แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 681

ซ่งหยุนจางขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของซ่งฉงปิงชั่วขณะ

ที่เขาถามเกี่ยวอะไรกับสามีของซ่งฉงปิง?

“เจ้า...”

ซ่งหยุนจางกำลังจะเอ่ยปากถาม จู่ๆ สมองพลันแล่น ความคิดน่ากลัวอย่างหนึ่งจู่โจมเข้ามาในสมองของซ่งหยุนจาง

ไม่ เป็นไปไม่ได้!

ซ่งหยุนจางเบิกตากว้างมองซ่งฉงปิง แล้วมองทางฉีเทียนเห้า มีความเหลือเชื่ออยู่ในสายตา

แต่เพื่อพิสูจน์การคาดเดาของตัวเอง สุดท้ายซ่งหยุนจางก็ยังเอ่ยปากถามกับซ่งฉงปิงด้วยความยากลำบาก “ที่ ที่เจ้าพูดมา หมายความว่าอะไร?”

ซ่งฉงปิงตอบเรียบ “ก็ตามนั้นนั่นแหละเพคะ”

ซ่งหยุนจาง “...เจียเล่อ!”

ซ่งหยุนจางรู้สึกว่าซ่งฉงปิงไม่ได้ตอบคำถามของตัวเองตรงๆ รู้สึกเคืองนิดๆ จึงชักเสียงสูงอย่างห้ามไม่อยู่ เผยความน่าเกรงขามในแบบฮ่องเต้

แต่ ซ่งหยุนจางในขณะนี้กลับละเลยฉีเทียนเห้าไป

“ฝ่าบาท ใครอนุญาตให้เจ้าพูดกับชายากระหม่อมด้วยน้ำเสียงอย่างนี้กัน?” เสียงของฉีเทียนเห้าแฝงความเย็นชาเล็กน้อย ส่งตรงถึงใจ

ขณะเดียวกัน ถ้อยคำของฉีเทียนเห้าก็ยืนยันการคาดเดาของซ่งหยุนจางด้วยเหมือนกัน ไขข้อข้องใจให้ซ่งหยุนจางอย่างทันท่วง

แต่ การไขข้อสงสัยนี้กลับทำให้ซ่งหยุนจางหน้าซีดเผือด

“พวก...พวกเจ้า หรือว่าพวกเจ้าคิดจะก่อกบฏ?”

อ๋องเซ่อเจิ้งเป็นลูกเขยของอ๋องอวี้?

นี่ช่างเป็นเรื่องน่าขันในหล้าโดยแท้

“ไม่ ไม่ถูก!” ซ่งหยุนจางร้อนรนปฏิเสธถ้อยคำของฉีเทียนเห้า “เจียเล่อมีลูก พวกเจ้าเป็นไปไม่ได้...”

“จะเป็นไปได้หรือไม่ก็ไม่ขึ้นอยู่กับฝ่าบาท” ฉีเทียนเห้าขัดคำพูดของซ่งหยุนจาง

จะพูดอย่างไรก็แค่ไม่อยากยอมรับความจริงเท่านั้น ไม่มีความหมาย

“ฝ่าบาทจำที่กระหม่อมเคยพูดเมื่อปีนั้นได้หรือไม่?” ฉีเทียนเห้าถามเสียงเย็น

หากสำรวม ย่อมไม่ต้องกังวล

คำพูดนี้มีความหมายในอีกแง่หนึ่ง คือหากไม่สำรวม เช่นนั้นถึงกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์

ซ่งหยุนจางย่อมชัดแจ้งในจุดนี้ สีหน้าแย่ยิ่ง “ฉีเทียนเห้า เจ้าคิดจะกบฏหรือ?”

ความจริงตั้งแต่แรกฉีเทียนเห้าก็คิดจะกบฏแล้วใช่หรือไม่?

นับจากเก้าปีก่อน ฉีเทียนเห้าก็รอวันนี้ใช่หรือไม่?

อ๋องอวี้อีก

ซ่งหยุนดา!

เขาทะเยอทะยาน

ต้องเป็นอ๋องอวี้เรียกตัวฉีเทียนเห้ามาแน่ ต้องใช่แน่ๆ

“ดีมาก พวกเจ้าแต่ละคน ในเมื่อทะเยอทะยานคิดทรยศหักหลัง ดีมาก...” ซ่งหยุนจางกล่าวพลางเริ่มถอยไปข้างหลัง

เขาจะให้แผนการชั่วร้ายของพวกเขาสำเร็จไม่ได้

ตำแหน่งจักรพรรดิเป็นของเขา

เหล่าพสกนิกรจะไม่ยอมรับพวกคนคิดคดทรยศ

ฉีเทียนเห้ากับซ่งฉงปิงมองซ่งหยุนจางหายลับไปจากหอกำแพงเมือง ไม่ร้อนรนสักนิด

เพียงแต่ซ่งฉงปิงระอาใจอยู่บ้าง

ผู้เป็นฮ่องเต้กลับไม่เอาไหนขนาดนี้ หาใครอื่นไม่ได้แล้ว

เมื่อซ่งหยุนจางลงจากหอกำแพงเมืองแล้วก็ตะลีตะลานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

“เร็ว สั่งการไป เฝ้าประตูวังหลวง” ซ่งหยุนจางสั่งการพร้อมกับนำผู้ติดตามคนสนิทวิ่งเข้าวังหลวง

ไม่นาน นางสนมและเหล่าข้าหลวงในวังก็ทราบข่าวนี้ ต่างพากันตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก

ใครก็คิดไม่ถึงว่าวันเวลาอันสงบสุขจะถูกทำลายในวันนี้แล้ว?

ทว่าขณะที่กลุ่มคนเหล่านี้เก็บข้าวของสัมภาระเตรียมตัวหนี ก็พบว่าไปไหนไม่รอดแล้ว เพราะกองทัพเสวียนอู่บุกมาถึงวังหลวงแล้ว

องครักษ์รักษาประตูวังหลวงยังฮึกเหิมต่อต้านในทีแรก แต่เพราะหลายปีนี้อ๋องเซ่อเจิ้งแทรกแซงงานราชกิจ และองครักษ์เฝ้ายามเหล่านี้จึงมิใช่พวกรู้แต่กินดื่มทุกคน

แต่ด้วยข่าวการหายตัวไปของฮ่องเต้ จึงทำให้พวกเขายอมศิโรราบตั้งแต่ยังไม่ทันจะสู้

บ้างไม่พอใจ บ้างกระวนกระวาย แต่ก็ยังมีคนสงบนิ่ง

แต่ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ยามนี้เวลานี้ ต่างก็ยืนอยู่ตรงประตูวังหลวงไม่กลับไปไหนทั้งนั้น

เนื่องจากเวลาประชุมเช้าเช้ามาก ขณะที่เหล่าขุนนางมาขนาดว่าดวงอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นสู่ขอบฟ้าเลย อากาศหนาวเย็น มีคนจำนวนมากหนาวจนสั่นพั่บๆ

กระทั่งดวงตะวันขึ้นสู่ขอบฟ้าและสาดส่องมาที่ตัวพวกเขาแล้ว เมื่อนั้นจึงรู้สึกอบอุ่นและกลับมามีชีวิตชีวา

อ๋องเซ่อเจิ้งเรียกพวกเขามารวมตัวเพราะเหตุใดกันแน่? เรียกมาแล้วแต่กลับไม่ให้เข้าวังอีก นี่มันอย่างไรกันแน่?

เหล่าขุนนางต่างสงสัย

เริ่มวิพากษ์วิจารณ์

ยามนี้เอง ประชาชนที่เดินมาด้วยกันทีละสองทีละสามก็ได้ยินข่าวด้วย ดังนั้นจึงเดินไปอยู่ปากประตูวังหลวง แล้วสอดส่องอย่างระวัง

อาจเป็นเพราะเริ่มอุ่นใจขึ้นแล้ว และอาจเพราะหลังจากข่าวเรื่องประตูวังหลวงแพร่ออกไป จึงทำให้มีประชาชนมาห้อมล้อมอยู่จุดนี้ไม่ขาดสายอย่างรวดเร็ว

ไม่นานก็มีผู้คนมามุงกันมาก

หากมองจากข้างบน ที่แน่นขนัดนั้นล้วนเป็นคน

ด้านหน้าคือขุนนาง ด้านหลังคือมวลชน

ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ๋องเซ่อเจิ้งและอ๋องอวี้ว่าคิดจะทำอะไรกันแน่

ยามนี้ อ๋องเซ่อเจิ้งฉีเทียนเห้าที่กำลังถูกผู้คนพูดถึงกลับเพิ่งตื่นนอน

ทำไมน่ะหรือ?

ก็เพราะซ่งฉงปิงที่เหนื่อยล้ามาทั้งคืนเพิ่งจะตื่นไง

เรื่องใหญ่บ้านเมืองอะไรก็ต้องรอให้ซ่งฉงปิงตื่นแล้วค่อยว่ากัน

ฟ้าสำคัญ ดินสำคัญ ก็ไม่สำคัญสู้การพักผ่อนของปิงเอ๋อร์

เมื่อซ่งฉงปิงลืมตาขึ้นก็เห็นฉีเทียนเห้ายังอยู่บนเตียง ดังนั้นจึงอดประหลาดใจไม่ได้

“วันนี้เจ้ามีธุระไปจัดการไม่ใช่หรือ?”

แล้วนี่ ทำไมถึงยังอยู่บนเตียง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง