คำพูดของจางเฉินซื่อที่จะโน้มน้าวต่อติดอยู่ในลำคอ ถามคำถามด้วยความสงสัยขึ้นอย่างอ้อมค้อม ในตาเต็มไปด้วยตะลึงและงงงัน
จิตใจผ่อนคลายลง ขณะที่จางเฉินซื่อกำลังจะพูดอะไรอีกครั้ง เห็นลั่วเสี่ยวปิงพยุงคนไว้สิ้นเปลืองแรงจริงๆ หันหน้ามาตำหนิลูกชายทั้งสองของตัวเอง
“พวกเจ้านิ่งอึ้งทำอะไร? ยังไม่รีบช่วยเสี่ยวปิงพยุงอีก ไม่มีความคิดรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าสักน้อย ให้กำเนิดพวกเจ้าสองพี่น้องไร้ประโยชน์จริงเชียว”
หลังจากต้าหลางเอ้อหลางถูกแม่ของตัวเองตำหนิ ไม่เพียงไม่มีความไม่พอใจ แต่กลับหน้าแดงอยู่ระยะหนึ่ง
คิดว่าพวกเขาผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทั้งสองยังไม่สงบนิ่งเท่าท่านแม่และเสี่ยวปิงที่เป็นผู้หญิงตัวน้อยๆผู้หนึ่ง กลับถูกสถานการณ์เล็กน้อยนี้ทำให้ตกใจจนอึ้งไปอีก
ละอายใจก็เรื่องของละอายใจ ทั้งสองคนก็ยังรีบรับฉีเทียนเห้ามาจากมือของลั่วเสี่ยวปิงแล้ว
เห็นดังนี้ จางเฉินซื่อจึงได้เตรียมจะถามคำพูดเมื่อครู่ที่ยังไม่ได้ถามออกไป
เพียงแต่เมื่อคำพูดแขวนไว้ข้างปาก จางเฉินซื่อก็กลืนกลับลงไปชั่วขณะ เพราะว่านางนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน
อดไม่ได้ จางเฉินซื่อเบิกตาโพลง มองดูลั่วเสี่ยวปิงด้วยสีหน้าตะลึงงัน
ลั่วเสี่ยวปิง“?” นางถูกมองจนงงงัน
“เสี่ยวปิง เจ้าบอกความจริงกับอา คนผู้นี้มีความเกี่ยวข้องกับพ่อของเด็กใช่หรือไม่?” จางเฉินซื่อสีหน้าจริงจัง
ไม่โทษที่จางเฉินซื่อถามคำถามเช่นนี้อีก ก็รู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงแทบจะเติบโตมาภายใต้สายตาของจางเฉินซื่อ ลั่วเสี่ยวปิงแทบจะไม่เคยออกจากหมู่บ้านเลย แล้วจะไปรู้จักชายที่เลือดเต็มตัวดูเป็นคนไม่ค่อยจะธรรมดาได้จากที่ไหน?
เพียงครั้งเดียวที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้อยู่ใต้สายตาของจางเฉินซื่อก็คือไม่กี่วันนั้นของห้าปีที่ก่อน
แน่นอน อันที่จริงคนทั่วไปจะไม่เชื่อมโยงกันไปใหญ่โตเช่นนี้
ความจริงจางเฉินซื่อรู้สึกว่าหลายปีมานี้ลั่วเสี่ยวปิงลำบากเกินไปแล้ว หวังว่าจะมีชายคนหนึ่งดูแลกันกับลั่วเสี่ยวปิง
นี่ไม่ใช่หรือ จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา จางเฉินซื่อจึงคิดว่า จะเป็นผู้ชายคนนั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับลั่วเสี่ยวปิงหรือไม่นะ?
ลั่วเสี่ยวปิงคิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าจางเฉินซื่อจะถามเช่นนี้ เดิมทีเหตุผลที่นางคิดจะแต่งเรื่องคือ ผู้ชายคนนี้เป็นศิษย์พี่ของนาง
อย่างไรเสียในอนาคตนางจะต้องพัฒนาความสามารถของตัวเองแน่นอน เช่นนั้นก็ต้องสร้างเรื่องอาจารย์ผู้หนึ่งขึ้นมา
ในเมื่อมีอาจารย์ มีศิษย์พี่ก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ?
เพียงแต่ เมื่อคิดตามคำพูดนี้ของจางเฉินซื่อ เหมือนว่าเหตุผลนี้ก็ท่าทางไม่เลวเช่นกัน
อย่างไรเสียท่านพ่อของอานอานเล่อเล่อเป็นใครก็ไม่รู้ เช่นนั้นนางจะใช้ท่านพ่อของพวกเขามาสร้างเรื่องไม่ได้หรือไง?
คิดว่า เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตดูแลอานอานเล่อเล่อมาห้าปีแล้วชายคนนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัว ก็น่าจะไม่ปรากฏตัวอีกแล้วล่ะมั้ง?
ลั่วเสี่ยวปิงคิดเช่นนี้ จึงพยักหน้า “ป้าท่านเดาไม่ผิด เขามีความเกี่ยวข้องกับพ่อของเด็กเล็กน้อยจริงๆ”
ได้ยินดังนั้น จางเฉินซื่อสีหน้าดีใจทันที “เสี่ยวปิง หลายปีมานี้อาก็ไม่กล้าถามเจ้าเรื่องพ่อของเด็ก แต่อาอยากรู้เป็นอย่างมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเด็กกันแน่ เจ้าจะบอกอาได้หรือไม่?”
ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าจางเฉินซื่อถามคำเช่นนี้ออกมาไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่เป็นห่วงนางจริงๆ
แต่เมื่อนางตั้งใจจะเอาพ่อของอานอานเล่อเล่อมาเป็นฉากกั้น แน่นอนว่านางจะต้องทำข้อแก้ต่างขึ้นมาชุดหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงก้มศีรษะลง สีหน้าปวดร้าว “พ่อของเด็ก......เกรงว่าจะกลับมาไม่ได้แล้ว.......”
จางเฉินซื่อได้ยินดังนี้ ความปีติยินดีก็หายไปหมดสิ้น เบ้าตาก็แดงขึ้นในพริบตา ดวงตาก็เต็มไปด้วยความสงสาร
แม้แต่ต้าหลางเอ้อหลางก็มีความเห็นอกเห็นใจในสายตา เห็นได้ชัด พวกเขาล้วนชื่อว่าพ่อของเด็กเสียชีวิตแล้วเป็นเรื่องจริง
มองดูเอ้อหลางที่ตกใจอยู่ไม่เบา ในใจของลั่วเสี่ยวปิงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ด้วยเหตุนี้จึงบอกปัด “เอ้อหลาง พรุ่งนี้ข้าต้องการเอาเห็ดเหล่านั้นไปในเมือง บ้านเจ้ามีเกวียน เจ้าช่วยข้าขี่รถไปส่งของหน่อยละกัน”
เอ้อหลางเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ นางอยากค่อยๆบ่มเพาะเอ้อหลางขึ้นมา
เอ้อหลางไม่ได้คิดมาก และลืมความหวาดกลัวเมื่อครู่ไปแล้ว ตบอกแสดงให้เห็นว่าไม่มีปัญหา
หลังจากตกลงกันแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ให้เอ้อหลางพวกเขาทำธุระของตัวเองก่อน รอจนนางทางนี้จัดการเรียบร้อยแล้วค่อยไปรับเด็กทั้งสองกลับมา
หลังจากเอ้อหลางจากไป ลั่วเสี่ยวปิงก็ตรวจฉีเทียนเห้าที่อยู่บนเตียงอย่างละเอียด
ใบหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนั่นน่าตะลึงเหมือนคนบนสวรรค์ น่ามองเป็นที่สุด
เสียดายเพียง รอยแผลเป็นบนใบหน้านั่นทำลายใบหน้าที่สวยงามนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าดูบิดเบี้ยวน่ากลัวเป็นที่สุด
“นี่คนฆ่ายังจะทำลายใบหน้าอีก คงไม่ใช่ว่าอิจฉาที่อีกฝ่ายอิจฉาเจ้าที่หน้าตาดีเกินไปหรอกนะ?” ลั่วเสี่ยวปิงมองดูใบหน้าของฉีเทียนเห้าอดไม่ได้ที่จะพึมพำ
ทว่าคนบนเตียงยังคงอยู่ในอาการหมดสติ แน่นอนว่าไม่สามารถตอบคำถามของนางได้
เพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้าของฉีเทียนเห้าคาวเลือดน่ากลัวเกินไป ลั่วเสี่ยวปิงจึงกังวลว่าอานอานเล่อเล่อกลับมาจะถูกทำให้ตกใจ จึงเลือกวัสดุยาบางอย่างออกมาจากสเพซ ผสมน้ำแร่วิญญาณเล็กน้อยลงในยาบด จากนั้นนำไปทาให้เสมอกันบนบาดแผลบนใบหน้าของฉีเทียนเห้า แล้วห่อเขาไว้ด้วยผ้าขี้ริ้วสะอาด
จากนั้นก็ถลกเสื้อของฉีเทียนเห้า จัดการบาดแผลบนร่างกายของฉีเทียนเห้า
บอกตามความจริง รูปร่างของชายคนนี้ก็ช่างดีเป็นที่สุดจริงๆ สมบูรณ์แบบ บาดแผลเหล่านั้นก็คือการทำลายงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบโดยแท้จริง
หลังจากถอนหายใจแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ดึงเสื้อให้ฉีเทียนเห้า หมุนตัวออกจากบ้านไปรับเด็ก
เพียงแต่ ขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงหมุนตัว ฉีเทียนเห้าที่อยู่บนเตียงกลับลืมตาขึ้นมาแล้ว.......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...