แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 483

อานอานเพิ่งพูดจบ สายตาของลั่วเสี่ยวปิงก็มองเข้าหาเว่ยหยวนหมิง

ถึงแม้ได้เข้ากันกับคนในตระกูลเว่ยในเมืองหลินอาน มองพวกเขาเป็นญาติพี่น้องแล้วจริงๆ

แต่ก่อนหน้านี้ที่เจอหน้ากันล้วนมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เลยไม่มีความเขินอายใดๆ ค่อนข้างจะเป็นไปตามธรรมชาติ

แต่อยู่ๆก็เจอหน้าในตอนนี้ ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก

การทำตัวไม่ถูกไม่ใช่ว่าไม่ได้มองพวกเขาเป็นญาติ แต่เป็นเพราะนางเกิดความท้อถอยโดยอัตโนมัติ

แต่การทำตัวไม่ถูกก็แค่ชั่วพริบตาเอง เพราะวินาทีต่อไปอารมณ์ของลั่วเสี่ยวปิงก็สงบลงภายใต้รอยยิ้มของท่านปู่

ทันใดนั้น ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่าคนแก่ต่อหน้าผู้หนึ่งซ้อนทับกับคุณปู่ของนางในสมัยปัจจุบัน

คุณปู่ก็มักจะมองนางด้วยรอยยิ้มที่ตามใจและรักใคร่

คนแก่ต่อหน้านี้ ถึงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับนางเหมือนกับคุณปู่ แต่นางเชื่อว่าเขารักตัวเองอย่างแท้จริงเหมือนกับคุณปู่ของตัวเอง นี่ก็พอแล้ว

ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังคิดสิ่งเหล่านี้อยู่นั้น เว่ยหยวนหมิงก็มองไปที่อานอาน พูดด้วยรอยยิ้ม"ต่อจากนี้ไปเจ้าไม่ควรที่จะเรียกข้าว่าอาจารย์อีกแล้วนะ

อานอานได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว

อาจารย์ไม่ใช่คนที่จะพูดเล่น คำพูดนี้พูดแบบจริงจังแน่นอน

แต่ เหตุใดถึงไม่สามารถเรียกอาจารย์แล้ว?

"ท่านจะไปแล้วหรือ?"อานอานเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้น แต่ได้พยายามทนเอาไว้ จนทำให้ใบหน้าตึงเครียดมาก

ได้ยินเช่นนี้ เว่ยหยวนหมิงอึ้งไปก่อน จากนั้นพูดว่า"จะไปแล้วจริงๆ"

ตอนที่พูดคำพูดนี้ เว่ยหยวนหมิงยังมองไปทางลั่วเสี่ยวปิงทีหนึ่ง

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินเช่นนี้เม้มปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

ส่วนอานอานได้ยินว่าเว่ยหยวนหมิงจะไปจริงๆ ความรู้สึกเสียใจและอาลัยอาวรณ์ก็ตามมา

ถึงแม้อยู่กับอาจารย์ได้ไม่นาน แต่เขาชอบอาจารย์จริงๆ

อาจารย์มีความรู้ลึกซึ้ง สอนให้ตัวเองได้มากมาย

เขาไม่อยากให้เขาจากไป

แต่อานอานไม่ได้พูดอะไร เพียงก้มศีรษะ ไม่ขยับเลย

ในเวลานี้ มีมือใหญ่คู่หนึ่งวางบนศีรษะของเขา

อานอานเงยหน้าขึ้น เผชิญกับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเว่ยหยวนหมิง"จากนี้ไป เจ้าต้องเรียกข้าว่าตาตาทวด"

อานอาน"???"

มองไปที่เว่ยหยวนหมิงอย่างมึนงง เห็นว่าเว่ยหยวนหมิงไม่เหมือนเป็นการโกหก ก็มองไปทางแม่ของตัวเองอีก

ตอนที่เห็นแม่ของตัวเองพยักหน้า สีหน้าที่มึนงงของอานอานก็สนุกขึ้นมาในทันใดนั้น

เมื่อเห็นสีหน้าสนุกที่หายากของลูกศิษย์น้อย เว่ยหยวนหมิงก็ดีใจใหญ่เลย แต่ก็ตั้งตารอคอยอานอานเรียกเขาว่า"ตาทวด"

"อาจารย์"กลายเป็น"ตาทวด" อานอานต้องใช้เวลาย่อยหน่อย

แต่เดิมทีอานอานก็เป็นเด็กที่ฉลาด ไม่นานก็ย่อยเสร็จ

ดังนั้นเพียงสักครู่หนึ่ง อานอานก็ควบคุมสีหน้าของตัวเองได้ดี มองไปทางเว่ยหยวนหมิงซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง"ตาทวดขอรับ"

เว่ยหยวนหมิงมีเหลนอยู่ เป็นปู่ทวดมาแล้ว

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เป็นตาทวด

โดยเฉพาะเหลนคนนี้ยังเป็นลูกศิษย์น้อยที่เขาชอบมากด้วย

ไม่มีใครรู้หรอกว่า ตอนที่เขารู้ว่าลูกศิษย์น้อยเป็นลูกของหลานสาวตัวเอง เขาประหลาดใจและตื่นเต้นขนาดไหน

และอยู่ๆก็ได้ยินลูกศิษย์น้อยเรียกตัวเองว่า"ตาทวด" เว่ยหยวนหมิงเกิดความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้

มีความดีใจ และมีความเจ็บปวดใจ

และเป็นเพราะเช่นนี้ เว่ยหยวนหมิงที่เมื่อกี้ยังขำสีหน้าที่สนุกสนานของลูกศิษย์น้อยอยู่นั้น วินาทีต่อไปก็กลายเป็นความตลกในสายตาของลูกศิษย์น้อย

แต่เว่ยหยวนหมิงไม่สนใจเลย

ถูกลูกศิษย์น้อยที่เป็นเหลนของตัวเองดูตลกมีอะไรมากล่ะ?

เพราะถ้าเป็นคนหลอกลวงต้องถูกคนในครอบครัวห้ามเข้าบ้านอยู่แล้ว

ส่วนทำไมอยู่ก็มีตาทวดปรากฏตัวออกมานั้น สำหรับเล่อเล่อ ไม่ใช่เรื่องที่นางต้องคิด เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ นางเรียกตามก็พอ

เว่ยหยวนหมิงเพิ่งเคยได้ยินเสียงที่นุ่มนิ่มน่ารักของเด็กผู้หญิงอีกครั้งหลังจากที่ผ่านมาแล้วสามสิบกว่าปี แต่ความรู้สึกดีใจไม่ได้ลดลงแม้แต่นิดเลย ไม่อย่างงั้นเหตุใดคนในตระกูลเว่ยถึงชอบเด็กผู้หญิงขนาดนั้นกันล่ะ?

ดังนั้น เว่ยหยวนหมิงตื่นเต้นจนหน้าแดง และพูดกับเล่อเล่ออย่างระมัดระวัง"ข้า......ขออุ้มเจ้าหน่อยได้ไหม?"

ที่บ้านเด็กผู้ชายเต็มเลย เขาไม่ได้อุ้มเด็กผู้หญิงที่เนียนนุ่มแบบนี้มาสามสิบกว่าปีแล้ว

เล่อเล่อกลับมีความลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสายตาของเว่ยหยวนหมิงมีความผิดหวังพาดผ่าน เล่อเล่อเห็นใจเขา เลยอธิบายว่า"ตาทวดเจ้าคะ เล่อเล่อเพิ่งฝึกวิชาการต่อสู้กลับมา ร่างกายเหม็นมาก กลิ่นไม่น่าดมเลยเจ้าค่ะ"

ตอนที่พูดอธิบายเล่อเล่อรู้สึกเขินอายมาก ใบหน้ายังออกแดงเล็กน้อย

ตาทวดจะรู้สึกไหมว่าตัวเองไม่เหมือนเด็กผู้หญิงหรือเปล่าเนี่ย?เพราะเด็กผู้หญิงคนอื่นล้วนหอมๆ แต่นางเต็มไปด้วยเหงื่อเหม็นๆ

เว่ยหยวนหมิงได้ยินเช่นนี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นรีบพูดว่า"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เล่อเล่อหอมน่าดมมาก"

จากนั้น มองไปทางเล่อเล่อด้วยใบหน้าที่คาดหวัง

เล่อเล่อได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ้มอย่างแจ่มใส จากนั้นวิ่งไปทางเว่ยหยวนหมิง

เว่ยหยวนหมิงเห็นเช่นนี้ รีบนั่งยองลง กางแขนให้เล่อเล่อ

เล่อเล่อมุ่งเข้าอ้อมอกของเว่ยหยวนหมิง ไม่เห็นจะไม่คุ้นเคยเลย

จากนั้น เว่ยหยวนหมิงกอดเล่อเล่อเข้าไปในอ้อมอก และมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะปล่อยลงอีก

อย่างที่คิด เนียนนุ่มและน่ากอดจริงๆ

เว่ยหยวนหมิงดีใจมาก อุ้มเล่อเล่อแล้วยังไม่พอ ยังจะอุ้มอานอานอีก

แต่หลังจากอานอานหน้าแดงเล็กน้อยแล้ว ก็ปฏิเสธโดยตรง"อุ้มเราสองคนพร้อมกันหนักไปขอรับ"

เขาเกรงว่าเอวของอาจารย์รับไม่ไหว

อวี้หนิงและจีเหวินจุนที่ไปฝึกวิชาการต่อสู้บนภูเขากับเล่อเล่อนั้นเห็นฉากนี้ ไม่อยากรบกวนเหลนตาทวดคู่นี้ เลยไม่ได้เข้าไป แต่เดินไปทางหมู่บ้าน

เดิมทีสองคนแค่จะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะประสบปัญหาอย่างหนึ่ง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง