"เสี่ยวปิง บ้านเราไม่ใช่ครอบครัวที่แบ่งแยกคนไม่ถูก"ความกังวลของลั่วเสี่ยวปิง จางเฉินซื่อเห็นกับตา เลยพูดอย่างจริงจัง"เด็กคนนั้นเป็นคนดี แค่ไปพบคนอย่างอันธพาลจ้าว ไม่ใช่ความผิดของนาง"
ลั่วเสี่ยวปิงตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าความคิดของจางเฉินซื่อจะเปิดกว้างเช่นนี้
หลังจากเฉินซื่อกล่าวความคิดของตัวเองเสร็จ ก็พูดอย่างรีบร้อน"ครั้งนี้เข้าใจผิดมากเช่นนี้ ควรไปอธิบายให้ชัดเจนใช่ไหม?ไม่งั้นข้าไปเอง?"
พานหยิงหยิงเป็นคนแบบไหนจางเฉินซื่อไม่รู้ แต่จางเฉินซื่อรู้เรื่องหนึ่งอย่างชัดเจน คนที่ลั่วเสี่ยวปิงให้ความสำคัญ ไม่แย่ไปถึงไหนอยู่แล้ว
และลักษณะของต้าหลาง ดูชอบคนนั้นจริงๆ
ถึงแม้การแต่งงานครั้งแรกต้าหลางมองคนผิดเอง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะมองคนผิดทุกครั้ง
สองคนที่เคยโดนทำร้ายมารวมตัวอยู่ด้วยกัน ถึงยิ่งรู้ว่าต้องรักษากันและกัน
ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าจางเฉินซื่อไม่ซีเรียสจริงๆ ก็โล่งอกโล่งใจลง แต่กลับอดไม่ได้ที่จะมองไปทางจางต้าฉวน
เห็นลั่วเสี่ยวปิงมองตัวเอง จางต้าฉวนยิ้ม"เรื่องในบ้านป้าของเจ้าเป็นคนตัดสินทั้งนั้น"
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะ รู้สึกว่าบรรยากาศของบ้านจางดีจริงๆ
หากไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้มีเมี่ยวชุ่ยหลาน บ้านจางคงได้เจอคนที่ดีกว่า
แต่คนเรามักจะต้องเจอสิ่งที่ไม่ดี ถึงจะรักษาความดีงามที่หายากเอาไว้ หากเรื่องครั้งนี้ทำได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเจอ หรือเป็นพานหยิงหยิง ล้วนเป็นบุญ
"ตอนนี้ไปอธิบายก็เปล่าประโยชน์ สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือรีบหาหลักฐานพิสูจน์ว่าเด็กในท้องของเมี่ยวชุ่ยหลานไมได้เป็นของบ้านจาง"ลั่วเสี่ยวปิงหยุดสักพักหนึ่ง และพูดต่อ"ข้าได้บอกกับตระกูลพานแล้ว ให้พวกเขาให้เวลาสามสี่วัน"
ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้อธิบายว่า เวลาสามวันนี้นางเสนอกับพานหยิงหยิงเอง ส่วนพานหยิงหยิงจะตัดสินใจยังไง นางก็ไม่รู้
หวังว่าพานหยิงหยิงจะอดทนรออีกสามวันเพื่อความรักของตัวเอง
จางเฉินซื่อได้ยินว่ามีเวลาให้สามวัน ก็โล่งใจลงมาหน่อย แต่ต่อจากนั้นก็รีบร้อนขึ้นมาอีก
"มีคนมาแย่งสะใภ้กับบ้านเราแล้ว เราจะล้าหลังไม่ได้นะ ต้องรีบเตรียมสินสอด"จางเฉินซื่อตบขาแล้วลุกขึ้นมา"ไอ้แก่ พรุ่งนี้เราไป......จัดซื้อสินสอดในเมืองกัน"
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ อยู่ๆก็เกิดความคิดขึ้นมา เลยพูดว่า"เตรียมได้เลย แถมยังต้องเตรียมอย่างยิ่งใหญ่มโหฬาร"
คนบ้านจางได้ยินเช่นนี้ ก็ล้วนมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง
ลั่วเสี่ยวปิงยิ้ม จากนั้นบอกแผนของตัวเองให้คนของบ้านจางฟัง
เวลานี้ ในห้องกำลังปรึกษาเรื่องนี้กันอย่างครึกครื้น แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าคนที่ควรหลับอยู่ในตอนนี้ กลับยืนอยู่หน้าประตูอย่างโดดเดี่ยว และฟังการสนทนาของพวกเขาลงไปหมด......
เช้าวันรุ่งขึ้น จางเฉินซื่อกับจางต้าฉวนสองคนก็นั่งรถวัวออกจากหมู่บ้าน พอเจอใครก็พูดอย่างมีความสุขว่าตัวเองไปเตรียมสินสอด
ไม่นานเรื่องนี้ก็ส่งเข้าไปยังหูของเมี่ยวชุ่ยหลาน ตอนแรกเมี่ยวชุ่ยหลานรู้สึกว่ามันน่าสงสัย เพราะไม่เชื่อว่าบ้านจางจะเตรียมสินสอดให้ตัวเองจริงๆ
จนกว่าตอนบ่าย รถวัวของบ้านจางกลับมา
บนรถวัวมีผ้าเกรดดีๆจำนวนไม่น้อย และยังมีกล่องเล็กกล่องใหญ่อีกมากมาย
บนกล่องมีระบุชื่อร้านขนมในเมือง ส่วนบางกล่องเห็นก็รู้ว่าเป็นเครื่องประดับ
คนเหล่านี้ล้วนหุ่มผ้าแดงไว้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ซื้อมาใช้ในประจำวัน
เห็นของเต็มรถวัวนั้นเข้าไปในบ้านจาง เมี่ยวชุ่ยหลานถึงเชื่อว่าบ้านจางได้ไปเตรียมสินสอดจริงๆ
ถึงแม้บ้านจางอนุญาตให้ตัวเองเป็นแค่เมียน้อย แต่มีสินสอดที่ดีขนาดนั้น มันก็ไม่แย่
ระหว่างที่คิด เมี่ยวชุ่ยหลานก็กลับไปในกระท่อมเก่าแก่ของตระกูลเหยียนอย่างสบายใจ
ส่วนวันนี้ เดิมทีลั่วเสี่ยวปิงไม่ต้องมาเหรินโซ่วถังในเมือง แต่ตั้งแต่เช้าลั่วเสี่ยวปิงก็ปรากฏตัวในเหรินโซ่วถัง
พนักงานเห็นลั่วเสี่ยวปิงมา ก็ทักทายทันที
"แม่นางลั่ววันนี้ไม่ต้องมาไม่ใช่หรือ?"หลังจากทักทายเสร็จ พนักงานก็ถามอย่างสงสัย
"ข้ามาหาคุณชายของพวกเจ้า เขาอยู่หรือเปล่า?"
บางครั้งที่จับชีพจรได้ไม่แม่น ยังต้องให้เขาไปดู จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงค่อยแยกแยะและออกสูตรยา แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้อัตราการหายดีของผู้ป่วยนางก็สูงกว่าตัวเองมากมาย
แต่สิ่งเหล่านั้น โดยทั่วไปแล้วล้วนเป็นเพราะลั่วเสี่ยวปิงไม่ค่อยมั่นใจ ถึงให้ตัวเองช่วยดู ไม่เคยทมาสอบถามเขาอย่างจริงจังเช่นนี้
เห็นได้ชัดว่า นางพบปํญหาที่ยุ่งยากจริงๆ
"ข้าจับชีพจรของหญิงมีครรภ์คนหนึ่ง ดูจากชีพจร นางมีครรภ์มาสี่เดือนแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อว่านางมีครรภ์สี่เดือนจริงๆ ไม่ทราบว่าสามารถปลอมชีพจรได้หรือเปล่า!"
ลั่วเสี่ยวปิงถามความสงสัยในใจออกมาโดยตรง
นางรู้สึกว่าด้านนี้เป็นด้านที่นางไม่ถนัด แต่ซุนมู่หยางรู้แน่นอน
อย่างที่คิด ซุนมู่หยางพยักหน้าอย่างมั่นใจ"ได้!"
ลั่วเสี่ยวปิงตาสว่างขึ้นมา มองไปที่ซุนมู่หยางอย่างแน่วแน่
ถูกลั่วเสี่ยวปิงมองด้วยสายตาแบบนี้ ซุนมู่หยางก็ย้ายสายตาออกเพราะไม่ค่อยสบายใจ แต่สีหน้ากลับจริงจังมาก
"มียาต้องห้ามชนิดหนึ่ง กินแล้วจะปลอมชีพจรได้ ท้องแค่หนึ่งเดือนก็สามารถทำให้เหมือนสี่ห้าเดือน แต่ยาแบบนี้เกือบไม่มีคนจะกิน"
"เพราะเหตุใด?"ลั่วเสี่ยวปิงถามด้วยจิตสำนึก แต่พอถามเสร็จอยู่ๆลั่วเสี่ยวปิงก็เหมือนคิดอะไรได้"ผลข้างเคียงของมันรุนแรงไปใช่ไหม?"
ซุนมู่หยางพยักหน้า"หลังจากกินยาต้องห้ามนี้แล้ว ทารกในครรภ์ก็จะหยุดการเจริญเติบโต และตายในครรภ์ ดังนั้นน้อยมากที่จะมีคนเลือกกินยาแบบนี้"
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็บึ้งตึง
ไอ้เมี่ยวชุ่ยหลานเห็นแก่ตัวจริงๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง แม้กระทั่งทารกในครรภ์ก็นำมาใช้ประโยนช์ได้
ถ้าเป็นสถานการณ์แบบนี้ พอถึงเวลาที่ซ่อนไม่ได้ นางคิดจะแกล้งทำเป็นว่าแท้งหรือ?
พอยิ่งคิด ลั่วเสี่ยวปิงก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจเมี่ยวชุ่ยหลาน
ถอนหายใจออกมา ลั่วเสี่ยงวปิงมองซูนมู่หยาง และถามว่า"ต้องทำอย่างไรถึงตรวจเดือนที่แท้จริงของทารกในครรภ์ได้?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...