แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 691

ขณะที่ซ่งหลิงหลางฟื้นขึ้นมา นางก็อยู่ที่จุดพักม้าแล้ว

สิ่งอำนวยความสะดวกในจุดพักม้าซอมซ่อมาก นี่ทำให้ซ่งหลิงหลางที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

และเมื่อเงยหน้าขึ้น ซ่งหลิงหลางก็สบสายตากับชุ่ยอวี้

เห็นท่าทางนิ่งเฉยของชุ่ยอวี้แล้ว ซ่งหลิงหลางก็เดือดดาลอย่างไม่มีสาเหตุ

อย่างไม่คิดสักนิด ซ่งหลิงหลางยื่นมือออกไปจะตบชุ่ยอวี้

ทว่าชุ่ยอวี้กลับหลบ

นังชั้นต่ำ กล้าหลบหรือ!

ซ่งหลิงหลางอยากด่า เพราะปกติชุ่ยอวี้จะไม่กล้าหลบ

แต่ขณะที่นางเตรียมจะอ้าปาก จู่ๆ นางก็รู้สึกถึงความผิดปกติ

ทันใดนั้นสีหน้าซ่งหลิงหลางก็ตื่นตระหนก

ลิ้นของนางล่ะ?

ซ่งหลิงหลางมองชุ่ยอวี้ ชุ่ยอวี้เหลือบนางแวบหนึ่ง ใบหน้าเรียบสงบ “จวิ้นจู่ต้องการถามว่าลิ้นของท่านไปที่ใดแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

ซ่งหลิงหลางพยักหน้า

สมองซ่งหลิงหลางในตอนนี้แทบอยู่ในภาวะขาวโพลน ดังนั้นจึงไม่ได้สังเกตท่าทีของอีกฝ่าย นางแค่อยากรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่มีลิ้น

นี่คือความฝัน

ใช่ ต้องเป็นความฝันแน่ มิเช่นนั้นนางจะไม่มีลิ้นได้อย่างไร?

“จวิ้นจู่ ท่านลืมเรื่องที่ให้ตายท่านก็จะรักษาสินทรัพย์เจ้าสาวไม่ยอมก้มหัว สุดท้ายจึงถูกพวกหัวขโมยท้องถิ่นตัดลิ้นไปแล้วหรือเจ้าคะ?”

คำพูดของชุ่ยอวี้ราวกับเป็นปุ่มเปิดปิด

ทันใดนั้นซ่งหลิงหลางพลันนึกทุกอย่างขึ้นได้

ขบวนแต่งงานของนางถูกดักปล้น พวกเขาต้องการชิงสินทรัพย์เจ้าสาวของนาง

ล้อเล่นน่า ถ้าของพวกนั้นถูกปล้นไป แล้วนางจะอยู่อย่างไร จะกลับแคว้นอย่างไร

จากนั้นคนพวกนั้นที่จับนางก็บอกว่าจะเอานางไปเป็นฮูหยินหัวหน้าโจร

เป็นถึงจวิ้นจู่ นางรู้สึกว่าตัวเองถูกลบหลู่จึงโพล่งปากด่าทอออกไป

จากนั้นนางก็ถูกคนเหล่านั้นกระชากผม แถมยังตบหน้าอีกทีด้วย

“นังหน้าเหม็น ในเมื่อชอบด่าคนนัก ก็ตัดลิ้นนางเสียเลยเถอะ”

ตอนที่นางได้ยินถ้อยคำนี้ หัวใจนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

แต่นางยังไม่ทันได้วิงวอนก็รู้สึกว่าเจ็บแปลบที่ลิ้นมาทันที

เมื่อเห็นลิ้นลอยออกมา ปากก็มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว

จากนั้นนางก็ไม่รู้อะไรแล้ว

ข้อเท็จจริงนี้ทำให้ซ่งหลิงหลางหวิดจะสลบไปอีกครั้ง

แต่คำพูดถัดมาของชุ่ยอวี้ทำให้ซ่งหลิงหลางที่ใกล้จะสลบกลับสลบไม่ลง

“จวิ้นจู่คงยังไม่ทราบกระมังเจ้าคะ ว่าในเวลานี้เปลี่ยนองค์ฮ่องเต้แล้ว”

เปลี่ยนฮ่องเต้แล้ว?

ใคร?

ซ่งหลิงหลางจ้องชุ่ยอวี้เขม็ง

ที่จริงมีคนหนึ่งที่นางคิดอยู่ในใจอยู่แล้ว

แน่นอน คนที่นางคิดก็คือฉีเทียนเห้า

เพราะเขาแข็งแกร่งมาก

ทว่าคนที่ชุ่ยอวี้เอ่ยออกมากลับทำให้ซ่งหลิงหลางตะลึงงัน

“ฮ่องเต้ในเวลานี้ ก็คือท่านอ๋องอวี้ในอดีตเจ้าค่ะ”

อ๋องอวี้...ฮ่องเต้? เสด็จพ่อของนาง?

หลังจากซ่งหลิงหลางตะลึงงัน แต่แพล็บเดียวก็ดีใจ

เสด็จพ่อเป็นฮ่องเต้ เช่นนั้นนางก็จะรอด ไม่ต้องไปแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?

ซ่งหลิงหลางมองแวดล้อมโดยรอบ คิดว่านี่คงไม่ใช่อยู่ระหว่างทางกลับแล้วกระมัง?

ชุ่ยอวี้คล้ายมองความคิดของซ่งหลิงหลางออก เพราะนางคือคนที่อยู่ข้างกายซ่งหลิงหลางนานที่สุด “จวิ้นจู่อย่าได้ละเมอเพ้อพกไปแล้วเจ้าค่ะ ก็ฝ่าบาทนั่นแหละที่มีโองการให้จวิ้นจู่ไปอภิเษก ด้วยฐานะของท่านสามารถไปอภิเศษได้ก็นับว่าไม่เลวแล้วนะเจ้าคะ”

ซ่งหลิงหลางอึ้ง

เสด็จพ่อ ให้นางไปแต่งงาน?

ทำไม?

ซ่งหลิงหลางส่ายหน้า

ไม่ นางไม่เชื่อ จะพูดอย่างไรนางก็ไม่เชื่อ

ที่พอควรค่าแก่การพูดถึงคือ ระยะนี้สุขภาพของจีเหวินจุนแข็งแรงแล้ว

โดยบอกกล่าวกับภายนอกว่าซ่งฉงปิงรักษาหาย

ฮ่องเต้หย่งคังพระราชทางมงคลสมรสให้จีเหวินจุนกับเว่ยเจ๋อฉี โดยจะจัดในอีกสามเดือนข้างหน้า

ส่วนแคว้นซีหรง หลังจากยุติสงครามแล้วตระกูลเว่ยก็ได้รับข่าว เว่ยเจ๋ออิงจะกลับมาแล้ว

คนของตระกูลเว่ยไม่ได้พบเว่ยเจ๋ออิงนานแล้ว ย่อมปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากซ่งฉงปิงทราบข่าวก็ไปที่ตระกูลเว่ย

เมื่ออยู่ที่ตระกูลเว่ย ซ่งฉงปิงมักรู้สึกได้ถึงภาวะพี่น้องสมานฉันท์ ครอบครัวปรองดองเสมอ

เพียงแต่เมื่อออกมาจากตระกูลเว่ย ก็ได้พบกับข้ารับใช้คุ้นเคยที่รีบร้อนมา

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเขา ซ่งฉงปิงก็ทราบโดยทันทีว่าเกิดเรื่องแล้ว

และก็เกิดเรื่องอย่างที่นางคิดจริงๆ

แต่คราวนี้ที่เกิดเรื่อง คือหอปิงอวี้

ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ เหล่าทายาทชนชั้นสูงจากที่ต่างๆ จึงต้องมาคารวะที่เมืองหลวงเป็นธรรมดา

อู่หมิงโหวหลัวหงแห่งซีหนานพาซื่อจื่อหลัวเจิ้งหยางเข้าเมืองหลวง

อู่หมิงโหวเรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางแถบซีหนาน มีอำนาจล้นหลาม เทียบได้ว่าเป็นเจ้าถิ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าโอรสสวรรค์ก็ยังขาดไปอีกหน่อย

เพียงแต่เป็นผู้ทรงอิทธิพลมานาน ดังนั้นจึงยากจะหลีกเลี่ยงมีความโอหังมากกว่าคนอื่นหน่อยหนึ่ง

โดยเฉพาะซื่อจื่อหลัวเจิ้งหยาง

ครั้นหลัวเจิ้งหยางมาถึงเมืองหลวง เรื่องแรกที่ทำก็คือออกล่าสาวงาม

เป็นที่ทราบกันว่าหลัวเจิ้งหยางต้องการตกแต่งสาวงามในเมืองหลวงเป็นภรรยาสักคน แล้วพากลับไปเป็นฮูหยินที่จวนโหวของเขา คุณหนูตระกูลใหญ่จำนวนหนึ่งให้ความสำคัญกับอิทธิพลของจวนอู่หมิงโหว ดังนั้นจึงให้ความสนใจหลัวเจิ้งหยางด้วย

ในยามที่อยู่ต่อหน้าบุตรสาวคหบดีเหล่านั้น หลัวเจิ้งหยางย่อมเหิมเกริมเกินไปไม่ได้ ต้องทำตัวชนิดว่าอยู่ในกรอบ

หลัวเจิ้งหยางคิดว่าตนเองเป็นคนที่รู้จักอะไรควรอะไรไม่ควร

เพียงแต่วันนี้ หลัวเจิ้งหยางกำลังพาคุณหนูตระกูลขุนนางระดับสองที่เขาชอบพอคนหนึ่งไปเที่ยวเตร่ที่หอปิงอวี้

คงเพราะเห็นการค้าของหอปิงอวี้เจริญรุ่งเรือง หลัวเจิ้งหยางจึงสืบความนิดหน่อย ทราบว่าหอปิงอวี้ไม่มีคนใหญ่คนโตอยู่เบื้องหลังจึงคิดจะซื้อไว้ กระทั่งทำโตจะให้จางซิ่งฮวาเป็นอนุภรรยาของเขาอีก

เมื่อซ่งฉงปิงทราบข่าวก็มีความอึมครึมอยู่บนใบหน้าทันที

“พาข้าไปหอปิงอวี้” นางอยากจะดูสิ ว่าหลัวเจิ้งหยางจะซื้อหอปิงอวี้ของนางอย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง