ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้จักตัวตนของจูเจิ่งเย่ แต่ก็สามารถเดาออกว่าเป็นคุณชายของตระกูลจู เมื่อเห็นว่าจูเจิ่งเย่ถาม ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่ได้รีบร้อน เพียงแค่กล่าวนิ่งๆว่า“มาเดินเล่น”
กล่าวจบ ลั่วเสี่ยวปิงเลิกคิ้ว“ทำไม? มาที่นี่ไม่ได้หรือ?”
ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของจูเจิ่งเย่ก็อ่อนลงเล็กน้อย แสดงรอยยิ้มที่คิดว่าตัวเองอ่อนโยนออกมา“ไม่ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เจ้าสามารถไปที่ใดก็ได้ในจวนแห่งนี้”
ลั่วเสี่ยวปิงมองดูท่าทางของจูเจิ่งเย่ ดวงตามืดลง
นี่ตระกูลจูจะเปลี่ยนกลยุทธ์ อยากจะใช้แผนเอาชายมาล่อแล้ว?
ลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองจูเจิ่งเย่ ในใจคัดค้านเป็นอย่างมาก
รูปลักษณ์เช่นนี้ยังเป็นชายรูปงามอีกหรือ? มันห่างชั้นเกินไป
จูเจิ่งเย่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองตัวเอง รู้สึกเพียงแค่ว่าท่าทางอ่อนโยนของเขาดึงความสนใจของนาง เขาได้ใจมาก
เขารู้อยู่แล้ว หญิงสาวต่างก็ชอบชายอ่อนโยน
จูเจิ่งเย่เหลือบมองเด็กหญิงในเรือนนิ่งๆ จากนั้นก็กล่าวกับลั่วเสี่ยวปิงว่า“ในเมื่อเจ้าอยากเดินเล่น ให้ข้าเดินเป็นเพื่อนดีหรือไม่?”
ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่าตัวเองไม่สามารถสืบค้นอะไรได้ต่อในตอนนี้ จึงได้ตอบตกลง
จากนั้น จูเจิ่งเย่ก็พาลั่วเสี่ยวปิงไปเดินชมตระกูลจูอย่างใกล้ชิด ระหว่างทางยังนึกว่าตัวเองมีน้ำใจมาก เอ่ยถามคำถามประมาณว่าลั่วเสี่ยวปิงต้องการจะพักก่อนหรือไม่ แต่แล้วก็ถูกลั่วเสี่ยวปิงส่ายหน้าปฏิเสธไปทั้งหมด
จูเจิ่งเย่เองก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับเดินไปคุยเล่นไปกับลั่วเสี่ยวปิงด้วย แม้กระทั่งได้สื่อความชื่นชมที่ตัวเองมีต่อลั่วเสี่ยวปิงออกไปอย่างตั้งใจไม่ตั้งใจ
ลั่วเสี่ยวปิงทำเพียงแค่ไม่รับรู้ สายตาเองก็เพียงแค่มองไปเผินๆ
ลั่วเสี่ยวปิงที่เป็นเช่นนี้ กลับทำให้จูเจิ่งเย่มีความต้องการจะพิชิต และสนใจลั่วเสี่ยวปิงมากขึ้นเรื่อยๆ
และในตอนนี้เอง ข้างหน้าเกิดความโกลาหลขึ้นมา
จากนั้น ลั่วเสี่ยวปิงก็เห็นกลุ่มคนคุ้มกันกลุ่มหนึ่งรุมทุบตีคนรับใช้คนหนึ่ง เป็นการทุบตีที่กะเอาตาย
“เจ้าพวกสุนัขรับใช้ แล้วยังคนของตระกูลจูอีก......พวกเจ้าทำให้ภรรยาและลูกของข้าต้องตาย พวกเจ้าจะต้องตายไม่ดี......จะต้องได้รับผลกรรม”
เสียงร้องโหยหวนของผู้ถูกทุบตี ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว
เมื่อจูเจิ่งเย่ได้ยินเสียงนั้น สีหน้าดูลุกลี้ลุกลนไปชั่วขณะ
เพื่อป้องกันไม่ให้คนผู้นั้นได้พูดอะไรต่อ จึงรีบส่งเสียงขึ้นมาว่า“ไร้ประโยชน์เสียจริงๆ แค่ทาสคนหนึ่งก็จัดการไม่ได้? หากไปล่วงเกินแขกเข้าจะทำอย่างไร? ยังไม่รีบลากลงไปอีก?”
คนคุ้มกันที่กำลังทุบตีคนอยู่คิดไม่ถึงว่าจูเจิ่งเย่เองก็อยู่ ต้องการจะทำความเคารพ แต่กลับถูกจูเจิ่งเย่โบกมือขัดขึ้นมา“เอาล่ะ ไปจัดการเรื่องให้เสร็จสิ้น เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว”
คนคุ้มกันรีบรับคำสั่ง แล้วลากคนที่ถูกทุบตีเดินออกไป
คนคนนั้นพยายามดิ้นรนอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับถูกไม้ตีเข้าที่หัว ทันใดนั้นเลือดสดๆก็ไหลออกมา คนคนนั้นหมดสติไป แล้วก็ถูกลากออกไปราวกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่งจริงๆ
หลังจากที่คนถูกลากออกไป บนพื้นหลงเหลือกองเลือดอันน่าตกใจอยู่กองหนึ่ง
กระทั่งคนถูกลากออกไปแล้ว จูเจิ่งเย่ถึงจะหันมาอธิบายกับลั่วเสี่ยวปิง“เจ้าอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเจ้าคนหลอกลวงนั่น เขาขายภรรยาของตัวเองให้กับครอบครัวของเราเพราะความโลภ แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าภรรยาของเขาตั้งครรภ์ ท้ายที่สุดแล้วนางก็คลอดบุตรยากจึงได้กลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิต ไม่ใช่เพราะตระกูลจูของเราเป็นฝ่ายผิดก่อน”
ลั่วเสี่ยวปิงละสายตาจากกองเลือดกองนั้นแล้วหันไปมองจูเจิ่งเย่“จริงหรือ?”
จูเจิ่งเย่พยักหน้า ยิ้ม“จริง ข้าไม่โกหกเจ้าหรอก”
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยิน ก็ยิ้ม แต่สายตาที่มองอย่างเสียดสีจูเจิ่งเย่กลับไม่ได้เห็นมัน
จูเจิ่งเย่เห็นว่าลั่วเสี่ยวปิงยิ้ม นึกว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สนใจเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ก็ยังกล่าวขึ้นมาว่า“พาเจ้ามาเดินชมจวน แต่กลับทำให้เจ้าต้องมาเจอกับเรื่องที่ไม่ค่อยดีเหล่านี้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
ภาพลักษณ์ของจูเจิ่งเย่ในตอนนี้ ท่าทางราวกับเป็นหลานชายที่กตัญญูคนหนึ่ง มันคงจะเป็นเรื่องยากมากหากหญิงสาวธรรมดาทั่วไปได้มาเห็นแล้วจะไม่หวั่นไหว
แต่ไอ้แก่คนนั้นเป็นอย่างไร ลั่วเสี่ยวปิงรู้ดีอยู่แก่ใจ คนตระกูลจูรวมทั้งจูเจิ่งเย่เองก็รู้ นางไม่เชื่อหรอกว่าสถานที่ที่สกปรกอย่างตระกูลจูจะมีคนรุ่นหลังที่ดูบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหมือนจูเจิ่งเย่
เห็นได้จากกรณีของคนรับใช้ที่ถูกทุบตีเมื่อครู่ จูเจิ่งเย่ก็เหมือนกับคนตระกูลจู เน่าเข้าไปถึงกระดูก
คำพูดแสดงความเกลียดชังที่เปล่งออกมาในเสี้ยววินาทีของความเป็นความตายนั้น เห็นได้ชัดว่าตระกูลจูเคยทำอะไรไป แต่การที่จูเจิ่งเย่สามารถสั่งการให้ลากลงไป นั่นก็แสดงว่าในตระกูลจู เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นได้เป็นประจำ
เพราะฉะนั้นแล้ว ตระกูลจูไม่มีทางมีคนดีๆ
“ข้าจะพิจารณา”ลั่วเสี่ยวปิงตอบอย่างลวกๆ
จูเจิ่งเย่กลับรู้สึกว่ามีความหวัง ดีใจเป็นอย่างมาก ตื่นเต้นมากจนยื่นมือออกไปจะจับมือของลั่วเสี่ยวปิง ถูกลั่วเสี่ยวปิงชักออกแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนอะไร ยังคงกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า“แม่นางลั่ว ข้าต้องขอบคุณเจ้ามากจริงๆ หากไม่มีเจ้า ข้าคงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว ได้พบกับเจ้ามันคือความโชคดีอย่างยิ่ง หากเจ้ายินยอม ข้ายอม......”
“คุณชาย เก็บเรือนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ......”
และในตอนนี้เอง มีสาวใช้คนหนึ่งเข้ามารายงานด้วยตัวที่สั่นเทา
คำพูดของจูเจิ่งเย่ถูกขัดจังหวะ ใบหน้าแข็งทื่อ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่หาที่เปรียบมิได้
สาวใช้ที่สมควรตายคนนี้ เช้าไม่มาค่ำไม่มา ดันมาเอาตอนนี้
ลั่วเสี่ยวปิงกลับไม่สนใจอารมณ์ของจูเจิ่งเย่ ลุกขึ้นยืน กล่าวขึ้นนิ่งๆ“เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ข้าขอลาก่อน”
จากนั้นลั่วเสี่ยวปิงก็เดินไปทางสาวใช้
เมื่อไปถึงเรือนของตัวเอง ลั่วเสี่ยวปิงไล่สาวใช้ที่จะอยู่รับใช้ตัวเองให้ออกไป นั่งลงรินน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่งแล้วดื่มมันลงไป แล้วจึงจะเอ่ยขึ้นมาเบาๆว่า“ออกมาเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...