เมื่อลั่วเสี่ยวปิงกลับไป ก็ได้เห็น จางซิ่งฮวาและอานอานเล่อเล่อกำลังยุ่งอยู่กับฝ้าย
เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ พวกเขาทั้งสามคนกำลังแกะเม็ดฝ้ายออก เวลาเพียงเล็กน้อย ก็แกะปริมาณที่สามารถทำผ้าห่มได้หนึ่งผืนแล้ว
การเย็บผ้าห่มก็ไม่ใช่งานทางเทคนิคอะไร ตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงอยู่ในชนบทก็เคยเห็นมาก่อน และยังได้เคยลงมือทำอีกด้วย
แต่เท่าที่นางรู้ ในยุคนี้ไม่มีคันธนูและคันธนูไม้ไผ่สำหรับดีดฝ้าย ลั่วเสี่ยวปิงแปลกใจมากที่จางซิ่งฮวาได้ทำให้ฝ้ายกลมๆ กลายเป็นผ้าห่มทั้งผืนได้อย่างไร และไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไปทำ แต่กลับมองดูอยู่เฉยๆ ด้านข้าง
ได้เห็น จางซิ่งฮวาหยิบเพียงแค่ไม้ไผ่สะอาดอันหนึ่งจากด้านข้าง และนำฝ้ายที่คัดเมล็ดออกแล้ววางลงบนเสื่อฟางบนพื้น แล้วทุบให้เหมือนว่ากำลังทุบเสื้อผ้าอย่างไรอย่างนั้น
ลั่วเสี่ยวปิง “......” ช่างเป็นวิธีที่เรียบง่ายและมุทะลุมาก
เมื่อเห็นท่าที จางซิ่งฮวาที่ใช้แรงมาก ลั่วเสี่ยวปิงหันกลับมาอย่างเงียบๆ และได้หาไม่ไผ่ที่พอดีมือออกมาตีดอกฝ้ายเหล่านั้น
เป็นครั้งแรกอานอานเล่อเล่อได้เห็นการทำผ้าห่ม และแปลกใหม่มาก เมื่อเห็นว่าแม่และน้าซิ่งฮวากำลังตีดอกฝ้ายอยู่ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหาไม้ไผ่ไม้เล็กๆ มาร่วมตีด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนยังเล็กไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงอะไร ไม่นานทั้งสองคนก็เหน็ดเหนื่อยมีเหงื่อไหลไม่หยุด
ไม่พูดไม่ได้ การเล่นฝ้ายเป็นงานใช้แรง ลั่วเสี่ยวปิงกับจางซิ่งฮวาตีกันไปครึ่งชั่วยาม และในที่สุดผ้าฝ้ายก็ได้นุ่มฟูขึ้น เมื่อสัมผัสเบาๆ ก็เหมือนกับขนมสายไหมอย่างไรอย่างนั้น
ตัวลั่วเสี่ยวปิงเองได้เหนื่อยล้ามากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงจางซิ่งฮวาที่ไม่เคยทำงานหนักเลย ในเวลานี้จางซิ่งฮวาเหงื่อออกเต็มไปหมด และใบหน้าก็ซีดขาวด้วย
ชั่วขณะหนึ่ง ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงไปที่ห้องครัวและเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับจางซิ่งฮวา ในช่วงที่ไม่มีใครสนใจ ลั่วเสี่ยวปิงได้หยดน้ำแร่วิญญาณลงในถ้วยหนึ่งหยด
แน่นอนว่า หลังจากที่จางซิ่งฮวาดื่มน้ำที่ได้เติมน้ำแร่วิญญาณลงไปแล้ว ทั้งร่างกายได้มีชีวิตชีวามากขึ้น
หลังจากฟื้นจากความเหนื่อยล้า จางซิ่งฮวายังคงทำงานที่ยังทำไม่เสร็จต่อ
เมื่อเห็นจางซิ่งฮวากระจายฝ้ายเนื้อนุ่มๆ ไว้บนเสื่อฟางอย่างสม่ำเสมอแล้ว และเมื่อวางฝ้ายที่มีอยู่ทั้งหมดแล้ว จางซิ่งฮวาได้ดึงด้ายอีกสองสามเส้นมาเพื่อทำเป็นตาข่ายวางไว้บนเหล่าฝ้าย การทำเช่นนี้เป็นกระบวนการที่ทำให้แบนราบ
หลังจากทำงานแบบนี้ต่อไปอีกครึ่งชั่วยาม จางซิ่งฮวาได้พับปุยไส้ในอย่างคล่องมือจนเสร็จ และได้ตัดผ้าฝ้ายและผ้าแพรออก และเริ่มเย็บผ้าห่ม
ทักษะการเย็บผ้าของจางซิ่งฮวานั้นเก่งมาก และเข็มด้ายอยู่ในมือของนางนั้นสามารถพูดได้ว่าราบรื่น รวดเร็วและเรียบร้อย
สักพัก ผ้านวมนุ่มๆ ผืนใหม่ก็เสร็จเรียบร้อย
ตั้งแต่เล็กจนโตนี่เป็นครั้งแรกที่อานอานเล่อเล่อได้เห็นผ้านวมใหม่ ทั้งยังทำจากผ้าแพรและฝ้าฝ้าย เด็กทั้งสองคนอดที่จะเอื้อมมือไปจับไม่ได้ ทั้งทำท่ากลัวจะพังอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าเล็กๆ ทั้งสองได้แดงระเรื่อจากความตื่นเต้น ช่างน่ารักจริงๆ
มองไปที่ท่าทีของอานอานเล่อเล่อแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงทั้งขบขันทั้งเป็นห่วง
หากเป็นยุคปัจจุบัน เด็กโตเหมือนพวกเขาแบบนี้ จะมีของเล่นมากมายเพียงใดก็ไม่อาจที่จะง้อได้ แต่พวกเขากลับเพราะผ้าห่มใหม่แค่ผืนเดียวก็ดีใจจนเป็นแบบนี้ เหมือนว่าข้างหน้าเป็นนั้นเป็นสมบัติอย่างไรอย่างนั้น
ระงับความไม่สบายใจไว้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงจับไปที่ศีรษะของอานอานกับเล่อเล่อ “ในอนาคตเมื่อเรามีบ้านใหม่ แม่จะทำผ้าห่มที่ดีกว่าให้พวกเจ้าคนละผืน”
เด็กทั้งสองมองหน้ากันเมื่อได้ยินคำนั้น จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองแม่พร้อมๆ กัน ทั้งประหลาดใจและตั้งหน้าตั้งตารอ
“ท่านแม่ เราจะมีบ้านใหม่หรือ?”
ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า “จะต้องมีแน่นอน”
อานอานเล่อเล่อมองหน้ากันโดยปริยาย แล้วพูดพร้อมเพรียงกันว่า “พวกเราเชื่อในตัวท่านแม่”
ตอนนี้แม่เก่งมาก ไม่ว่าจะพูดอะไรล้วนสำเร็จ
จางซิ่งฮวาที่อยู่ด้านข้างมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม “พี่เสี่ยวปิง ท่านช่างเก่งมากจริงๆ”
เมื่อ จางซิ่งฮวาได้ยินสิ่งนี้ แววตาได้เป็นประกายขึ้นทันที
“พี่เสี่ยวปิง เจ้าคิดว่าข้ามีพรสวรรค์มากจริงๆ หรือ?” จางซิ่งฮวาถาม ด้วยท่าทางประหม่า
เห็นได้ชัดว่า จางซิ่งฮวานั้นชอบงานด้านเย็บปักถักร้อยมาก
“จริงสิ และนี่คือเหตุผลที่ข้าขอให้เจ้าช่วยทำเสื้อผ้า” ลั่วเสี่ยวปิงทำหน้าที่แน่ชัด
หลังจากพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงได้เปิดเผยความตั้งใจเดิมที่จะให้ซิ่งฮวามาช่วยนางทำเสื้อผ้า และอธิบายว่า เมื่อเสื้อผ้าสามารถขายได้ในราคาดี ก็จะได้รับค่าส่วนต่างกับนาง
ซิ่งฮวาดูตื่นเต้นมากหลังจากได้ยินแบบนี้ “พี่เสี่ยวปิง ข้าจะตั้งใจทำเสื้อผ้าให้ออกมาอย่างเรียบร้อยแน่นอน”
“ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องทำได้ดีแน่” ลั่วเสี่ยวปิงพูด และลูบไปที่หัวของซิ่งฮวาอย่างช่วยไม่ได้
ในยุคปัจจุบัน ซิ่งฮวาที่อายุสิบสามปีนั้นก็เป็นเพียงแค่เด็กเท่านั้น
ซิ่งฮวาดูตื่นเต้น และรู้สึกว่าตอนนี้นางมีความมั่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นางหยิบไม้บรรทัดขึ้นมาเพื่อวัดร่างกายของอานอานเล่อเล่อ แล้วหลังจากนั้นเริ่มลงมือทำ
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าซิ่งฮวามีความมุ่งมั่นเต็มที่เช่นนี้ ก็อดยิ้มไม่ได้
ทันทีที่ก้มศีรษะลง จึงเห็นเด็กสองคนจ้องมาที่ตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ ลั่วเสี่ยวปิงอดตกใจไม่ได้
“ท่านแม่ ข้าก็ต้องการ” เล่อเล่อเอ่ยขึ้น
อานอานก็ยังมองแม่ของตัวเอง และมองดูตาปริบๆ
ลั่วเสี่ยวปิง “......” ต้องการอะไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...