จางเสี่ยวหลิงสื่อความหมายว่า เมื่อก่อนตอนลั่วเสี่ยวปิงชี้แนะสั่งสอนนาง นางยังห่วงใยญาติพี่น้องอยู่ และไม่สามารถตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้
หากตอนนั้นเด็ดเดี่ยว วันนี้ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก
ลั่วเสี่ยวปิงมองจางเสี่ยวหลิง แล้วกล่าวว่า“แกะหายล้อมคอก ก็ยังมิสายเกินไปนะ”
อย่างน้อยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของจางเสี่ยวหลิงก็สามารถลิขิตตัดสินใจด้วยตนเองได้
นี่เป็นเหตุผลที่ตอนอยู่เรือนของจางต้าโถว ที่นางไม่ได้ออกหน้าช่วยเหลือจางเสี่ยวหลิง
มีบางเวลา มีบางเรื่อง เมื่อคนที่อยู่ข้างๆช่วย มันก็มิสู้ได้บรรลุเป้าหมายแล้วเดินออกมาด้วยตนเองหรอกนะ
ในวันนี้ จางเสี่ยวหลิงพูดกับลั่วเสี่ยวปิงมากมาย รวมถึงวันข้างหน้ามีการวางแผนอะไรแบบไหนด้วย
เรื่องการแต่งงานของจูต้าหรงแน่นอนว่านางไม่มีทางยินยอม ส่วนเหรียญยี่สิบตำลึงนั้น เอารวบรวมแล้วนางยังสามารถคืนได้
ส่วนความสัมพันธ์กับเฉินต้าจ้วง เมื่อพูดถึง จางเสี่ยวหลิงค่อนข้างเสียใจ ทว่าไม่ได้พูดอะไรมาก
พูดเพียงแค่ว่า หากไม่มีพรหมลิขิต ก็ช่างเถิด ตนเองใช้ชีวิตตลอดไปกับเสี่ยวยาก็ได้
ลั่วเสี่ยวปิงดูออกว่าจางเสี่ยวหลิงค่อนข้างล่าถอย แต่ล้วนเป็นเรื่องส่วนตัวของนาง ลั่วเสี่ยวปิงเลยไม่ได้จะแทรกแซง
หากสุดท้ายป้ากุงสามารถยอมรับจางเสี่ยวหลิงได้ เช่นนั้นคือดีอกดีใจกันทุกคน หากไม่สามารถรับได้ หรือใจของจางเสี่ยวหลิงเองรู้สึกมองหน้ากันไม่ติด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งหนทางแล้ว
สองวันนี้พอดีกับลั่วเสี่ยวปิงไม่ต้องไปที่เมือง จางเสี่ยวหลิงเลยพูดว่าอยากจะพักอยู่กับนางสักสองวัน ลั่วเสี่ยวปิงเองก็มิได้ปฏิเสธ
แต่เรื่องของจูต้าหรงจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ลั่วเสี่ยวปิงกลัวว่าจางเสี่ยวหลิงจะเสียเปรียบ จึงได้สั่งให้อั้นหวู่ตามไปด้วย
เป็นอย่างที่คิด จูต้าหรงไม่ได้ให้จางเสี่ยวหลิงคืนเหรียญถอนหมั้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แต่มีอั้นหวู่อยู่ด้วย เรื่องของจางเสี่ยวหลิงก็ถือว่าแก้ไขได้อย่างราบรื่นดี
แก้ไขปัญหาอันใหญ่หลวงเรียบร้อยแล้ว ชัดเจนว่าจางเสี่ยวหลิงโล่งอกขึ้นมาก แต่ขณะที่อยู่เรือนของลั่วเสี่ยวปิง ก็ไม่ได้ออกไปเดินเล่น
ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่า นางไม่อยากจะเจอพวกจางต้าโถว ก็เลยไม่บีบบังคับฝืนใจ
วันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงได้ปรึกษาหาลือกันกับจางเสี่ยวจวนเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องปัญหาหาของการขยายโรงงานเซรามิค ตอนที่กลับเรือน กลับได้เห็นเด็กคนหนึ่งยืนอยู่บนถนน
คนนั้นคือจางเอ้อหู่
แต่เดิมจางเอ้อหู่เป็นเด็กอ้วนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่บ้าน เป็นเด็กที่กินเล่นและองอาจเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้จางเอ้อหู่ผอมลงมาก ชัดเจนว่าคนทั้งคนขรึมลงไม่น้อย
ก็ใช่ เมื่อไม่มีพ่อแม่แล้ว อาศัยเด็กสองคนสามารถเลี้ยงดูตนเองได้นั้นไม่ง่ายเลย
ลั่วเสี่ยวปิงสงสารจางเอ้อหู่สองพี่น้อง แต่ก็นอกเหนือจากเหรียญที่ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยดูแลบ้างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้จางเอ้อหู่มารับรู้
และตั้งแต่ภัยพิบัติหิมะครั้งนั้น ในความเป็นจริง ลั่วเสี่ยวปิงได้เจอจางเอ้อหู่น้อยครั้งมาก
วันนี้จางเอ้อหู่มารออยู่ตรงหน้า ท่าทางลังเลใจและมองมาทางนางอยู่เป็นนิจ ชัดเจนว่ามาหานางโดยเฉพาะ
สัญชาตญาณของลั่วเสี่ยวปิงจึงสั่งให้เร่งฝีเท้า มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจางเอ้อหู่
“เจ้ามาหาข้าหรือ?”ลั่วเสี่ยวปิงกล่าวถาม ด้วยน้ำเสียงที่พยายามนุ่มนวลอย่างที่สุด เพียงเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กตกใจ
จางเอ้อหู่ส่ายหน้าไปมา จากนั้นพยักหน้าทันที พร้อมกล่าวว่า “เอ่อ….เอ่อคือ…เสี่ยว พี่เสี่ยวปิง ข้า……”
จางเอ้อหู่ตื่นเต้นมาก เหมือนคนลิ้นจะพันกันแล้วอะไรประมาณนั้น เขาเก้ๆกังๆอยู่นาน ก็ไม่พูดออกมา
ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่ได้รีบร้อน นางรอจางเอ๋อหู่รวบรวมคำพูดได้อย่างเงียบๆใจเย็น และพยายามไม่กดดันเขา
ลั่วเสี่ยวปิงมองท่าทางอ่อนหัดของจางเอ้อหู่ ยิ้มแล้วไม่ได้ตอบกลับ แต่ย้อนถามว่า“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
จางเอ้อหู่ กล่าวว่า “……ข้าไม่อยากหูฝาดขอรับ……”
หากไม่ได้หูฝาด หากเป็นเรื่องจริง เขากับน้องชายก็จะไม่หิวตายแล้ว และก็จะไม่กลายเป็นขอทานด้วย
ลั่วเสี่ยวปิงมองท่าทางตื่นเต้นของจางเอ้อหู่ อดไม่ได้ที่จะเจ็บแปลบหัวใจ กล่าวว่า “เจ้าไม่ได้หูฝาดหรอก”
ได้ยินคำตอบทั้งหมด จางเอ้อหู่ดีใจเป็นบ้าเป็นหลังกล่าวว่า “ข้าตกลง ข้าตกลงที่จะเรียนทำบัญชีขอรับ”
ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลว่าตนเองกับเก่าเซิ่งจะหิวตาย และก็ยังสามารถปลูกเรือนอิฐหลังใหญ่เหมือนกับลุงต้าฉวนด้วย
คิดแล้ว จางเอ้อหู่จึงรีบคุกเข่าให้ลั่วเสี่ยวปิง “พี่เสี่ยวปิง ขอบคุณท่านมากขอรับ ท่านคือผู้มีพระคุณอันใหญ่หลวงของข้ากับเก่าเซิ่งขอรับ”
ลั่วเสี่ยวปิงรีบประคองจางเอ้อหู่ลุกขึ้น นางรู้สึกเจ็บแปลบหัวใจอย่างแปลกประหลาด
ควรจะเป็นช่วงอายุที่ไร้ซึ่งกังวลแท้ๆ แต่กลับต้องกลัดกลุ้มเรื่องการใช้ชีวิตเลี้ยงชีพ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้งคนเท่านั้น
“พอแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถิด รอวันพรุ่งนี้เจ้าค่อยไปเรียนกับลุงต้าฉวนนะ”ลั่วเสี่ยวปิงกล่าวกับจางเอ้อหู่
จางเอ้อหู่ได้ฟัง จึงรีบพยักหน้าอย่างจริงจัง กล่าวว่า “พรุ่งนี้ข้าจะต้องไปให้ตรงเวลาอย่างแน่นอนขอรับ”จางเอ้อหู่ตั้งใจเด็ดเดี่ยวอยู่ภายในใจ ว่าตนเองจะต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ไม่มีทางทำให้ลั่วเสี่ยวปิงผิดหวังโดยเด็ดขาด
หลังจากได้รับคำอนุญาตจากลั่วเสี่ยวปิงแล้ว เขาจึงวิ่งออกไปด้วยความสุขใจ
เมื่อมองเห็นแผ่นหลังจางเอ้อหู่วิ่งไปไกลแล้ว ใจของลั่วเสี่ยวปิงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาโดยฉับพลัน
ลั่วเสี่ยวปิงเป็นคนที่มีความคิดก็ต้องการดำเนินการกระทำเลยทันที ด้วยเหตุนี้นางเลยเปลี่ยนจังหวะการสาวเท้าที่เตรียมจะกลับเรือน หมุนไปเรือนผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านแทน…...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...