แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 544

เมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

เรื่องใหญ่เกี่ยวกับชีวิตคน

เครื่องสำอางของร้านเครื่องสำอางร้านหนึ่งทำให้หญิงสาวคนหนึ่งหน้าพัง พูดกันว่าตอนนี้หญิงสาวคนนั้นน่าเกลียดจนพ่อแม่นางก็จำไม่ได้ คิดอยากฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน

ยังไม่ใช่แค่นี้

ว่ากันว่า ร้านยาจี้เหรินถังที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงขายยาปลอม คนป่วยเล็กน้อยคนหนึ่ง วันนี้ป่วยหนัก ไร้หนทางรักษา เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ว่ากันว่า อาหารของร้านอาหารระดับกลางหอหยุนเซียงที่ค้าขายดีมากในเมืองหลวงมีคนกินแล้วตาย

เดิมแล้ว เมืองหลวงอันใหญ่โต เรื่องอย่างโน้นอย่างนี้ต้องเกิดขึ้นทุกอย่างไม่น้อยอย่างแน่นอน เรื่องคนตายทำร้ายคนก็ต้องมีอยู่แล้ว

แต่ ในเวลานี้ ไม่รู้ว่าใครเผยออกมาร้านทั้งสามร้านนี้เป็นของเจียเล่อจวิ้นจู่ที่เพิ่งถูกฮ่องเต้แต่งตั้งขึ้นมาพอดี

ดังนั้น เดิมแล้วยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเล็กอยู่ จากการผลักดันของคนจงใจ ทันใดนั้นก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน

ในเวลานี้ ชาวบ้านที่ได้รับรู้ต่างก็มาล้อมอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องอี้ว

“เจียเล่อจวิ้นจู่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!”

“เจียเล่อจวิ้นจู่คืนความยุติธรรมให้กับชาวบ้านอย่างพวกเรา”

“เจียเล่อจวิ้นจู่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ไม่คู่ควรเป็นจวิ้นจู่”

“เจียเล่อจวิ้นจู่ไสหัวออกไปจากเมืองหลวง——”

คำพูดต่างๆนานา ดังขึ้นหน้าประตูจวนอ๋องอี้วรอบแล้วรอบเล่า ทำให้กระทบถึงอ๋องอี้วสามีภรรยาอย่างรวดเร็ว

อ๋องอี้วซ่งหยุนดาสีหน้าโกรธเคือง “ไม่ได้ ข้าต้องออกไปต่อว่าต่อขานกับพวกเขา”

ใบหน้าทั้งใบของซ่งหยุนดาแดงไปหมดเพราะความโกรธ

ลูกสาวสุดที่รักที่ตัวเองรักใคร่หวงแหนถูกคนอื่นพูดแบบนี้ ซ่งหยุนดาเกือบจะขาดสติไปแล้ว

มิเช่นนั้น ถ้าเป็นเวลาปกติ เวลาที่ชาวบ้านก่อเรื่อง อ๋องอี้วไม่มีวันพูดว่าจะไปต่อว่าต่อขานกับชาวบ้านเด็ดขาด

แม้แต่เว่ยหวินซี ขณะนี้ก็โมโหจนเจ็บหน้าอก ไม่ได้คิดที่จะขัดขวางซ่งหยุนดาเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่ซ่งหยุนดาขาดสติ จะพุ่งไปที่ประตูใหญ่ น้ำเสียงหนึ่งห้ามเขาไว้

“เสด็จพ่อ เดี๋ยวก่อน”

เสียงของซ่งฉงปิง

ต้องพูดว่า อ๋องอี้วที่ขาดสติไปแล้วจะสามารถฟังใครได้ นั่นก็คือซ่งฉงปิงเพียงคนเดียวแล้ว

เพราะฉะนั้น วินาทีก่อนซ่งหยุนดายังโมโหเหมือนกับสิงโตใครก็รั้งไม่อยู่ วินาทีต่อมาก็หยุดเท้าไว้

แน่นอนว่าซ่งฉงปิงก็ได้ยินความเคลื่อนไหวข้างนอกถึงได้รีบมา มองเห็นท่านพ่อของตัวเองท่าทางจะออกไปสู้ตาย ซ่งฉงปิงถึงอดเรียกซ่งหยุนดาไว้ไม่ได้

“เสด็จพ่อ ถึงแม้ตอนนี้ท่านออกไปต่อว่าต่อขานก็ไม่มีประโยชน์” ซ่งฉงปิงพูด

เป็นคนที่ถูกชาวบ้านปราบปราม บนใบหน้าของซ่งฉงปิงไม่มีความร้อนรนแม้แต่น้อย ขณะนี้นางยังคงเรียบเฉยเหมือนปกติ

ในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญอะไร

ร้านพวกนั้นนางเพิ่งรับมาก็เกิดเรื่องแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจจะเจาะจงตัวเอง

อยากดับความโกรธของพวกชาวบ้าน มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น สืบหาความจริง

เวลาแรกที่เกิดเรื่องขึ้น นางก็ให้อั้นหวู่ไปสืบแล้ว เชื่อว่าไม่นานก็จะได้ข่าว

ส่วนชาวบ้านข้างนอกอารมณ์กำลังอยู่ในระดับสูง ตอนนี้หากใครออกไป ใครคนนั้นก็ต้องเป็นตัวรับกระสุนไป

เพราะฉะนั้น รอจนอั้นหวู่สืบความจริงได้แล้วค่อยออกไปถึงจะเป็นวิธีที่มีสติที่สุด

ขณะนี้ซ่งหยุนดาสงบสติลงแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่ลูกสาวพูดถึงจะถูกต้อง?

แต่ ได้ยินคำพูดข้างนอกเหล่านั้นที่ด่าลูกสาวของตน ซ่งหยุนดาก็อดกลั้นความโมโหที่พลุกพล่านขึ้นมาไม่ได้

จวิ้นจู่ทั้งคน จะให้ชาวบ้านพวกนั้นด่าว่าเหยียดยามเช่นนี้ได้อย่างไร?

ยังให้ลูกสาวไสหัวออกจากเมืองหลวง? เขาว่าคนที่ควรไสหัวออกจากเมืองหลวงคือพวกเขาต่างหาก

บางส่วนที่ถืออาวุธข้าวของมาแล้ว ก้อนหิน ไข่ไก่เน่า น้ำผักเน่าต่างๆ ได้ยินเสียงตะโกนนี้ ต่างก็โยนข้าวของในมือไปทางซ่งฉงปิงอย่างไม่สนใจใคร

ซ่งหยุนดาจะปกป้องซ่งเฮง มองเห็นซ่งฉงปิงจะถูกของพวกนั้นทุบแล้ว ซ่งหยุนดาโกรธจนขอบตาแทบแตก หิ้วตัวซ่งเฮงเตรียมจะขวางไว้ข้างหน้าซ่งฉงปิง

ไม่ว่าจะเป็นก้อนหินหรือของสกปรกพวกนั้น เขาก็ไม่ยอมให้มันปนเปื้อนลูกสาวสุดที่รักของตน

แต่ทว่าวินาทีนี้ นอกจากซ่งหยุนดา ยังมีสองร่างที่พุ่งเข้าหาซ่งฉงปิง

หนึ่งร่างคือไป๋เสาที่มาช้าไปหนึ่งก้าว อีกหนึ่งร่าง กลับเป็นหลางซิงเหอ?

ซ่งฉงปิงเองก็ไม่ใช่ไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเองเลย ของเหล่านั้นนางไม่สามารถหลบได้ทั้งหมด แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนปกป้อง นางก็สามารถทำให้ตัวเองไม่บาดเจ็บได้อย่างแน่นอน

อย่างมาก เสื้อผ้ากระโปรงสกปรกนิดหน่อยเท่านั้น

แต่ หลางซิงเหอกลับขวางอยู่ข้างหน้าซ่งฉงปิง ไข่ไก่เน่าพวกนั้น น้ำผักเน่า แม้กระทั่งก้อนหิน ทั้งหมดนั้นก็ร่วงอยู่บนตัวของหลางซิงเหอ

หลางซิงเหอก็ไม่ได้สู้กลับ

แม้กระทั่ง ซ่งฉงปิงได้ยินเสียงคำรามของหลางซิงเหอ

ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมหลางซิงเหอถึงปรากฏตัวกะทันหัน แต่คนบริสุทธิ์ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะนาง ทำให้ในใจนางอึดอัดอย่างมาก

“พวกเจ้าให้ข้าหยุดเดี๋ยวนี้”

ทันใดนั้น ซ่งฉงปิงที่เรียบเฉยมาตลอดโมโหแล้ว

หลังจากมาเมืองหลวงแล้ว ซ่งฉงปิงแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาน้อยมาก

แต่ครั้งนี้ นางโกรธแล้ว

โง่เขลา งมงาย ล้วนไม่ควรเป็นสิ่งปกป้องชาวบ้านที่ไม่มีขื่อมีแปพวกนั้น

ซ่งฉงปิงอยู่ภายใต้สายตาที่ไม่เห็นด้วยของหลางซิงเหอ ยืนออกมาจากข้างหลังของหลางซิงเหอ

จากนั้น มีก้อนหินก้อนหนึ่งขว้างมาตรงหัวของซ่งฉงปิงอย่างพอดี

เรี่ยวแรงนั้น ถ้าหากให้มันโดนหัวของซ่งฉงปิง หัวของซ่งฉงปิงต้องเหลือไหลแน่นอน หากหนักก็เสียชีวิต......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง