แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 314

“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะตระกูลจูของเรา ข้ารู้สึกละอายใจอย่างสุดซึ้ง จะกล้าคัดค้านได้ยังไง แล้วแต่ใต้เท้าจะพิจารณา” จูเหวินรุ่ยพูดได้ดีมาก แต่ในใจเวลานี้มืดมนแค่ไหนมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้

กัวหงหยางจ้องมองจูเหวินรุ่ยด้วยดวงตาทรงอำนาจ ราวกับว่าเห็นอะไรบางอย่างจากใบหน้าของจูเหวินรุ่ย จูเหวินรุ่ยเองก็มองกัวหงหยางด้วยลักษณะที่ซื่อตรง แต่มือในแขนเสื้อกลับเหงื่อออก

เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าตระกูลจูจะร้ายกาจเพียงใด มีคนอยู่ในราชสำนักยังไง ก็ไม่สามารถต่อสู้กับลูกเขยของขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ที่มีลูกศิษย์มากมายได้

หลังจากเวลาผ่านไปนาน เมื่อจูเหวินรุ่ยกำลังจะรักษาสีหน้าเอื้อเฟื้อไม่ได้อีกต่อไป กัวหงหยางถึงได้พยักหน้าและพูดว่า “ไม่คัดค้านก็ดี”

หยุดไปครู่หนึ่งและถามอีกว่า “ส่วนเรื่องค่าชดเชยสำหรับคนที่ซื้อสินค้าปลอม พวกเจ้าตระกูลจูจะ...”

“เรื่องเกิดขึ้นเพราะตระกูลจู ตระกูลจูย่อมชดเชยให้พวกนางเป็นสองเท่า” จูเหวินรุ่ยยังคงพูดได้ดีมาก ในน้ำเสียงเจือความจริงใจ

กัวหงหยางมองจูเหวินรุ่ย และมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง ราวกับใช้สายตาถามลั่วเสี่ยวปิงว่าพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้หรือไม่

ไม่รู้ทำไม กัวหงหยางรู้สึกว่าความคิดเห็นของลั่วเสี่ยวปิงอาจมีความสำคัญมาก

และโดยอัตโนมัติที่กัวหงหยางเหลือบมองฉีเทียนเห้าที่อยู่ข้างกายลั่วเสี่ยวปิงด้วย

ตั้งแต่วันนั้นที่เขาไปเป็นแขกในจวนฉีเทียนเห้า เมื่อใดก็ตามที่เขานึกถึงฉีเทียนเห้า ในใจก็เกิดความรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล

ทว่าหลังจากสบสายตาเย็นชาของฉีเทียนเห้า กัวหงหยางจึงละสายตาไปอย่างหงุดหงิด พอดีกับที่เห็นลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้าเล็กน้อย

ทั้งกัวหงหยางและลั่วเสี่ยวปิงต่างรู้ดีว่าตระกูลจูเป็นผู้บงการเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ จูฉวนฝูเป็นเพียงคนที่ทำงานให้ผู้อื่น ท้ายที่สุดก็ตกเป็นแพะรับบาปไป

แต่การรู้เป็นเรื่องหนึ่ง การได้หลักฐานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถ้ามีคนเต็มใจออกมารับผิด เรื่องนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนี้

ต่อให้เรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านและสืบต่อไป เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ตระกูลจูก็ยังคงแค่ถูกตั้งข้อหาล้มเหลวเรื่องการควบคุมดูแลข้อหาเดียว

ในทางตรงกันข้าม ตอนนี้การบอกให้ตระกูลจูชดใช้เงินสองเท่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และยังเป็นการปลอบโยนต่อผู้ที่ซื้อของปลอมอีกด้วย

สามฝ่ายในเวลานี้ดูเหมือนจะได้ความสมดุลกันแล้ว กัวหงหยางมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอีกครั้ง “คราวนี้เจ้าก็ตกเป็นเหยื่อด้วย และสูญเสียทางการเงินไปมาก ในเมื่อร้านเครื่องสำอางจูกี้ถูกยึดแล้ว เช่นนั้นก็ถือเป็นสิ่งชดเชยให้เจ้า”

ทันทีที่ได้ยินว่าชดเชยร้านค้าให้ตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงก็ดวงตาเป็นประกาย

แต่หลังจากที่เห็นเหยื่อพวกนั้น ลั่วเสี่ยวปิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ครั้งนี้เหยื่อที่ได้รับความเสียหายทางร่างกายและจิตใจอย่างมหาศาลที่สุดคือพวกนาง ข้าคิดว่าร้านเครื่องสำอางควรมอบให้พวกนาง”

แม้ว่าใบหน้าของผู้หญิงเหล่านี้จะสามารถรักษาหายได้ แต่เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อพวกนางจนไม่อาจขจัดได้ไปอีกระยะหนึ่งอย่างแน่นอน เอาร้านเครื่องสำอางมาชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจให้พวกนางก็ถือว่าเหมาะสม

ส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 300 ชุดที่นางสูญเสียไป...

ลั่วเสี่ยวปิงมองไปยังจูเหวินรุ่ย ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แน่นอนว่านางมีวิธีให้จูเหวินรุ่ยคายออกมา

ทันทีที่คิดแบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็อารมณ์ดี

โดยไม่คาดคิดเมื่อเหล่าผู้หญิงที่เสียโฉมได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ต่างก็คุกเข่าคำนับให้ลั่วเสี่ยวปิงด้วยความซาบซึ้งทันที

หนึ่งในนั้นพูดว่า “หมอเทวดาหญิงบอกแล้วว่าจะรักษาหน้าให้เราโดยไม่คิดเงิน ไหนเลยเราจะรับของที่ควรเป็นของหมอเทวดาหญิงได้”

และอีกคนก็เสริมด้วยว่า “ใช่ หมอเทวดาหญิง ร้านเครื่องสำอางนั่นเราไม่ต้องการ เราต้องการแค่หมอเทวดาหญิงรักษาใบหน้าของพวกเรา เราก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว”

คนอื่นๆ เห็นด้วย บอกว่าไม่ต้องการค่าชดเชย แค่ต้องการให้ลั่วเสี่ยวปิงรักษาใบหน้าพวกนางได้ก็พอ

เพียงแต่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่มีการตอบสนองเป็นเวลานาน พวกนางก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้ว่าพวกนางกำลังคิดมาก ดังนั้นจึงอธิบายว่า “พวกท่านวางใจ แม้ว่าผลจะแย่หน่อย แต่ก็สามารถทำให้ใบหน้าของพวกท่านกลับมาเป็นปกติได้ภายในสามวัน”

ความแตกต่างระหว่างยาสามัญและยาวิเศษก็แค่ความรวดเร็วเท่านั้นเอง

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ทุกคนถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพากันบอกว่าพรุ่งนี้จะไปที่ถงเหรินถังแน่นอน

เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว กัวหงหยางถอยออกจากศาลไป จูฉวนฝูกับกลุ่มคนของโรงงานใจชั่วถูกควบคุมตัว เพียงแต่ผู้คนยังไม่ได้แยกย้ายกันไป

เวลานี้ ฮูหยินคนนั้นที่ยังคงยืนอยู่ด้านหน้าพูดกับลั่วเสี่ยวปิงว่า “เมื่อไรแม่นางลั่วจะเปิดหอเหมยเซียงในเมืองอีกที่หนึ่งล่ะ”

นางหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่าหอเหมยเซียงของพวกท่านไม่เพียงแต่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี แม้แต่เครื่องสำอางก็หลากหลาย สามารถทำให้คนขี้เหร่งดงามขึ้นได้สามส่วน ไม่รู้ว่าข้าจะโชคดีพอได้ใช้มันหรือไม่”

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินคำพูดนี้แล้วยิ้มให้นาง “วันนี้ต้องขอบคุณฮูหยินที่เต็มใจให้ข้ายืมของที่มีอยู่ในมือ ถึงทำให้ข้าได้ขจัดข้อกล่าวหา หากฮูหยินชอบเครื่องสำอาง ข้ามอบให้ฮูหยินหนึ่งชุดก็ได้”

เมื่อฮูหยินคนนั้นได้ยินก็ยิ้มกว้าง “เช่นนี้หากไม่รับก็ถือว่าไม่ให้เกียรติแล้ว เพียงแต่สุดท้ายข้าก็ต้องใช้หมด ไม่สู้ท่านกับข้าร่วมการค้ากัน เปิดหอเหมยเซียงอีกแห่งในอำเภอเป็นยังไง”

ที่แท้มีความคิดจะร่วมการค้านี่เอง

“ขอโทษจริงๆ ข้าได้เจรจาร่วมการค้ากับคนอื่นที่นี่แล้ว” ลั่วเสี่ยวปิงปฏิเสธ

เมื่อเห็นว่าแม้แววตาของฮูหยินคนนั้นจะมีความผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้มีความโกรธเพราะเหตุนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงรู้สึกดีกับนางขึ้นมาบ้าง

“เช่นนั้นแสดงว่าในอำเภอนี้ก็จะมีหอเหมยเซียงด้วย มันเป็นข่าวดีสำหรับผู้หญิงเรา” พูดอย่างนั้นแล้วนางก็มองลั่วเสี่ยวปิงอย่างลึกซึ้ง และทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง “ข้าเป็นฮูหยินของตระกูลหยิน แล้วเราจะได้พบกันใหม่” ก่อนจะผลักฝูงชนออกไปท่ามกลางสาวใช้โอบล้อม

ที่นี่ไม่มีเรื่องแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจึงจะไป แต่กลับถูกเสียงต่ำเรียกรั้งไว้

“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง