แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 698

เสียงจามของซ่งเฮงย่อมเป็นที่สนใจของคนในท้องพระโรง

ซ่งหยุนดามองออกไปทางด้านนอก แล้วเอ่ยด้วยเสียงทรงอำนาจ “ใครอยู่ข้างนอก?”

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันเองพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเฮงฮึดฮัดเดินเข้ามาจากปากประตู

แต่หลังจากเดินได้สองก้าว ซ่งเฮงก็ยืดเอวตั้งตัวตรง ทำหน้าเคร่งขรึม

อยู่ต่อหน้าคนอื่น เขาต้องมีลักษณะอย่างไท่จื่อ แบบนี้จึงจะสามารถให้หน้าพี่สาวได้

ซ่งหยุนดามองท่าทางนั้นของบุตรชาย จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกปลื้มบางส่วน

แม้บุตรชายจะเป็นเจ้าหนี้ แต่หากเทียบกับหลัวเจิ้งหยาง บุตรชายของตนยังพอจะถูไถไปได้

ซ่งหยุนดาไม่ทราบเลย ว่าจิตใจของเขาลำเอียงมากขึ้นทุกทีแล้ว

ซ่งเฮงเดินมาอยู่ตรงหน้าหลัวหงและหลัวเจิ้งหยางที่กำลังคุกเข่า

ถึงซ่งเฮงที่ยืนอยู่จะสูงไม่ต่างจากทั้งสองที่คุกเข่าอยู่สักเท่าไร แต่ซ่งเฮงเอามือไพล่หลัง มองพ่อลูกตระกูลหลัวด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็ ‘ฮึ’ แรงๆ ทีหนึ่งก่อนจะหันไปคารวะเสด็จพ่อของตน “ถวายบังคมเสด็จพ่อ”

ซ่งหยุนดาพยักหน้า มองหลัวหง “อู่หมิงโหวคิดได้แล้วหรือยัง? จะเลือกรูปแบบไหนดี?”

หลัวหง “กระหม่อม ชดใช้เงินพ่ะย่ะค่ะ”

อยู่ในเมืองหลวง จำต้องยอมก้มหัว

เขาไม่มีทางเลือก

แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่หลัวหงจะพกทรัพย์สินอยู่กับตัวมากมาย แต่ในฐานะที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งแดนหนึ่ง จึงย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ได้ตระเตรียมอะไรเลยเช่นกัน

เพราะหากเจอเรื่องที่ต้องใช้เงินล่ะ?

แต่ก็เพราะสองพ่อลูกมีความคิดที่ว่า ‘ปัญหาที่ใช้เงินแก้ไขได้ล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่’ นี่เอง จึงไม่มีทางที่หลัวหงจะให้ตัวเอง ‘ขาดเงินใช้’

สุดท้ายหลัวหงจึงแสดงออกว่าจะไปเอาเงิน และซ่งหยุนดาก็อนุญาต

แต่หลัวเจิ้งหยางจะถูกกุมตัวอยู่ในวัง

ซ่งหยุนดาไม่กังวลสักนิดว่าหลัวหงจะไปเอาเงินแล้วหลบหนีไปหรือไม่

ซ่งหยุนดาเหล่มองฉีเทียนเห้าแวบหนึ่ง จากนั้นก็นั่งพิงอยู่บนเก้าอี้มังกรอย่างผ่อนคลายประมาณหนึ่ง

ถึงอย่างไรก็มีเจ้าเด็กฉีเทียนเห้าคนนี้อยู่ เขาย่อมไม่ยอมปล่อยให้คนที่รังแกบุตรีตัวเองสุขสบาย

อีกอย่าง ถึงไอ้แก่หลัวหงจะหนีไปก็ไม่เป็นไร เพราะตัวการยังอยู่

เว้นแต่ไอ้แก่หลัวหงไม่ต้องการบุตรชายหลัวเจิ้งหยางและกล้ากบฏกับเขาโดยตรง

ความจริงหลังจากหลัวหงออกจากวัง ก็คิดจะสละหลัวเจิ้งหยางบุตรชายคนนี้จริงๆ จากนั้นก็หาทางออกจากเมืองหลวงไปเสีย

แต่สุดท้ายยังกัดฟันแล้วหยิบตราประทับไปร้านแลกเงิน

เมื่อเห็นตั๋วเงินปึกใหญ่ หัวใจของหลัวหงก็เลือดซิบ ดวงตามีความชั่วร้ายบางส่วน

ช้าเร็วต้องมีสักวัน เขาต้องหาเงินเหล่านี้กลับมาชดเชยนี่ให้ได้

ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดให้เขาเสียเปรียบ

หลัวหงคิด จากนั้นก็พรูอารมณ์โกรธทีหนึ่งก่อนจะขึ้นรถม้าเข้าวังหลวง

ซ่งฉงปิงรับตั๋วเงินที่หลัวหงยื่นมา ทั้งยังจงใจนับต่อหน้าเขาอีก

หลัวหงโมโหจนอยากปลิ้นตา แต่ก็ได้แต่กำหมัดอดทนอดกลั้น

จะนับก็นับเถอะ

รอนับเสร็จแล้ว ตรวจสอบตัวเลขแล้ว เขาก็จะพาเจ้าลูกผู้เหลวแหลกของเขากลับไป

เมื่อนับเสร็จ ซ่งฉงปิงก็พยักหน้า “โหวเย๋ผู้นี้จริงใจนัก จำนวนถูกต้อง”

หลัวหง “ขอบพระทัยที่ทรงชม”

ปากก็พูดอย่างเคารพนอบน้อม แต่ใจจะคิดอย่างไรนั้นหามีใครทราบไม่

แต่ซ่งฉงปิงไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้

ใครใช้ให้ตอนนี้นางเปรมปรีดิ์สุขอุราเล่า?

เพราะอีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กน้อย ดังนั้นหลัวหงจึงไม่เห็นอยู่ในสายตา น้ำเสียงขาดความเคารพหลายส่วน

แต่สำหรับซ่งเฮง คนที่อยู่ตรงหน้าจะเคารพเขาหรือไม่ยังเป็นเรื่องรอง จุดประสงค์หลักในคราวนี้คือต้องช่วยพี่สาวเรียกร้องความเป็นธรรมให้จงได้

ดังนั้นซ่งเฮงจึงไม่เปลืองเวลากับเรื่องท่าทีของอีกฝ่าย แค่ฮึเย็นทีหนึ่ง “ข้าหมายความว่าอย่างไรไม่สำคัญ เจ้าต้องถามว่าลูกชายเจ้าทำอะไรไว้ ต้องถามดูว่าพี่เขยข้ารับปากให้พวกเจ้าไปหรือไม่”

อยากรังแกพี่สาวต่อหน้าพี่เขย ช่างไม่รู้จักดูว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถเพียงไหน

เมื่อหลัวหงได้ยินก็หันไปมองบุตรชายตัวเองตามจิตใต้สำนึก

ทีแรกหลัวหงเพียงมองตามจิตใต้สำนึกแวบเดียว แต่เมื่อเห็นท่าทางสายตาหลบหลีกและความหวาดกลัวด้วยชะงักติดหลังของบุตรชายบ้านตนแล้ว สัญลักษณ์ในหัวใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีขึ้นมา

หรือว่าบุตรชายของเขาไม่แค่ทำลายร้านขององค์หญิงใหญ่? แล้วยังก่อเรื่องใหญ่โตอื่นอีก?

ไอ้สารเลวสมควรตาย!

ทำไมไม่บอกเขา!

เดี๋ยวๆ...

เมื่อกี้ไท่จื่อตรัสว่า...อ๋องเซ่อเจิ้ง?

หลัวหงสะดุ้งหนักในใจ

ลางสังหรณ์ร้ายทวีความรุนแรงมากขึ้น

หากอ๋องเซ่อเจิ้งออกหน้า เรื่องราว... หลัวหงไม่กล้าคิด สั่นเทิ้มอย่างห้ามไม่อยู่

ยิ่งคิด หลัวหงก็ยิ่งประหวั่นพรั่นพรึง เขาหันไปมองทางอ๋องเซ่อเจิ้งอย่างช้าๆ

แต่กลับสบกับสายตาเย็นเฉียบของอีกฝ่ายเข้าพอดิบพอดี ถ้าเทียบกับการสบตาเมื่อก่อนหน้า นี่ยังทำให้คนรู้สึกกระวนกระวายหวาดกลัวมากกว่าเดิม

ไม่รอให้สมองของหลัวหงเริ่มคิด ฉีเทียนเห้าก็เอ่ยปากในเวลานี้

“ตอนนี้ ถึงคราวที่ข้าจะคิดบัญชีกับพวกเจ้าแล้ว” เสียงของฉีเทียนเห้าเนิบช้า แต่กลับเผยความเย็นชาลุ่มลึกแบบที่คนไม่อาจละเลยออกมานิดๆ ชวนให้คนไม่กล้าสบตากับเขา

หลัวหงรู้สึกว่าพายุใหญ่กำลังจะมาแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง