คนตระกูลจูได้ยินว่านายท่านใหญ่ถูกจับเป็นตัวประกัน ถึงได้รีบวิ่งมาพร้อมกับพาคนคุ้มกันมาด้วย แต่เมื่อได้เห็นอย่างแน่ชัดแล้วว่าไม่มีผู้อื่นอยู่ในห้องนอกเสียจากลั่วเสี่ยวปิง ใบหน้าของทุกคนต่างก็นิ่งเหมือนดังน้ำ
“ไร้ประโยชน์ แค่หญิงสาวเพียงคนเดียวก็รับมือไม่ได้ แล้วยังขี่ช้างจับตั๊กแตนอีก อยากตายหรือไง?”
จูซิ่วเต๋อของตระกูลจูตำหนิคนรับใช้ผู้นั้นที่วิ่งไปรายงาน
หลังจากนั้น จูซิ่วเต๋อมองไปทางลั่วเสี่ยวปิงอย่างเย็นชา สั่งการคนคุ้มกันของตระกูลจู“ไปจับนางให้ข้า!”
เห็นได้ชัด ว่าจูซิ่วเต๋อไม่ได้มองลั่วเสี่ยวปิงที่เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในสายตา
จูเหวินรุ่ยรู้สึกเพียงแค่ว่าลมหายใจติดขัด เกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นในใจอย่างไม่รู้ตัว
เขาไม่เชื่อว่าลั่วเสี่ยวปิงที่เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งจะปรากฏตัวในที่แห่งนี้เพียงลำพัง ชายน่ากลัวผู้นั้นที่พบเมื่อครั้งที่แล้วจะต้องอยู่แถวนี้ด้วยอย่างแน่นอน......
เมื่อคิดๆแล้ว จูเหวินรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ เขาเองก็อยากจะเตือนให้พ่อของตัวเองระวังตัว แต่เมื่อคำพูดมาถึงที่ปาก จูเหวินรุ่ยก็กลืนมันลงไป
ใจเขาไม่เป็นสุข
สายตาของลั่วเสี่ยวปิงที่มองเขาเมื่อครู่ ทำให้เขารู้สึกว่าการที่ลั่วเสี่ยวปิงมาก่อเรื่องเช่นนี้ที่ตระกูลจู มันอาจเกี่ยวข้องกับเงินหนึ่งหมื่นตำลึงที่เขาได้เบี้ยวไป
นานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว เดิมทีเขาคิดว่านางเป็นเพียงแค่หญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งคงไม่กล้าจะมาขออีก
แต่......เขาลืมไปได้อย่างไร ว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ใช่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดา
ตลก หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาๆ จะไปขู่เข็ญเอาเงินเขาตอนกลางดึก แล้วทุบตีเขาหรือ?
หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ในตอนที่เขาไปตรวจสอบเรื่องของนางแล้วจะทำให้เขาไม่สามารถตรวจสอบเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากนี้ได้หรือ ยิ่งกว่านั้นคนที่ส่งออกไปเก็บนางก็ยังไม่มีข่าวคราวกลับมา?
ดังนั้น จูเหวินรุ่ยจึงเกรงกลัวลั่วเสี่ยวปิงมากในเวลานี้
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นหรอก แค่นางเอ่ยถึงเรื่องเงินหนึ่งหมื่นตำลึงที่กำลังเป็นหนี้อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ เขาจะกลายเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ในทันที
ส่วนลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจในคำสั่งของจูซิ่วเต๋อเลยแม้แต่น้อย หากคนตระกูลจูอนุญาตให้นางที่เป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งมาก่อเรื่องแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย เช่นนั้นสิถึงจะเป็นเรื่องแปลก
เพียงแต่ มองดูคนคุ้มกันเหล่านั้นที่กำลังเดินเข้ามาหานาง ลั่วเสี่ยวปิงไม่มีความร้อนรนเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่ไม่ร้อนรน ในสายตายังแฝงไปด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
เล่นตลกหรืออย่างไร นางปรุงยามาเป็นเวลานานหลายปีเช่นนี้ แม้จะเคยปรุงพวกยาพิษอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เคยทดลองใช้งานจริงในขอบเขตกว้างเช่นนี้ ตอนนี้นางมีโอกาสดีๆที่สามารถทดลองได้เช่นนี้ สามารถยืนยันประสิทธิภาพของตัวยาได้ดียิ่งขึ้น แล้วนางจะพลาดมันไปได้อย่างไร?
คิดได้เช่นนี้ มุมปากของลั่วเสี่ยวปิงกระตุกยิ้มเล็กน้อย
จูเหวินรุ่ยที่สังเกตลั่วเสี่ยวปิงอยู่ตลอดเวลารู้สึกถึงเพียงแต่ความหวาดกลัว
มาแล้วมาแล้ว หญิงคนนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังจริงๆ
ครั้งนี้จูเหวินรุ่ยอยากจะเตือนทุกคนให้ระวัง แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปาก คนคุ้มกันเหล่านั้นที่เข้าไปใกล้ลั่วเสี่ยวปิงต่างก็ล้มลงกับพื้น
ค่อยๆล้มลงทีละคน ราวกับการนำเกี๊ยวลงหม้อ
คนคุ้มกันเหล่านี้ไม่ได้สลบหรือตายไป ณ ตอนนี้ต่างก็มีสติกันอยู่ เพียงแค่ไม่สามารถขยับได้ ร่างกายไม่มีแรง
ทุกคนในตระกูลจูต่างก็ตกตะลึง
นี่ เป็นไปได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าหญิงคนนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย เหตุใดคนคุ้มกันของตระกูลจูถึงได้กลายเป็นกุ้งเท้าอ่อนไปในทันที?
ชั่วร้าย!
หญิงผู้นี้ชั่วร้ายเกินไปแล้ว
สีหน้าของจูซิ่วจื้อดูแย่มาก ชี้ไปทางลั่วเสี่ยวปิง แล้วเอ่ยถามขึ้น“เจ้าทำอะไรกับพวกเขา?”
ลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองคนคุ้มกันที่อยู่บนพื้นเหล่านั้น ค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพในผงยาของตัวเอง
“อ๋อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแค่วางยาเล็กน้อยก็เท่านั้น”ลั่วเสี่ยวปิงกล่าว แล้วหันไปยิ้มให้กับทุกคนในตระกูลจู“หรือ พวกเจ้าอยากจะมาลองดูด้วยคน?”
ทั้งๆที่ลั่วเสี่ยวปิงเป็นหญิงสาวงดงามที่มองดูแล้วอ่อนแอ แต่วินาทีนี้ในสายตาของคนตระกูลจู กลับรู้สึกว่าลั่วเสี่ยวปิงดูน่ากลัว ดังนั้นจึงเผลอก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว
ลองดู? ลองอย่างไร?
หากพวกเขาที่เป็นนายกลายเป็นกุ้งเท้าอ่อน มันจะไม่เป็นเรื่องตลกให้กับคนข้างล่างหรือ?
ได้ยินเช่นนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็ปรับสีหน้าอย่างใจเย็น“เจ้าพูดผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาที่ตระกูลจู”
พูดแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงก็ชี้ไปทางนายท่านใหญ่จูที่อยู่บนพื้น“เขาจับตัวข้ามา”
คนตระกูลจูต่างก็รู้ว่าพฤติกรรมของนายท่านใหญ่จูเป็นอย่างไร เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง สีหน้าของทุกคนต่างก็ดูแย่มาก คิดเพียงแค่ว่าครั้งนี้นายท่านใหญ่คงจะเตะแผ่นเหล็กเข้าแล้วล่ะ
“สำหรับเรื่องที่ว่าข้าเป็นใคร?”ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัย“ลั่วเสี่ยวอวี่ไม่ได้บอกพวกเจ้าหรือว่าข้าเป็นใคร?”
เมื่อทุกคนในตระกูลจูได้ยินชื่อลั่วเสี่ยวอวี่ สีหน้าก็นิ่งไป
ลั่วเสี่ยวอวี่ นั่นไม่ใช่นางสนมที่นายท่านใหญ่ชื่นชอบในช่วงนี้หรอกหรือ?
หรือว่า เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับนางด้วย?
มองดูการแสดงออกของคนตระกูลจู สั่งเสี่ยวปิงส่งเสียง“จึ๊จึ๊ เริ่มแรกพวกเจ้าบังคับนางให้เข้าเรือนก่อน ตอนนี้ยังจับตัวข้ามาอีก ตระกูลจูของพวกเจ้าไม่ได้แค่ต่ำช้าธรรมดาๆจริงๆ”
เหตุใดนางจึงต้องเอ่ยถึงลั่วเสี่ยวอวี่?
แน่นอนนั่นมันก็เพื่อเป็นการดึงความเกลียดชังให้กับนาง
ลั่วเสี่ยวอวี่กล้าวางแผนลงมือกับนาง เช่นนั้น ก็ต้องรับผลที่ตามมาจากการวางแผนลงมือนาง
อย่างที่คิด เมื่อตระกูลจูได้ยินคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง ก็เริ่มสงสัย คิดว่าจะต้องเป็นลั่วเสี่ยวอวี่ที่ก่อกวนอยู่เบื้องหลัง
แม้แต่นายท่านใหญ่จูที่นอนอยู่บนพื้นเองก็คิดเช่นนี้
ไม่เช่นนั้นจะอธิบายเรื่องที่ลั่วเสี่ยวปิงตื่นขึ้นมาก่อนได้อย่างไร นางต้องสมรู้ร่วมคิดกับลั่วเสี่ยวปิงอยู่ก่อนแล้วแน่นอน
นังหญิงเลวทรามนั่น กล้าดีอย่างไร!
ดูซิว่าเขาจะจัดการกับนางอย่างไร
ความโกรธทำให้นายท่านใหญ่จูสูญเสียสติไปนานแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงเห็นดังนั้นก็พอใจเป็นอย่างมาก
แม้คนตระกูลจูกำลังคิดที่จะจัดการกับลั่วเสี่ยวปิง แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการช่วยนายท่านใหญ่ ดังนั้นจูซิ่วเต๋อจึงได้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมปล่อยพ่อข้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...