ซ่งฉงปิงจึงหันกลับไป เมื่อคนที่เยาะเย้ยซ่งฉงปิงเห็นใบหน้าของซ่งฉงปิง สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที
ไม่ใช่บอกว่ามาจากบ้านนอกหรอกหรือ? เหตุใดเสน่ห์ทั่วทั้งกายนั้น มีความรู้สึกว่ามันกดหัวนางอยู่?
ความคิดนี้ปรากฏขึ้น สีหน้าของเจียงหรูเยว่ก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง
คนบ้านนอกคนหนึ่ง จะมาเปรียบเทียบกับนางได้อย่างไร?
เมื่อคิดอย่างนี้ เจียงหรูเยว่ก็มองหอปิงเยว่ด้วยสีหน้ารังเกียจ "เจ้ามองข้าทำไมหรือ? หรือว่าเจ้าไม่ได้มาจากย้านนอก? เจ้ากล้ามาถึงหอปิงเยว่เลยเชียวหรือ? เจ้าไม่กลัวว่าจะลดระดับของหอปิงเยว่แห่งนี้ให้ตกต่ำลงหรอกหรือ?"
คำพูดเย้ยหยันถากถางของเจียงหรูเยว่ เหมือนกับถ่มน้ำลายออกมา ราวกับว่าฐานะของนางนั้นสูงส่งมาก และซ่งฉงปิงก็ยากจนต่ำต้อยมาก
เมื่อซ่งฉงปิงหันกลับมา ไป๋ซู่ก็นำฐานะของเจียงหรูเยว่มาบอกกล่าวข้างๆ หูของซ่งฉงปิง
เจียงหรูเยว่เป็นหลานสาวของเจียงผู่ที่เป็นซ่างซูหู่ปู้ และเป็นหนึ่งในสหายคนสนิทของซ่งหลิงหลางด้วย
จุ๊ๆ ไม่ต้องพูดถึงเลย เจียงหรูเยว่คนนี้ นิสัยเหมือนกันกับเจียงหรูหลานที่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ และพูดจาดูถูกดูแคลนคนอื่นเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้นางเป็นเพียงหญิงสาวชาวนา เจียงหรูหลานนางก็ไม่เกรงกลัว
และตอนนี้ เจียงหรูเยว่ นางยิ่งไม่มีอะไรจะต้องเกรงกลัวเช่นกัน
ฉะนั้น หลังจากที่เจียงหรูเยว่พูดจาประชดประชันเหล่านี้ออกมา ก็เห็นไป๋ซู่โกรธเคืองจนคิดที่จะออกหน้าแทนนาง ซ่งฉงปิงจึงต้องห้ามปรามไป๋ซู่เอาไว้
ซ่งฉงปิงมองเจียงหรูเยว่ และเอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า "มาจากบ้านนอกแล้วทำไมหรือ? มาจากบ้านนอกไม่สามารถเข้ามาที่หอปิงเยว่ได้หรือไร?"
เมื่อเอ่ยถามคำถามนี้ เถ้าแก่ของหอปิงเยว่ก็เข้ามาได้ยินอย่างพอดิบพอดี
และเมื่อเถ้าแก่คนนั้นเห็นซ่งฉงปิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เมื่อสบสายตาของซ่งฉงปิง ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
ซ่งฉงปิงจึงเอ่ยถามเถ้าแก่คนนั้นว่า "เถ้าแก่ หอปิงเยว่ของพวกเจ้าคนบ้านนอกเข้าไม่ได้ใช่หรือไม่?"
เถ้าแก่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกล่าวว่า "แขกผู้มีเกียรติท่านนี้พูดอะไรกัน? หอปิงเยว่ของเรายินดีต้อนรับลูกค้าทุกคนขอรับ"
เจียงหรูเยว่ได้ยินเช่นนั้น ก็จ้องถมึงทึงไปที่เถ้าแก่คนนั้นด้วยความโกรธ จากนั้นก็มองซ่งฉงปิง "เจ้ามีเงินหรือเปล่า? เจ้าจะมาที่หอปิงเยว่แห่งนี้?"
ท่าทางหน้าตาดูยั่วยุไปหมด
ซ่งฉงปิงยักไหล่ "คุณหนูท่านนี้ยุ่งเรื่องชาวบ้านจริงๆ เรื่องมีเงินไม่มีเงินนี้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ก่อนออกจากจวนเสด็จพ่อไม่ได้ให้ของข้าไว้ แต่กลับให้เงินข้ามากมาย"
กล่าวจบ ก็ทำสีหน้ากลัดกลุ้มใจ "เฮ้อ มากมายเหลือเกิน ข้าเกรงว่าหากวันนี้ข้าใช้จ่ายไม่หมดกลับไปจะถูกเสด็จพ่อตำหนิเอาได้"
เจียงหรูเยว่ได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง
เดิมทีนางคิดว่าเป็นหญิงสาวมาจากบ้านนอกคนหนึ่ง หลังจากที่ได้รับคำเย้ยหยันดูถูกสองสามคำก็น่าจะเศร้าเสียใจจนอับอายแทรกแผ่นดินหนีไป
อย่างไรเสียคนบ้านนอกไม่ใช่ว่า จะต้องขี้ขลาดไม่เปิดหูเปิดตาเช่นนั้นหรอกหรือ?
แต่ว่า ใครจะบอกนางได้ล่ะ ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้เหตุใดจึงไม่ยึดตามหลักสามัญสำนึกล่ะ?
นางพูดว่าอะไรนะ? 'เสด็จพ่อไม่ได้ให้ของข้าไว้ แต่กลับให้เงินข้ามากมาย'อย่างนั้นหรือ?
อีกอย่างหนึ่ง มากเกินไปใช้จ่ายไม่หมดกลับไปจะต้องถูกตำหนิอีก?
ยังมีคนที่กลัวว่าเงินมากเกินไปจะใช้จ่ายไม่หมดด้วยหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับซ่งฉงปิง เจียงหรูเยว่ก็รู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก
คนที่มาจากบ้านนอก มีเงินมากมายจนใช้จ่ายไม่หมด แต่นางนั้นก่อนจะออกจากบ้านกับต้องเปลืองแรงไปกับการขอเงินเสด็จแม่ของนาง
เมื่อเปรียบเทียบกัน.....โอ๊ย ช่างน่าโมโหจริงๆ
คนที่มีความคิดเดียวกันกับเจียงหรูเยว่ ยังมีบรรดาหญิงสาวฐานะสูงศักดิ์ข้างๆ ที่ต้องการมาซื้อของอีกด้วย
พวกนางมีเงินแค่รายเดือนเท่านั้น จากนั้นพวกนางก็มีการสนับสนุนจากท่านแม่ของตัวเองด้วย จนกระทั่งการมาซื้อเสื้อผ้าที่หอปิงอวี้ของพวกนางพูดได้ว่าเป็นการนองเลือดครั้งใหญ่
มีสิทธิ์อะไรที่พวกนางไม่มีเงินใช้ แต่คนที่มาจากบ้านนอก กลับมาเงินมากมายจนใช้ไม่หมดอย่างนั้นหรือ?
ช่างไม่สมดุลเลย!
ไป๋ซู่คาดไม่ถึงว่าคุณหนูของตนเองจะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา หลังจากตกตะลึงแล้ว ไป๋ซู่ก็อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากแอบหัวเราะ
ทุกๆ สามวันหอปิงอวี้จะทำออกมาสิบแบบเท่านั้น แต่ละแบบมีเพียงไม่กี่สีเท่านั้น เดิมทีแล้วเสื้อผ้าผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ เงินของซ่งฉงปิงมากมายขนาดนั้น จะเหมาทั้งหมดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่ว่า สิ่งที่สำคัญก็คือ ถ้าเหมาหมดแล้ว รูปแบบใหม่ๆ ก็ต้องรอไปอีกสามวัน และอีกสามวันจะเป็นงานเลี้ยงของพระราชวังแล้ว หากพวกนางต้องการสวมเสื้อผ้าไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของพระราชวัง เช่นนั้นจะต้องซื้อเสื้อผ้าภายในวันนี้
หากถูกซ่งฉงปิงซื้อไปจนหมด พวกนางจะเอาอะไรใส่ไปงานเลี้ยงของพระราชวังล่ะ?
ฉะนั้น เมื่อซ่งฉงปิงล้วงเอาธนบัตรออกมา คุณหนูหลายคนที่เตรียมมาซื้อเสื้อผ้าก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
มีหลายคนที่ชำเลืองมองเจียงหรูเยว่อย่างไม่พอใจที่ออกความคิดเห็นมั่วๆ แล้วก็รีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรีบร้อน และกล่าวกับเถ้าแก่ว่า "เถ้าแก่ เจ้าจะขายเสื้อผ้าให้นางหมดไม่ได้นะ"
ซ่งฉงปิงมีสีหน้าสงสัย "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ข้ามีเงินนะ"
ทุกคนรู้สึกสะอึก
และรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง
นางมีเงินก็น่าสรรเสริญ? น่ายกย่องแล้วหรือ?
พวกนางก็นำเงินมาด้วยไม่ใช่หรือ?
หากซ่งฉงปิงได้ยินเสียงในใจของพวกนาง ก็จะต้องพยักหน้ายอมรับอย่างแน่นอน : ใช่แล้วน่าสรรเสริญ ข้าสามารถเหมาได้ พวกเจ้าทำได้หรือไม่ล่ะ?
"ข้า ข้าจะซื้อในราคาที่มากกว่าเล็กน้อยจะได้หรือไม่?"
คุณหนูหนึ่งในนั้นที่ต้องการเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นการเร่งด่วนเอ่ยปาก สอบถามเถ้าแก่
เมื่อคนหนึ่งเอ่ยปาก คุณหนูคนอื่นๆ ก็มีดวงตาเป็นประกายอีกครั้ง "ใช่ เราจะจ่ายในราคาที่มากกว่า"
เถ้าแก่ได้ฟังเช่นนั้น ก็หันไปมองซ่งฉงปิง
ซ่งฉงปิงทำหน้าไร้เดียงสา "มองข้าทำไมล่ะ เจ้าต้องถามพวกนางว่าจะยอมจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ สิ่งที่แย่ที่สุดคือมีเงินแต่ไม่ได้กำไร เจ้าว่าไหม?"
เถ้าแก่แอบยิ้ม หลังจากนั้นจึงมองไปยังคุณหนูเหล่านั้นด้วยสีหน้าจริงจัง "ไม่ทราบว่าคุณหนูทุกท่านจะจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่หรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...