ายังมีหน้ามีให้อาสะใภ้ของข้าช่วยลูกสาวของเจ้าอีก?นึกว่าลูกสาวของเจ้าเป็นผู้ดีมีตระกูลใครๆล้วนต้องตามใจนางหรือไง?ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาลูกสาวเจ้าสิ ไม่มีสิทธิ์กระทั่งถือรองเท้าให้อาสะใภ้ของข้าเลย"

หลีอิงก็ไปทำขนมที่ห้องครัวแล้วส่งไปที่ห้องหลัก ยังคิดจะแกล้งเป็นว่าล้มลงไปทางฉีเทียนเห้า

ในที่สุด รับโทษตามกรรมที่ตัวเองทำไว้ ยังไม่ทันได้โดนฉีเทียนเห้า ก็ถูกฉีเทีนเห้าเตะออกไปจากห้องหลัก

หลี่อิงอาเจียนเลือดออกมา ทำให้คนในบ้านล้วนตื่นตระหนก

แต่ฉีเทียนเห้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แค่บอกว่ารอลั่วเสี่ยวปิงกลับมาค่อยจัดการ แล้วพาเด็กๆออกจากบ้าน บอกจะไปดูที่ภูเขาหน่อย

เมื่อฟังซ่งหลิงหลิงเล่าเสร็จ ลั่วเสี่ยวปิงก็หันไปมองหลี่อิง สีหน้าสงบมาก ไม่เห็นอารมณ์มีการแปรปรวนใดๆ

นางรู้ว่าหลี่อิงเป็นคนไม่อยู่นิ่ง สักวันหนึ่งจะเกิดเหตุขึ้นแน่นอน แต่เพื่อซื้อใจคน เลยให้โอกาสนาง แต่คิดไม่ถึงว่าความสนใจของหลี่อิงอยู่ที่ฉีเทียนเห้า

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ควรกล่าวว่าหลี่อิงคิดเพ้อเจ้อ ไม่รู้จักตำแหน่งของตัวเอง หรือต้องนับถือในการกล้าคิดกล้าทำของนาง

ในที่สุด สายตาของลั่วเสี่ยวปิงย้ายกลับมาจากร่างของหลี่อิง ผ่านแม่นางจ้าวโดยตรง และมองไปทางหลี่ต้า"หลี่ต้า เจ้าว่าเรื่องนี้ข้าควรจัดการยังไงดี?"

หลี่อิงคนนี้ นางจะไม่ให้อยู่ต่อแน่นอน

ถ้าให้คนแบบนี้อยู่ต่อ นางจะต้องขยะแขยงอีกต่อไป

ส่วนหลี่ต้าคนนี้ ถือว่าเป็นคนเก่งในด้านการเกษตร ส่วนจะให้คนนี้อยู่ต่อหรือเปล่า ยังต้องดูว่าท่าทีของเขาเป็นอย่างไร

หากหลี่ต้าลำเอียงไปที่ลูกสาวตัวเอง งั้นถึงแม้นางให้หลี่ต้าอยู่ต่อ หลี่ต้าก็อาจไม่ทำงานอย่างเต็มที่ ในที่สุดยังอาจเกิดความไม่พอใจต่อนางเพราะเรื่องของลูกสาว

คนที่ไม่มีความภักดีแบบนี้ ถ้าหากให้อยู่ต่อ ก็มีแต่เสีย

แต่หากหลี่ต้าสามารถปฏิบัติอย่างเป็นธรรมโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ และไม่คิดร้ายต่อนางด้วย นางก็อาจสามารถให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง

อยู่ที่ว่าหลี่ต้าเองจะเลือกยังไง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง