"ลูกพี่ใหญ่ แย่แล้ว......"
ในเวลานี้ มีโจรน้อยคนหนึ่งวิ่งออกมา สีหน้ารีบร้อนมาก
ลั่วเสี่ยวจู๋ที่ถูกคนประคองเข้ามานั้นพอได้ยินเสียงนี้ ร่างกายก็สั่นเล็กน้อย สายตามีความหวาดกลัวพาดผ่าน
คนพวกเฮยเฟิงได้มองมาที่ลั่วเสี่ยวจู๋ในเวลานี้ สายตามีความหดหู่เล็กน้อย
ลั่วเสี่ยวจู๋เห็นเช่นนี้ พยายามตั้งสติ และถูกคนประคองนั่งลง
ในเวลานี้ โจรน้อยที่มาส่งข่าวก็มองลั่วเสี่ยวจู๋อย่างไม่พอใจ จากนั้นพูดอย่างคดเคี้ยวฟัน"ลูกพี่ใหญ่ขอรับ ในกองทัพไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด มีเสบียงอาหารมาส่งชุดหนึ่ง ดูเหมือนว่า เหมือนว่า"
"ดูเหมือนว่าอย่างไร?"ลูกพี่รองที่ใจร้อนอดไม่ได้ที่จะถาม
ได้ยินเช่นนี้ สายตาที่โจรน้อยมองลั่วเสี่ยวจู๋ก็ยิ่งโมโหขึ้น"ลูกพี่ใหญ่ เสบียงอาหารของพวกเขาอย่างน้อยใช้ได้สามเดือน"
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทุกคนล้วนบึ้งตึงลง
สามเดือน ถ้าหากเร็วหน่อยสงครามของทั้งสองประเทศก็จบสิ้นแล้ว
"ลูกพี่ ข้าบอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พวกเขาเป็นพวกเดียวกันแน่เลย"ลูกพี่สามอดไม่ได้ที่จะออกเสียง
แต่ว่าเขายังพูดไม่จบ ก็ถูกท่าทางของเฮยเฟิงห้ามเอาไว้
"ลูกพี่"ลูกพี่รองยังจะพูดอะไรอีก
"น้องสอง!"เฮยเฟิงออกเสียง ขัดจังหวะพูดของลูกพี่รอง"เรื่องนี้ ข้าจะตัดสินเอง"
ระหว่างพูด เฮยเฟิงถึงมองไปทางลั่วเสี่ยวจู๋ สายตาน่ากลัวมาก
"เรื่องนี้เจ้ามองยังไง?แม่นางลั่ว!"คำพูดของเฮยเฟิง มีความน่ากลัวปนเปือนอยู่ สายตาราวกับนกอินทรี จับจ้องคนเอาไว้ ให้ความรู้สึกว่าคนซ่อนไม่ได้
อย่างน้อย ลั่วเสี่ยวจู๋เป็นความรู้สึกแบบนี้
นางลนลานมาก แต่ก็ต้องทำตัวเป็นใจเย็น
เพราะนางรู้ว่า ถ้าเรื่องนี้นางไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจน วันนี้ตัวเองจะไม่สามารถถอดตัวได้แน่นอน
เมื่อนึกถึงที่นี่ ลั่วเสี่ยวจู๋ก็หายใจเข้าลึกๆ
"ถ้าข้าเป็นพวกเดียวกับอ๋องเซ่อเจิ้งจริง เมื่อวานข้ายังจะถูกเขาทำแบบนั้นอีกหรือ?ข้าจะนอนอยู่บนเตียงลงเตียงไม่ได้หรือ?"ลั่วเสี่ยวจู๋ใช้ประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงใจเย็นมาก
เพราะนางรู้ว่า โจรเหล่านี้ช่างสงสัยมาก ตัวเองยิ่งลนลาน คนเหล่านี้ก็ยิ่งสงสัยตัวเอง
ในทางตรงข้าม หากตัวเองทำตัวใจเย็น คนเหล่านี้ก็จะเชื่อถือตัวเอง
จริงๆแล้วนางฉลาดมาก รู้จักแยกแยะสถานการณ์ รู้จักสัวเกตคน ยิ่งรู้ว่าต้องทำยังไงถึงดีกับตัวเอง
ดังนั้นยิ่งรีบร้อนนางก็ยิ่งแสดงออกมาอย่างใจเย็น
"แล้วเจ้าจะอธิบายยังไงเรื่องที่เจ้าเรียกเขาว่าพี่เขย?"ลูกพี่สามถาม
และครั้งนี้ เฮยเฟิงก็ไม่ได้ห้ามลูกพี่สามถาม
ลั่วเสี่ยวจู๋"เขาเคยเป็นพี่เขยของข้าจริง แต่ข้าตัดความสัมพันธ์กับญาติของข้าแล้ว"
ระหว่างพูด ลั่วเสี่ยวจู๋มองลูกพี่รองอย่างประชด"มิฉะนั้น เจ้าว่าเหตุใดข้าถึงถูกเจ้าจับขึ้นค่าย?"
ตอนนั้นลั่วเสี่ยวจู๋ถูกลูกพี่รองจับขึ้นค่ายนั่นเอง
แต่สำหรับสิ่งนี้ลูกพี่รองไม่รู้สึกผิดเลย
ในฐานะที่เป็นโจร เรื่องปล้นทรัพย์ ฆ่าคน ลักพาตัวก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ถ้ารู้สึกผิดพวกเขาจะเป็นโจรได้อย่างไรอีก?
และถ้าไม่จับผู้หญิงขึ้นภูเขา ทีมของพวกเขาจะขยายยังไง?พวกเขาจะสืบทอดได้อย่างไร?
สำหรับสิ่งนี้เฮยเฟิงไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย แต่สายตาที่ราวกับนกอินทรียังคงจ้องลั่วเสี่ยงจู๋ไว้ อยากจะหาจุดบกพร่องจากใบหน้าของนาง
แต่ว่าไม่มี
เงียบขรึมไปตั้งนาน เฮยเฟิงถึงถามว่า"เจ้าให้ค่ายเราใช้เงินทั้งหมดซื้อเสบียงอาหารเหล่านั้น แต่ตอนนี้กองทัพไม่เอา พวกเราขาดทุนกันอย่างหนัก เจ้ามองยังไง?"
สำหรับสิ่งนี้ลั่วเสี่ยวจู๋คิดมาคืนหนึ่งแล้ว
แน่นอนว่าตอนที่คิดนางไม่รู้ว่าฉีเทียนเห้าจะหาเสบียงอาหารได้
นางคิดอยู่ว่า จะใช้เงื่อนไขอะไรแลกกับฉีเทียนเห้า
แต่เรื่องที่ประสบในวันนี้ ทำให้นางค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก
ไม่ว่านางคิดอย่างไร ก็คิดไม่ถึงว่าฉีเทียนเห้าจะหาเสบียงอาหารได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ สิ่งที่นางพยายามมานานขนาดนี้ ก็เสียเปล่าแล้วสิ?
ไม่ได้!
ไม่ได้แน่นอน!
บางทีถูกขู่จนถึงทางตัน คนก็จะช่วยตัวเองโดยจิตสำนึก สมองก็หมุนได้เร็วกว่าปกติ
ในยามจำเป็นลั่วเสี่ยวจู๋ก็คิดวิธีได้จริงๆ
"ให้เวลาข้าอีกวันหนึ่ง ข้าจะให้เสบียงอาหารออกมือแน่"ระหว่างที่พูด ลั่วเสี่ยวจู๋ก็เผชิญหน้ากับเฮยเฟิง"เจ้าต้องรู้ว่า เสบียงอาหารเหล่านั้นก็มีเงินของข้าส่วนหนึ่งด้วย ถึงแม้ข้าจะทำร้ายพวกเจ้า ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายตัวเองหรอก"
ระหว่างพูด ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ยิ้มอย่างมั่นใจ"พวกเจ้าอย่าลืมความสามารถที่แท้จริงของข้านะ"
รอยยิ้มที่มั่นใจของลั่วเสี่ยวจู๋ ควบคู่ไปกับคำพูดนั้นของนาง ทำให้เฮยเฟิงกระพริบตาเล็กน้อย"เจ้าความหมายว่า เรื่องนี้เจ้ามีลางสังหรณ์ด้วยหรือ!"
ลั่วเสี่ยวจู๋พยักหน้า"ถูกต้องแล้ว ข้าสัญญาว่า เสบียงอาหารในกองทัพ ไม่ใช่ของจริงแน่นอน"
ตอนที่พูดคำพูดนี้ สีหน้าของลั่วเสี่ยวจู๋ก็มั่นใจขึ้นเรื่อยๆ
หัวหน้าหลายคนของค่ายต้างมองหน้าเข้าหากัน
หรือว่านี่เป็นกลยุทธ์ลวงตาของฝั่งนู้นจริงๆ?
เห็นฝั่งตรงข้ามมีความหวั่นไหว ลั่วเสี่ยวจู๋พูดต่อ"ให้เวลาข้าวันหนึ่ง ข้าจะไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง"
......
ลั่วเสี่ยวจู๋เดินมาถึงหน้ากองทัพ
นางเห็นว่าสีหน้าของเหล่าทหารล้วนสบายๆมาก แต่ในใจนางคือว้าวุ่นมาก
ดังนั้น นางอยากจะช่วยแย่งให้ตัวเองหน่อย"ข้าอยากได้เมืองหลินอาน"
หากนางเป็นเจ้าอำเภอของเมืองหลินอาน งั้นนางก็สามารถลืมตาอ้าปากต่อหน้าคนเหล่านั้น
โดยเฉพาะนางอยากเห็นคนในหมู่บ้านต้าชิ่งกราบต่อหน้านาง
หนานเฉินไม่ได้เงยหน้าเลย"เมืองหลินอานเป็นศักดินาที่ดินของเจียเล่อจวิ้นจู่แล้ว ส่วนเจ้านั้น อ๋องเซ่อเจิ้งสามารถให้เจ้าเป็นเจ้าอำเภอได้ แต่ศักดินาที่ดินนั้นต้องรอเข้าเมืองแล้วให้ฝ่าบาทตัดสินเอาเอง"
ส่งลั่วเสี่ยวจู๋ไปให้นายหญิง ให้นายหญิงจัดการเอง นี่เป็นความคิดของเจ้านาย
ลั่วเสี่ยวจู๋ได้ยินเช่นนี้ ถึงแม้ไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ลั้วเสี่ยวจู๋มนตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเจียเล่อจวิ้นจู่เป็นใคร หากรู้จะต้องโมโหแน่ๆ
ตอนนี้สำหรับลั่วเสี่ยวจู๋ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ศักดินาที่ดิน แต่เป็นเพราะนางสัญญาว่าได้ส่งเสบียงอาหารออกไปหมด เพื่อแลกตำแหน่งเจ้าอำเภอให้ตัวเอง
งั้น โจรเหล่านั้น ก็ให้อยู่ไม่ได้แล้ว!
เมื่อนึกถึงที่นี่ สายตาของลั่วเสี่ยวจู๋ก็มีความโหดร้ายพาดผ่าน
ณ เมืองหลวง
หลายวันนี้ คนที่มาขอแต่งก็น้อยลองแล้ว ประตูของจวนอ๋องอี้ก็กว่าจะสงบลงได้ แต่แน่นอนแล้ว จะห้ามคนที่ยืนหยัดว่าจะขอแต่งไม่ได้
อย่างเช่น ซูรุ่ย ลูกที่ออกโดยเมียหลวงของจวนเฉิงเซี่ยง
คนของตระกูลซูเกือบจะมาทุกวัน
ซ่งฉงปิงไม่ได้เจอหน้าคนของตระกูลซู คนพวกนี้มีเสด็จแม่จัดการให้ นางก็เลยสบายกว่าเยอะ
อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากรู้ว่าคนของตระกูลซูไปแล้ว ซ่งฉงปิงก็ออกจากบ้าน
แต่เพิ่งเดินมาถึงถนน ซ่งฉงปิงก็ถูกห้ามเอาไว้
คนที่ห้ามซ่งฉงปิงเป็นคนใช้คนหนึ่ง เมื่อเห็นซ่งฉงปิงก็ถือว่าเคารพ ทำความเคารพต่อซ่งฉงปิง"เจียเล่อจวิ้นจู่ขอรับ"
ซ่งฉงปิงมองคนนั้นด้วยสีหน้าที่ใจเย็น ไม่เอ่ยเสียงใดๆ แต่ไป๋ซู่ที่อยู่ข้างๆอ้าปาก"เจ้าเป็นใคร?ในเมื่อรู้ว่าเป็นจวิ้นจู่ เจ้ายังกล้าห้ามอีก?"
คนใช้ได้ยินเช่นนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ยิ่งเคารพมากกว่าเดิม"คุณชายของข้าน้อยให้มาเชิญเจียเล่อจวิ้นจู่ขอรับ"
ซ่งฉงปิงได้ยินเช่นนี้ พูดอย่างราบเรียบ"คุณชายของเจ้าคือใคร?"
"นี่......"คนใช้ลำบากใจเล็กน้อย จากนั้นก็เคารพมากขึ้น"เจียเล่อจวิ้นจู่ไปก็จะรู้ขอรับ"
ระหว่างพูด คนใช้กลัวซ่งฉงปิงจะไม่ไว้ใจ ก็พูดต่อว่า"หากเจียเล่อจวิ้นจู่เป็นห่วง เจียเล่อจวิ้นจู่สามารถเป็นคนเลือกสถานที่ คุณชายของข้าน้อยไปหาก็ได้ขอรับ"
ความหมายนี้คือ ต้องเจอนางแน่ๆ?
ซ่งฉงปิงก็ไม่ได้กลัว หลังจากคิดสักครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า"ได้ข่าวว่าหอปิงเยว่ในเมืองหลวงมีชื่อเสียงมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไปหอปิงเยว่เถอะ"
นางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คุณชายคนที่จะเจอหน้าตัวเองนั้นคือใคร
แต่นางก็พอมีหลายคนเลือกอยู่ในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...