แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 447

“ไม่มานานแล้ว ก็แค่มาดูสักหน่อย” ลั่วเสี่ยวปิงหัวเราะ จากนั้นก็ยื่นมือไปจับชีพจรของจิ่นเหนียงโดยธรรมชาติ

จิ่นเหนียงตื่นเต้นเล็กน้อย แล้วก็คาดหวังเล็กน้อย

“ลูกดีมาก” ลั่วเสี่ยวปิงดึงมือกลับ

ได้ยินแล้ว จิ่นเหนียงก็ควบคุมความตื่นเต้นไม่ไหว “เสี่ยวปิง ต้องขอบคุณเจ้ามาก”

ถึงแม้ว่าคำขอบคุณจะพูดไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งที่จิ่นเหนียงเห็นท้องของตัวเองก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เมื่อก่อนนางไม่เคยคิดเลยว่ามีวันหนึ่งนางจะได้เป็นแม่คน

เพราะฉะนั้นสำหรับความขอบคุณที่มีต่อลั่วเสี่ยวปิง ไม่มีวันหมดในชาตินี้

ลั่วเสี่ยวปิงแค่ยิ้ม ไม่ได้พูดคำพูดเกรงใจอะไร

จากนั้น จิ่นเหนียงพาลั่วเสี่ยวปิงไปสวนหลังบ้าน หลังจากยุ่งกับการเทน้ำชาให้ลั่วเสี่ยวปิงแล้ว ทั้งสองคนถึงนั่งลงพร้อมกัน จิ่นเหนียงถึงพูด “คนยุ่งอย่างเจ้า หากไม่มีเรื่องต้องไม่มาแน่นอน มีอะไรแปลกใหม่ใช่หรือไม่?”

ลั่วเสี่ยวปิงหัวเราะ “ปิดเจ้าไม่ได้จริงๆ แต่ดูร่างกายเจ้า กลัวว่าพวกเจ้าสองสามีภรรยาจะยุ่งกันไม่ไหว”

จิ่นเหนียงฟังแล้ว กลับหัวเราะเสียงดัง “เอ้ อันนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ากับสามีข้าทุกวันนี้ก็ดูแลร้านนี้เท่านั้น ร้านอื่นล้วนให้คนอื่นดูแล เรื่องของโรงทอก็ให้ซิ่งฮวาจัดการทั้งหมด เจ้ายังไม่รู้ ทุกวันนี้นางทำได้ดีทีเดียว ในด้านนี้เก่งกว่าข้าเยอะทีเดียว โชคดีที่ตอนแรกข้าดูไม่ผิดรับนางไว้ มิเช่นนั้นยังไม่รู้ว่าจะเสียไปให้ใคร”

เพราะว่าจิ่นเหนียงคนนี้เป็นคนทำการค้าขาย เพราะฉะนั้นพูดจาค่อนข้างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม เพราะฉะนั้นฟังคำพูดนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้แล้วว่าจิ่นเหนียงอยู่ได้อย่างผ่อนคลายจริง และเห็นความดีในตัวซิ่งฮวาอย่างแท้จริง

ถึงแม้ตอนแรกที่แนะนำซิ่งฮวา ก็เพราะมองเห็นความอดทนในตัวซิ่งฮวา แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าซิ่งฮวาจะสามารถพัฒนาจนดูแลทุกอย่างได้ด้วยตัวเองแล้ว

รู้เรื่องนี้ พูดตามตรง ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกดีใจมาก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ก็มอบให้ซิ่งฮวาไปทำก็ได้” ลั่วเสี่ยวปิงพูดไป หยิบตุ๊กตาเล็กๆออกมาจากแขนเสื้อ ตุ๊กตานี้คือย่าเจียงของเธอทำตามที่ตัวเองขอ เป็นรูปสุนัขขนปุย

อืม แน่นอน เป็นฉบับตัวจิ๋ว

จิ่นเหนียงรับตุ๊กตานั้นมา มองซ้ายมองขวาอย่างสนอกสนใจ “นี่.......สวยก็สวย แต่ว่ามันสามารถใช้ทำอะไรได้?”

หลักๆคือลั่วเสี่ยวปิงเพื่อความสะดวก ให้ย่าเจียงทำตุ๊กตาตัวเท่ากำปั้นโดยเฉพาะ

ตุ๊กตาเล็กเกินไป น่ารักก็น่ารักอยู่ แต่ว่ายากที่จะให้คนเห็นแล้วก็ตื่นเต้นทันที

นี่ก็เป็นเหตุที่ว่าทำไมอุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่ๆในมือ ก็จะมีคนหันมามองเยอะ เพราะว่าสมัยนี้ไม่มีพวกกุญแจหรือสายห้อยโทรศัพท์อะไรพวกนี้ แขวนไว้บนเอวหรือห้อยพัดลมก็จะแปลกๆ

“ถ้าหากขยายมันใหญ่ขึ้นสิบเท่าร้อยเท่าล่ะ?” ลั่วเสี่ยวปิงยิ้มถาม

เธอเชื่อว่าไม่ว่าสมัยอะไร ล้วนมีผู้หญิงและเด็กกลุ่มหนึ่งต้านทานแรงดึงดูดของตุ๊กตาไม่ได้

พูดไป ลั่วเสี่ยวปิงก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ ในนั้นมีรูปของมิกกี้เมาส์ โดนัลด์ดั๊ก กระต่ายจอมโจร ทิกเกอร์ สเตลล่าบันนี่ หมีเท็ดดี้ ต่างเป็น ทั้งหมดสิบแบบ

“ทำของพวกนี้ใหญ่เท่านี้.......” ลั่วเสี่ยวปิงยื่นมือทำขนาด

มองดูรูปของลั่วเสี่ยวปิง แล้วมองดูตุ๊กตาในมือ ตาทั้งคู่ของจิ่นเหนียงก็สว่างขึ้น “อ้า นั่นมันช่าง......”

พูดถึงตรงนี้ จิ่นเหนียงก็หยุดนิดหน่อย เพราะว่าทันใดนั้นนางพบว่าตัวเองไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในใจอย่างไร

คิดไปคิดมา จิ่นเหนียงถึงพูด “ข้า.......ข้ารู้สึกว่าทำให้ใหญ่แล้วข้าชอบ......”

พูดไป จิ่นเหนียงชี้ไปที่รูป แต่ในเวลาเดียวกันก็เหมือนตัดสินใจไม่ได้ สุดท้ายชี้ไปที่สเตลล่าบันนี่ “อันนี้ ข้าจะเก็บไว้เองหนึ่งตัว”

แต่ ดูเหมือนอยากได้อย่างละตัวทั้งหมด แต่เหมือนโลภมากไปก็ไม่ได้

ลั่วเสี่ยวปิงหัวเราะ “เจ้าอยากได้กี่ตัวก็ได้หมด”

ในยุคปัจจุบัน ห้องนอนหญิงสาวคนไหนที่ไม่มีตุ๊กตาหลายตัว?

จิ่นเหนียงหัวเราะ หัวเราะอย่างรู้สึกเขินเล็กน้อย

สุดท้าย ลั่วเสี่ยวปิงกับจิ่นเหนียงเจรจกกัน ตุ๊กตาผ้ายังไม่ขาย แต่วางไว้ในร้านตัดเย็บก่อน ทำเป็นของแถมสำหรับลูกค้าสามคนที่ซื้อของมากที่สุดในแต่ละเดือน

“ไม่เจอกันนาน!” ลั่วเสี่ยวปิงยิ้ม

คนในร้านเมืองแห่งอาหารเยอะ ลั่วเสี่ยวปิงกับพานหยิงหยิงก็ไม่ได้คุยกันเยอะ แค่ทักทายกันเรื่อยเปื่อย ก็เข้าไปในร้านหม้อไฟ

เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ธุรกิจของร้านหม้อไฟก็เงียบเหงาลงมาก เพราะทุกวันนี้พริกทุกใช้การอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ดในหอฝูหม่านยิ่งยอดเยี่ยม คนกินหม้อไฟปิ้งย่างก็ต้องถูกแบ่งออกไปบ้างเป็นธรรมดา

แต่ว่า ตัวเลขผลกำไรก็ยังคงสูงทีเดียวก็แล้วกัน

ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้อยู่ที่ร้านเมืองแห่งอาหารนาน เพราะว่าทุกวันนี้ร้านเมืองแห่งอาหารไม่มีอะไรให้เธอต้องกังวลแล้ว ระยะเวลาสั้นๆนี้ก็ไม่ต้องมีอะไรแปลกใหม่เข้าไป บวกกับช่วงบ่ายเธออยากไปเหรินโซ่วถังสักหน่อย เพราะฉะนั้นในร้านเมืองแห่งอาหาร ลั่วเสี่ยวปิงกับไป๋เสากินอะไรกันง่ายๆ แล้วก็มุ่งหน้าไปที่เหรินโซ่วถัง

ทุกวันนี้เหรินโซ่วถังเป็นโรงหมอที่ดีที่สุดในเมือง คนป่วยก็ต้องไม่น้อย

ถึงแม้จะไม่ได้เข้าแถวเยอะเหมือนตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงนั่งเวร แต่ว่ายาสูตรพิเศษของลั่วเสี่ยวปิงก็ยังคงมีคนเข้าแถวซื้อ คนเหล่านั้นที่มารอดูอาการรวมตัวอยู่ข้างหน้าก็ไม่น้อย

แต่ว่าคนที่นั่งเวรวันนี้ไม่ใช่ท่านหมอซุน

และลั่วเสี่ยวปิงสังเกตเห็น ในโรงหมอ มีคนแต่งกายอย่างบ่าวรับใช้ยืนรออะไรอยู่ตรงนั้น สีหน้าเร่งรีบ

ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้คิดมาก คนในร้านเห็นลั่วเสี่ยวปิงแล้ว ก็เข้ามาทักทาย เวลานี้มีเสียงส่งมาจากด้านในโรงหมอ

ท่านซุนและซุนมู่หยางสองคนพกหีบยากล่องหนึ่งออกมาจากโรงหมออย่างเร่งรีบ เดินไปทางบ่าวรับใช้ที่สีหน้าเร่งรีบ

บ่าวรับใช้ก็เดินเข้าไปหาด้วยสีหน้าเร่งรีบ ท่านซุนกำลังจะพูด แต่หางตากลับเห็นลั่วเสี่ยวปิง

ท่านซุนที่ตอนแรกสีหน้าตื่นเต้น วินาทีที่เห็นลั่วเสี่ยวปิง กลับผ่อนคลายลงบ้าง

“เสี่ยวปิงเจ้าอยู่พอดี เร็ว ไปในเมืองกับพวกเราสักรอบ”

ลั่วเสี่ยวปิงตะลึง “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“ตระกูลเว่ย.......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง