แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 436

แทนที่จะพยายามช่วยชีวิตคนที่มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหว สู้มาช่วยคนสองสามคนที่เข้าสู่สนามรบได้จะดีกว่า นี่คือความคิดที่เหมือนกันของเหล่าแพทย์ทหาร และในความเป็นจริงก็เป็นประสบการณ์ที่พวกเขาไม่อาจไม่ยอมรับได้

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้วแน่น "เพราะเหตุใดพวกเขาจึงอยู่ได้ไม่เกินสามวันหรือ?"

ภายในใจของลั่วเสี่ยวปิงก็พอจะคาดเดาได้ แต่ยังต้องการการตรวจสอบยืนยัน

แพทย์ทหารอาวุโสทอดถอนใจ "พวกเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงเช่นนี้ หากไม่ใช่เสียเลือดจนตาย ก็คงเพราะถูกพิษไข้เผาจนถึงแก่ชีวิต"

ลั่วเสี่ยวปิง: "......"

เผาจนถึงแก่ชีวิตที่ไหนกัน?

นั่นเป็นเพราะบาดแผลไม่ได้รับการฆ่าเชื้อให้ดี จนกระทั่งเกิดการอักเสบติดเชื้อ

การติดเชื้อที่บาดแผลเป็นการตอบสนองต่อการอักเสบที่เกิดขึ้นเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่รุกรานผิวหนังของมนุษย์ เฉพาะจุดที่เกิดอาการแดง บวม ร้อน ปวดและอวัยวะที่ล้มเหลว ในกรณีที่รุนแรง แบคทีเรียและสารพิษที่เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เกิดพิษหรือภาวะเลือดเป็นพิษ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้

ยุคสมัยนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มียาปฏิชีวนะ บาดแผลขนาดใหญ่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เสียชีวิตได้อย่างง่ายดาย

เพียงแต่เวลาที่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือช่วยรักษาทหารเหล่านี้ที่ได้รับบาดเจ็บ นางไม่มีเวลาคุยกับหมอทหารเหล่านี้เกี่ยวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์

โชคดี นี่ไม่ใช่สงครามขนาดใหญ่ ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงมีไม่มาก รอหลังจากช่วยรักษาทหารที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงเหล่านี้เสร็จแล้ว นางก็จะมีเวลาแลกเปลี่ยนความรู้กับแพทย์ทหารเหล่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงสั่งทหารสองคนที่มากับนางว่า "พวกเจ้ารีบเตรียมเต็นท์ที่สะอาดหนึ่งหลัง จากนั้นก็หาคนอีกสองสามคนมาช่วยหามพวกเขาสองสามคนเข้าไปในเต็นท์ที่สะอาด"

ไม่ใช่เพียงแค่ทหารสองคนนั้น กระทั่งแพทย์ทหารสองสามคนนั้น ตลอดจนทหารในเต็นท์ที่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ได้หมดสติ เวลานี้ต่างก็มองไปยังลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

สายตานั้น ชัดเจนว่ากำลังพูดว่า: เวลานี้แพทย์ทหารลั่วกำลังจะทำอะไรกันแน่?

ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้น และกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า "ยังไม่รีบไปอีก?"

ทหารทั้งสองจึงถอยออกไปเตรียมการทันที ถึงอย่างไรคนทั้งสองที่มากับลั่วเสี่ยวปิง ก็รับรู้ถึงสถานะของลั่วเสี่ยวปิง

แพทย์ทหารอาวุโสผู้นั้นเห็นเช่นนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามว่า "แพทย์ทหารลั่ว นี่ท่านต้องการจะทำอะไรหรือ?"

ลั่วเสี่ยวปิงเหลือบมองแพทย์ทหารอาวุโสผู้นั้น หลังจากนั้นก็กวาดสายตาไปยังแพทย์ทหารคนอื่นๆ แล้วเอ่ยปากอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ว่า "ข้าจะช่วยชีวิตพวกเขา"

เมื่อพวกเขากำลังจะตั้งคำถาม ลั่วเสี่ยวปิงจึงกล่าวด้วยความมั่นใจอย่างมากว่า "ข้าสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้"

เมื่อแพทย์ทหารสองสามคนได้ยินเช่นนี้ ดูจากการแสดงออกบนใบหน้าแล้ว คือพวกเขาไม่เชื่อคำพูดของลั่วเสี่ยวปิง

ถึงแม้ความสามารถทางด้านการแพทย์ของพวกเขาจะมีได้ยอดเยี่ยมนัก แต่ทางด้านการบาดเจ็บภายนอก พวกเขามีความโดดเด่นอย่างแน่นอน

ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่พวกเขาแต่ละคนรักษา ถึงแม้จะไม่ถึงหมื่น แต่ก็นับพันคน

ผู้ชำนาญอย่างพวกเขาเหล่านี้ล้วนช่วยชีวิตคนไม่ได้ แล้วหญิงสาวอายุน้อยเพียงคนเดียวจะสามารถทำได้อย่างไรกัน?

แต่ทว่าลั่วเสี่ยวปิงไม่สนใจว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อ รอให้ช่วยชีวิตคนได้แล้ว พวกเขาก็จะเชื่อเอง

ถึงเวลานั้นนางก็จะสอนพวกเขาว่าช่วยชีวิตคนอย่างไร และเชื่อว่าจะยิ่งสามารถโน้มน้าวให้คล้อยตามได้มากขึ้น

ฉะนั้น ลั่วเสี่ยวปิงจึงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก

ไม่นาน ทหารสองคนนั้นก็พาทหารสองสามคนเข้ามา

สิ่งที่เหมือนกันของทหารเหล่านั้นก็คือ รู้จักลั่วเสี่ยวปิง อีกทั้งลั่วเสี่ยวปิงยังเคยช่วยชีวิตเอาไว้อีกด้วย ฉะนั้นจึงเชื่อถือและศรัทธาในตัวลั่วเสี่ยวปิงอย่างมาก

พวกเขาฟังคำสั่งของลั่วเสี่ยวปิง หลังจากหามทหารที่บาดเจ็บเหล่านี้เข้าไปในเต็นท์ที่เตรียมเอาไว้แล้ว กลับไม่ได้ออกไปทันที แต่มองไปยังลั่วเสี่ยวปิง "พระชายา ท่านจะสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้จริงๆ หรือ?'

พวกเขาเป็นทหารที่ปกป้องบ้านเมืองและประเทศชาติ ฉะนั้นจะต้องมีสักวันหนึ่งที่ไปเข้าสนามรบและเผชิญกับความตาย

แต่ถึงอย่างไร เมื่อเทียบกับการถูกฆ่าด้วยความไม่ระมัดระวังในสนามรบแล้ว สิ่งที่พวกเขาไม่ปรารถนายิ่งกว่าก็คือ เห็นได้ชัดเจนว่ายังไม่ตาย แต่เพราะได้รับบาดเจ็บรุนแรงจึงทำได้เพียงรอวันตาย

ทหารทุกคนต่างรู้ดีว่า ถ้าหากได้รับบาดเจ็บรุนแรง นอกเสียจากรอวันตายแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่น

ถ้าหากพระชายาสามารถช่วยชีวิตคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้จริงๆ ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าหลังจากที่พวกเขาจะต้องการรับบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจในสนามรบ ก็จะสามารถมีโอกาสมีชีวิตอยู่เป็นครั้งที่สองใช่หรือไม่?

ถึงอย่างไร เมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไม่มีใครอยากรอวันตาย

ถ้าหากเขาตายไป ภรรยาและลูกที่บ้านเกิดจะทำอย่างไร?

ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี เจ้าหลับไปก่อนเถิด พอตื่นมาก็จะไม่เป็นไรแล้ว"

ลั่วเสี่ยวปิงพูดพลาง หยิบขวดยาในแขนเสื้อออกมา แล้วส่งให้ทหารเหล่านั้น

ทหารคนนั้นเหลือบมองลั่วเสี่ยวปิง จากนั้นก็รับขวดยาไป แล้วเงยหน้าดื่มไปอึกหนึ่ง

ที่เขาดื่มลงไปก็คือยาสลบ ฉะนั้นหลังจากดื่มลงไป เขาจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว

อาจจะลำบากไปหน่อย ลั่วเสี่ยวปิงยังให้คนอื่นๆ อีกสองสามคนที่ถึงแม้ยังไม่หมดสติ แต่ได้รับบาดเจ็บและที่รู้สึกอ่อนแรงดื่มยาห้ามเลือดและยาสลบ

เมื่อในเต็นท์เหลือเพียงลั่วเสี่ยวปิงคนเดียวที่ยังตื่นอยู่ ในที่สุดลั่วเสี่ยวปิงก็ดึงสิ่งของที่ต้องการในการผ่าตัดออกมาจากในอวกาศ

ในจำนวนนั้น ก็มีไข่มุกที่เปล่งแสงในยามค่ำคืน

ในเต็นท์ค่อนข้างมืดสลัว มีไข่มุกส่องแสงสว่างก็ทำให้ภายในเต็นท์เหมือนกับเวลากลางวัน ทำให้ลั่วเสี่ยวปิงสะดวกในการทำงาน

ลั่วเสี่ยวปิงจัดการบาดแผล บนพื้นฐานตามลำดับของความสำคัญ

บาดแผลที่อันตรายมากที่สุด นางก็จัดการก่อน เพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ลั่วเสี่ยวปิงยังให้คนนำถังน้ำต้มขนาดใหญ่หลายใบมาให้อีกด้วย

หลังจากลั่วเสี่ยวปิงทำให้น้ำเหล่านั้นเย็นลงแล้ว ก็เติมน้ำแร่วิญญาณเข้าไป และใช้น้ำเหล่านี้ล้างผงทรายและคราบเลือดบนบาดแผลของทหารเหล่านี้จนสะอาด จากนั้นแผลไหนที่ควรห้ามเลือดก็ห้าม ควรเย็บแผลก็เย็บ

ผู้ป่วยบาดเจ็บสาหัสรวมทั้งหมดห้าราย ยุ่งอยู่กับงาน จนลั่วเสี่ยวปิงก็เหนื่อยจนสุดจะทน

พอลั่วเสี่ยวปิงยุ่งอยู่กับคนไข้คนสุดท้าย และดึงลูกธนูออกจากร่างกายผู้บาดเจ็บเสร็จ ขณะที่กำลังเย็บบาดแผล นางก็ได้ยินเสียงม่านของเต็นท์ถูกเปิดออก

การเจ็บแผลของลั่วเสี่ยวปิงจึงหยุดชะงักลง แต่ยังกล่าวด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า "บอกว่าห้ามให้คนเข้ามารบกวนไม่ใช่หรือ?"

ลั่วเสี่ยวปิงคิดว่าคนที่เข้ามาคือทหารสองสามคนที่ควรจะเฝ้าอยู่นอกประตู

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง