แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 309

หลังจากทุกคนพูดไม่ออกกับการตอบตกลงของลั่วเสี่ยวปิงแล้วก็เริ่มรู้สึกเห็นใจ

เพราะใครๆก็คิดเช่นเดียวกับจูฉวนฝู ว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่สามารถรักษาใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นให้หายดีได้ในเวลาอันสั้น

“ในเมื่อลงเดิมพันแล้ว ควรถึงเวลาที่จะประกาศ” จูฉวนฝูมีท่าทางเหมือนกำชัยชนะไว้ในมือ

แต่ลั่วเสี่ยวปิงกลับถอยไปข้างๆ แล้วมองไปยังจูฉวนฝูบางเบา “ในเมื่อเจ้าใจร้อนมากนัก ไม่สู้เปิดคำตอบด้วยตัวเองไปเลยล่ะ”

จูฉวนฝูขมวดคิ้วมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาเจือความสงสัย

เหตุใดเขาไม่เห็นความตื่นตระหนกบนใบหน้าของนางเลย หรือว่านางรักษาใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้จริงๆ

เพิ่งคิดแบบนี้ แต่จูฉวนฝูก็ปัดความคิดที่ดูเหมือนจะไร้สาระนี่ทิ้งไป

เพื่อไม่เป็นการทำให้ตัวเองต้องกลัวไปก่อน จูฉวนฝูจึงไม่รอช้าอีก เดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้นทันที

เพียงแต่มันอธิบายไม่ถูก ยิ่งเขาเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกตระหนกมากขึ้นเท่านั้น

อดทนต่อความไม่สงบในจิตใจ จูฉวนฝูเอาผ้าคลุมหน้าออกจากใบหน้าของหญิงสาว

ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วบริเวณเงียบสงัด

“ไม่...” จูฉวนฝูตกใจจนก้าวถอยหลัง “เป็นไปไม่ได้”

คนอื่นๆ ที่รอคอยอยากรู้ผลมานานแล้วต่างมองไปทางผู้หญิงคนนั้น ทันใดนั้นสถานการณ์ก็เงียบลงเรื่อยๆ

ไม่มีใครเชื่อว่าใบหน้าที่ดูสยดสยองก่อนหน้าที่จะเข้าไป จะกลับออกมาแล้วเป็นปกติโดยสิ้นเชิง

ถึงขั้นที่ว่าผิวยังดูบอบบางและมองไม่เห็นร่องรอยใดๆ ราวกับเป็นคนละคน

หลังจากจูฉวนฝูเสียอาการไปชั่วขณะ ไม่นานก็ได้สติกลับมา ชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับพูดว่า “เจ้าเป็นใคร เจ้าเป็นคนที่นางหามาเป็นตัวปลอมใช่ไหม”

 ไม่เพียงแต่จูฉวนฝูเท่านั้นที่ตั้งคำถามถึงตัวตนของผู้หญิงคนนั้น รวมถึงผู้ชมทุกคนก็สงสัยในตัวตนของผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน

เพราะไม่มีใครเชื่อว่าในเวลาอันสั้น จะสามารถทำให้ใบหน้าของคนคนหนึ่งกลับคืนสู่สภาพปกติได้จริงๆ

อืม ถ้าลั่วเสี่ยวปิงไม่มีน้ำแร่วิญญาณจากอดีต ลั่วเสี่ยวปิงก็คงจะสงสัยด้วยว่าต่อให้นางเป็นหมอยาที่เก่งที่สุด การจะฟื้นฟูใบหน้าที่เปลี่ยนโฉมไปไม่มีชิ้นดี ก็ต้องใช้เวลาวันหรือสองวันถึงจะได้

แต่คนพวกนี้สงสัยไปก็ไม่มีประโยชน์ ความจริงก็คือความจริง

โดยไม่รอให้ลั่วเสี่ยวปิงอธิบาย มีผู้หญิงที่เสียโฉมในฝูงชนจำตัวตนของผู้หญิงคนนั้นได้ “ชิงเหนียง เจ้าคือชิงเหนียงจริงๆ ใช่ไหม”

ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าชิงเหนียงพยักหน้าเบาๆ จากนั้นจึงถอดผ้าพันแผลเปื้อนเลือดบนหน้าผากตัวเอง “ข้าก็คือชิงเหนียง ไม่มีใครสับเปลี่ยนข้า”

ยังเป็นเสียงที่คุ้นเคยสำหรับทุกคน และตำแหน่งของบาดแผลก็ยังเป็นตำแหน่งที่ทุกคนคุ้นเคย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสงสัยตัวตนของชิงเหนียงอีกต่อไป

ผู้หญิงที่คุยกับชิงเหนียงเป็นเพื่อนสนิทของชิงเหนียง ยังได้พาชิงเหนียงไปซื้อของที่จูกี้ด้วย

เมื่อเห็นชิงเหนียงพูด นางจึงมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “หมอเทวดาหญิง ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วยนะ”

เมื่อมีคนพูด คนที่เสียโฉมที่เหลือก็ต่างล้อมเข้ามาราวกับเห็นฟางเส้นสุดท้าย พากันขอร้องลั่วเสี่ยวปิง

หลังจากจูฉวนฝูตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่แล้วก็รีบได้สติอย่างรวดเร็วและคิดจะแอบหนีไปในเวลานี้

แต่ฉีเทียนเห้าที่ยืนอยู่หน้าประตูไหนเลยจะปล่อยให้เขาหนีได้ ทำการเรียกให้หยุด “คิดหนี?”

แค่สองคำกับดวงตาเย็นชาที่หรี่ลงเล็กน้อย และความกดดันที่มองไม่เห็นซึ่งแผ่ออกจากตัวฉีเทียนเห้า ก็ทำให้จูฉวนฝูแทบผวาจนล้มลงไปกองกับพื้น

ลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองผ่านฝูงชนไปทางประตู ก่อนจะส่งสัญญาณมือให้ทุกคนเงียบ “การช่วยพวกท่านน่ะไม่ยาก เพียงแต่พวกท่านก็ได้ยินเกี่ยวกับที่ข้าสัญญาเดิมพัน ไม่รู้ว่าพวกท่านเต็มใจตามข้าไปด้วยกัน...”

กัวหงหยางเพิ่งสัญญากับลูกสาวว่าจะไปงานเทศกาลโคมไฟในคืนนี้ “…….....”

กัวหงหยางมองไปที่กัวอานหนานอย่างขอโทษ แต่เห็นกัวอานหนานหันหน้าหนีเพราะความโกรธไปแล้ว

หราวชิงหย่าเห็นกัวอานหนานเป็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วจิ้มศีรษะกัวอานหนาน “เจ้านี่ ยังจะไปโกรธท่านพ่อของเจ้าอีก บางทีครั้งนี้ทุกอย่างอาจเป็นไปด้วยดี พ่อของเจ้าอาจจะสามารถกลับมาก่อนคืนนี้และไปกับเจ้าได้”

หราวชิงหย่าพูดอย่างนั้นแล้วมองไปที่กัวหงหยาง “ท่านไปเถอะ ข้าอยู่กับหนานเอ๋อร์เอง ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ”

กัวหงหยางประทับใจมากกับความเข้าใจของหราวชิงหย่า รู้สึกลำคอตีบตัน อยากบอกว่าจะเลื่อนคดีไปไต่สวนในวันพรุ่งนี้ แต่คำพูดที่มาถึงปากกลับกลายเป็น “ลำบากเจ้าแล้ว หนานเอ๋อร์”

หราวชิงหย่ายิ้มแล้วโบกมือให้กัวหงหยาง

กัวหงหยางรีบไป หราวชิงหย่าพูดกับลูกสาวที่ยังคงโมโหว่า “พ่อของเจ้าเป็นคนแบบไหนเจ้ายังไม่รู้อีกเหรอ เขาอุทิศตนเพื่อประชาชน หรือว่าเจ้าอยากให้พ่อทำเพื่อเจ้าแล้วชะลอความคับข้องใจของประชาชนไว้”

เหตุผลที่หราวชิงหย่าตกหลุมรักกัวหงหยางในคราแรก ก็เพราะความซื่อตรงของกัวหงหยาง ตอนนี้นางไม่ต้องการให้ลูกสาวเอาใจออกห่างสามีเพราะความซื่อตรงของเขา

กัวอานหนานได้ยินเช่นนี้ก็ส่ายหน้า “ไม่ใช่นะท่านแม่ ข้าไม่ได้ตำหนิท่านพ่อ เพียงแต่...”

“รู้ว่าเจ้าต้องการให้พ่อไปด้วย แต่พ่อของเจ้าจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับมาไปกับเจ้าทันเวลาแน่ นี่ท้องฟ้าก็ยังไม่มืดเลย ถูกไหม”

ได้ยินหร่าวชิงหย่าพูดเช่นนี้ ความโกรธของกัวอานหนานก็มลายหายไป

อันที่จริงก็ไม่ได้โกรธท่านพ่อมากนัก แค่รู้สึกแย่ที่ท่านพ่อไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ต่อให้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ตาม

อีกด้านหนึ่ง กัวหงหยางเข้าไปทางด้านหลังของหยาเหมิน ใช้เวลาอันรวดเร็วเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบขุนนาง ขึ้นนั่งในศาลแล้วสั่งเปิดศาล

แต่เมื่อเห็นลั่วเสี่ยวปิงกับฉีเทียนเห้ายืนอยู่หน้าศาลก็พลันตกตะลึงนิ่งค้าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง