ถึงแม้จะอยู่ในห้อง ไม่มีทางที่จะมีคนนอกได้ยิน แต่ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ยังขยับเข้าไปกระซิบบอกความคิดของตัวเองข้างหูของจูถงผู่
จูถงผู่ได้ยินแล้ว ก็มองลั่วเสี่ยวจู๋ด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง
ลั่วเสี่ยวจู๋ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “คุณชายใหญ่ เสี่ยวจู๋บังเอิญได้ยินคนพูดถึง ก็เลย……”
พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวจู๋ก็มีใบหน้าแดงระเรื่อ จากนั้นก็กระทืบเท้าแล้วพูดอย่างเขินอายว่า “ถ้าคุณชายใหญ่รู้สึกว่าความคิดของเสี่ยวจู๋ไม่ดี งั้นก็คิดเสียว่าเสี่ยวจู๋ไม่เคยพูดถึงแล้วกัน ยังไงร้านหนังสือนี่ก็เป็นชื่อของเสี่ยวจู๋ คุณชายใหญ่เสียไปเท่าไหร่ ก็ถือว่าเสี่ยวจู๋ติดค้างท่านก็แล้วกัน เสี่ยวจู๋จะคืนทั้งเงินและดอกให้คุณชายใหญ่ภายในสามปีนี้”
ว่าแล้วก็กลับหลังหันให้จูถงผู่ แต่ตอนนี้กลับหลังหันนั้น สายตาก็ประกายออกมาด้วยความดูถูก
ความคิดที่นางพูดมานั้น เป็นความคิดที่ได้ยินมาจากชาติก่อนของตระกูลจู
ตระกูลจูเป็นศูนย์รวมของความเสื่อมโทรม ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน นางไม่เชื่อว่าจูถงผู่จะไม่หวั่นไหว
เหมือนที่ลั่วเสี่ยวจู๋คิดไว้ไม่มีผิด จูถงผู่หวั่นไหวแล้ว
ในสายตาของจูถงผู่แล้ว ตระกูลจูหาเงินจากทุกอย่าง
จูถงผู่เดินเข้าไปกอดลั่วเสี่ยวจู๋ไว้ “น้องนางของข้า ข้าจะให้เจ้าคืนเงินได้ยังไงกัน?”
ผู้หญิงคนนี้มีค่ามาก รู้เรื่องไม่น้อย เมื่อครู่เขาพลั้งมือตบหน้านางไป ไม่งั้นระยะเวลาสั้นๆนี้นางก็ยังมีคุณค่ามาก
ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวจู๋ก็เป็นผู้หญิงที่เขาถูกใจเหมือนกัน
ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก แค่พูดอย่างลังเลว่า “คุณชายใหญ่ เสี่ยวจู๋มีความคิดหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณชายใหญ่ต้องการไหม?”
จูถงผู่: “เจ้าว่ามา”
ลั่วเสี่ยวจู๋จึงขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของจูถงผู่
จูถงผู่ได้ยินแล้วก็ตกตะลึงมาก: “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าจะสู้รบ?”
ลั่วเสี่ยวจู๋: “”
นางจะพูดยังไงล่ะ?
ชาติก่อนหลังจากการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง แคว้นซีหรงก็ได้เปิดศึกสงคราม
เพราะอ๋องเซ่อเจิ้งตายไป ภายในราชสำนักไม่มีแม่ทัพที่มีความสามารถ จึงทำให้ต้าซิงค่อยๆพ่ายแพ้
ว่ากันว่า องค์หญิงหกที่ส่งไปอภิเษกสมรสเพื่อกระชับสัมพันธ์ไมตรีที่แคว้นหรง ถูกทหารของแคว้นซีหรงกระทำชำเราต่อหน้าทุกคน จึงทำให้องค์หญิงตายในที่สุด
ความอัปยศนี้ทำให้ต้าซิงไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้หลายปี
เพราะแพ้สงคราม ไม่รู้ว่าต้าซิงต้องสูญเสียไปมากเท่าไหร่
ดังนั้น ชาตินี้ก็ต้องมีการสู้รบเช่นกัน
และขอแค่สู้รบ ก็ต้องมีอาหาร ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่นักธุรกิจด้านอาหารแห้งหาเงินได้เยอะ
“คุณชายใหญ่ไม่ต้องสนหรอกว่าเสี่ยวจู๋รู้ได้ยังไง ถ้าคุณชายใหญ่ไม่กลัวเสี่ยง ก็เชื่อเสี่ยวจู๋เถอะ เริ่มสะสมอาหารแห้งก่อน ถ้าไม่เชื่อ งั้นก็ถือเสียว่าเสี่ยวจู๋ไม่เคยพูดอะไรก็แล้วกัน”
สิ่งที่ลั่วเสี่ยวจู๋เคยพูดมา แทบจะตรงหมดทุกอย่าง วิธีการหาเงินที่พูดมาตอนนี้ จูถงผู่จะไม่เชื่อได้ยังไง?
นึกถึงค่าอาหารในช่วงสงคราม จูถงผู่ก็ทนนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว แค่พูดปลอบลั่วเสี่ยวจู๋ไม่กี่คำ ก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
รอจูถงผู่ออกไปแล้ว ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ไปหาพนักงานในร้าน “เจ้าไปสืบดูสิว่า ใครได้เป็นลูกศิษย์ของเว่ยต้าหรู”
พนักงานได้ยินแล้ว ก็รีบไปสืบทันที
ลั่วเสี่ยวจู๋ลูบใบหน้าที่บวมแดงของตัวเองในห้องด้วยสายตาที่แหลมคม
ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าคิดจะเข้ามายุ่งกับแผนการของนาง นางจะไม่ปล่อยไว้แน่
ยังมีตระกูลจูอีก……นางจะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาเสื่อมเสียให้ได้……
……
พริบตาเดียว อานอานกับจูเหวินเฉิงต่างก็ไปโรงเรียนแล้ว
หลังจากที่มีสาวรับใช้สองคนเป็นเพื่อน ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้สึกเล่อเล่ออารมณ์ดีขึ้นเยอะมาก ทุกวันเอาแต่ฝึกต่อสู้กับสาวรับใช้สองคน ไม่ก็พาสาวรับใช้สองคนไปขึ้นเขาลงนา
พริบตาเดียว ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็วางใจแล้วทำธุระของตัวเองได้สักที
วันนี้ เป็นวันที่ลั่วเสี่ยวปิงออกไปรักษาอีกแล้ว
เพราะตอนนี้หุ่นของหยางซีมีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ชื่อเสียงที่ช่วยลดน้ำหนักได้ของลั่วเสี่ยวปิงก็ดังออกไปไกล ดังนั้นวันนี้หน้าเหรินโซ่วถังมีภาพปรากฏการณ์แปลกประหลาด
วันปกติ ถึงแม้จะมีคนอ้วนบ้าง แต่คนที่อ้วนมากๆกลับเป็นอะไรที่หาดูยาก
แต่มาวันนี้ พวกคนอ้วนเหมือนนัดกันมารวมตัวกันมาที่เหรินโซ่วถัง
ดูขบวนแถวที่ยาวเหยียดแล้ว มีคนมากกว่าสิบคนขึ้นไป
คนอ้วนพวกนี้มีอ้วนท้วน และอ้วนแบบอวบๆ พวกเขามีสิ่งที่เหมือนกันก็คือ สายตาเต็มไปด้วยความหวัง
เพราะยังไงก็มีแต่คนอ้วนเท่านั้นถึงจะรู้ว่า อ้วนสำหรับพวกเขาไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยมั่งคั่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์มากกว่า
ยังดีที่ภาพปรากฏการณ์นี้ลั่วเสี่ยวปิงคาดการณ์เอาไว้แล้ว ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงเตรียมยาลดน้ำหนักเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
วัดชีพจรให้พวกเขาทีละคน แน่ใจว่าร่างกายไม่มีปัญหาแล้ว ก็ให้ไปซื้อยาลดน้ำหนักที่พนักงาน ถ้าเป็นคนอ้วนที่ร่างกายมีปัญหา ลั่วเสี่ยวปิงก็จะรักษาให้พวกเขาก่อน แล้วค่อยให้ไปซื้อยาลดน้ำหนัก
แน่นอนว่าคนเยอะขนาดนี้ ลั่วเสี่ยวปิงคงรักษาคนเดียวไม่ทัน ดังนั้นจึงลากซุนมู่หยางมาช่วยด้วย
เห็นว่าคนเริ่มน้อยลงแล้ว และตอนนี้เอง ก็มีคนวิ่งเข้ามาในเหรินโซ่วถังอย่างร้อนใจ
“เจ้านาย เจ้านาย——”
ตอนแรกลั่วเสี่ยวปิงยังไม่สนใจ คิดว่ากำลังตะโกนเรียกคนอื่น
จนกระทั่งลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นมาก จึงเงยหน้าขึ้น เห็นว่าชุนวังเบียดอยู่ด้านหลังของพวกคนอ้วน
เห็นลั่วเสี่ยวปิงมองมาทางนี้ ชุนวังก็โล่งอก “เจ้านาย เกิดเรื่องแล้ว——”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...