รอความเร่าร้อนของเว่ยหยวนหมิงผ่านมา อารมณ์ที่ตื่นเต้นค่อยๆสงบลง ถึงมองไปทางลั่วเสี่ยวปิง
เห็นสีหน้าของเว่ยหยวนหมิง ลั่วเสี่ยวปิงก็รู้ว่าท่านตามีเรื่องมาหานาง เลยพูดว่า"ท่านตา เชิญนั่งข้างในเจ้าค่ะ"
ตอนแรกนางเรียกว่า"คุณตา"โดยจิตสำนึก เพราะไม่ว่าจะเป็นสมัยปัจจุบัน หรือในชนบทของเมืองซีเหอ ล้วนเรียกกันแบบนี้
แต่เมื่อนึกถึงตระกูลเว่ย และวงการที่ตัวเองจะเข้าถึงในอนาคต น่าจะเรียกกันว่า'ท่านตา' ดังนั้นชั่วเสี่ยวปิงก็แก้คำเรียก
แต่สำหรับเว่ยหยวนหมิง ลั่วเสี่ยวปิงเรียกเขาว่าอะไรล้วนได้หมอ ขอให้ลั่วเสี่ยวปิงยอมรับเขาก็พอ เลยไม่ได้ไปสนใจคำเรียกอะไรมาก
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องหลัก ลั่วเสี่ยวปิงพาเว่ยหยวนหมิงนั่งบนโซฟาไม้ของห้องหลัก แล้วเว่ยหยวนหมิงก็เริ่มสังเกตห้อง
การออกแบบในห้องมีเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะเก้าอี้ยาวที่ทำมาจากไม้นี้ยิ่งหายาก
ถึงแม้เก้าอี้ของตระกูลสูงศักดิ์ทั่วไปก็จะมีเบาะนั่งนุ่มๆ แต่นั่นเป็นเก้าอี้เดี่ยว ไม่เหมือนเก้าอี้ยาวแบบนี้ บนโต๊ะสี่เหลี่ยมข้างหน้ายังมีขนมและน้ำชาวางอยึ น่าจะเป็นโต๊ะน้ำชา เหมาะกับพูดคุยและประชุมกันในครอบครัว
"สิ่งนี้เรียกว่าโซฟาเจ้าค่ะ"ลั่วเสี่ยวปิงอธิบาย
โซฟานี้นางเพิ่งสั่งทำหลายวันนี้เอง
เว่ยหยวนหมิงเก็บสายตากลับมา มองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสายตาที่เหมือนมองสมบัติอยู่"เจ้าเป็นคนออกแบบสิ่งเหล่านี้หรือ?"
ตอนอยู่โรงเรียน อานอานมักจะกล่าวถึงแม่ของตัวเอง
ดังนั้นเว่ยหยวนหมิงรู้ว่าลั่วเสี่ยวปิงแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไป กล่าวว่าเป็น'หญิงยอดเยี่ยม'ก็ไม่เกินไป
ก่อนหน้านี้ก็เคยเห็นความสามารถทางการแพทย์และฝีมือการทำอาหารของนาง ตอนนี้ดูจากการออกแบบในห้องก็มองออกว่า นางแตกต่างกับหญิงทั่วไป ฉลาดกว่า และมีจุดเด่นกว่าผู้หญิงทั่วไป
แต่การแตกต่างแบบนี้กลับทำให้เว่ยหยวนหมิงภูมิใจมาก เหมือนอยากจะอวดให้เพื่อนสนิทดูว่า'แม่นางคนนี้เป็นหลานสาวของข้า'
เมื่อนึกถึงว่าหลานสาวของตัวเองฉลาดเช่นนี้ อารมณ์ที่กว่าจะระงับลงไปของเว่ยหยวนหมิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า"เจ้าค่ะ"
ไม่ได้พูดเยอะ แค่เทน้ำชาให้เว่ยหยวนหมิง
ในกาน้ำชาเป็นชาดอกไม้ สมชื่นและหอมหวาน ทำให้คนหลงรัก
เว่ยหยวนหมิงดื่มแค่อึกเดียว ก็รู้สึกว่ามีกลิ่นหอมแพร่กระจายในปาก ประหลาดใจจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขาก็รู้ว่ามีคนขายชาดอกไม้ เขารู้ว่าคนรอบข้างมีบางคนที่ไม่ชอบกินน้ำชาก็ซื้อตามกระแส แต่ตัวเองก็มีชาที่กินบ่อย ก็ไม่ได้เกิดความคิดที่จะซื้อชาดอกไม้ ตอนนี้ได้กินทำให้เขามีความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ
แน่นอนว่าชาดอกไม้ยังทดแทนรสที่ตัวเองคุ้นเคยไม่ได้ รสชาติก็ไม่ได้เข้มข้นเท่าใบชา แต่กินเป็นบางครั้งยังได้อยู่
"ท่านตามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ"ลั่วเสี่ยวปิงพูดตรงๆ
เว่ยหยวนหมิงดื่มอีกอีกหนึ่ง ถึงวางแก้วน้ำชาลง มองลั่สเสี่ยวปิว สีหน้าจริงจังมาก"ข้าจะไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนราชวงศ์ อยากพาเจ้าไปเมืองหลวงด้วยกัน"
ตอนที่เว่ยหยวนหมิงพูดคำพูดนี้ ก็มีความตื่นเต้น ดังนั้นเลยมองลั่วเสี่ยวปิงอยู่ตลอด ดูปฏิกิริยาของนาง
ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้ ก็อึ้งไปเลย
ก็ไม่ได้อึ้งในเรื่องที่เว่ยหยวนหมิงจะพานางกลับเมืองหลวง แต่เป็นเพราะเรื่องที่เว่ยหยวนหมิงจะไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนราชวงศ์
ในเมื่อรู้ว่าเว่ยหยวนหมิงเป็นท่านตาของตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่เป็นสนใจอะไรเลย
ตอนนี้พระชายารองแค่ลงมือต่อตัวเองคนเดียว แล้วถ้าอนาคตลงมือต่อเด็กสองคนด้วยล่ะ?
ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมพระชายารองถึงลงมือต่อตัวเองคนเดียว แต่กลับไม่ได้ลงมือต่อเด็กสองคน แต่ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับฉีเทียนเห้า
สรุปก็คือ ถ้าไม่ขจัด อนาคตก็จะมีแต่อันตราย
แต่เดิมทีนางคิดจะพึ่งความสามารถของตัวเองค่อยๆพัฒนาไปที่เมืองหลวง อย่างน้อยก็ยังมีฉีเทียนเห้า ถึงเวลาค่อยกลับเมืองหลวงกับฉีเทียนเห้าด้วยกันก็ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้คนในตระกูลเว่ยเชื่อมโยงเข้ามาในเรื่องนี้
คำพูดของลั่วเสี่ยวปิงยังพูดไม่จบ เว่ยหยวนหมิงก็โบกมือ"ตอนนั้นหวินซีเผลอทำให้เจ้าหายไป ทำให้เจ้าต้องลำบากมาหลายปีขนาดนี้ คือความผิดของหวินซี พวกเราสมควรที่จะชดใช้เจ้า"
พูดเสร็จ ก็พูดต่อว่า"แน่นอนว่า ถึงจะไม่เพื่อเจ้า มีเรื่องบางอย่างพวกเราก็ต้องกลับไปจัดการที่เมืองหลัง อย่าให้คนอื่นนึกกว่าคนในตระกูลเว่ยเรารังแกได้ง่ายๆ"
ตอนที่เว่ยหยวนหมิงพูดคำพูดนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจังและตั้งใจ มีความโมโหเล็กน้อยปรากฏด้วย
"ท่านตา......"ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ว่าความโมโหของเว่ยหยวนหมิงมาจากไหน
เว่ยหยวนหมิงถึงสังเกตได้ว่าตัวเองกระทำผิดพลาด กลัวจะทำให้หลานสาวของตัวเองตกใจ ก็เลยระงับอารมณ์ลงไป ควบคุมสีหน้าของตัวเอง พูดกับลั่วเสี่ยวปิงว่า"ลูก ความเป็นมาของเรื่องข้ารู้หมดแล้ว เรื่องที่เจ้าถูกหูหยานเฉียนลอบสังหารนั้นอวี้หนิงได้ส่งข่าวมาให้พวกเรา"
เมื่อพูดถึงที่นี่ ขอบตาของเว่ยหยวนหมองแดงเล็กน้อย สายตาที่มองลั่วเสี่ยวปิงมีความรู้สึกผิด ขอบตาก็แดงขึ้นมา"ลูก หลายปีนี้เจ้าลำบากแย่เลย"
เมื่อนึกถึงหลานสาวของตัวเองเกือบจะตายในมือของหูหยานเฉียน เว่ยหยวนหมิงก็รู้สึกตกใจและเจ็บปวดใจ
ผู้หญิงคนนั้นสามารถดรรชนีเดียวขวางฟ้าและตัดข่าวทุกอย่างของตระกูลเว่ย ทำให้พวกเขาหามาหลายปียังหาไม่เจอเสี่ยวปิง ความสามารถที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของนางนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน
มีผู้หญิงอย่างนั้นอยู่ จะทำให้เขาวางใจเสี่ยวปิงได้อย่างไร และยังวางใจหวินซีที่อยู่เมืองหลวงคนเดียวอย่างไรได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...