รถม้าของซ่งฉงปิงหยุดลงเมื่อมาถึงประตูของหนานเจียง
เนื่องจากเยโม่กษัตริย์แห่งหนานเจียงกำลังพาเหล่าขุนนางมาส่งพวกเขาที่กำลังจะออกเดินทาง
ในฐานะกษัตริย์แห่งหนานเจียง เยโม่จึงมาส่งด้วยตนเอง นี่คือการให้เกียรติต้าชิ่งรวมถึงให้เกียรติซ่งฉงปิงและฉีเทียนเห้า
ทั้งในแง่ของความรู้สึกและเหตุผล ซ่งฉงปิงกับฉีเทียนเห้าจะไม่ลงจากรถม้าก็ไม่ได้
“บอกลากันคราวนี้ ไม่รู้ว่ามีวันได้พบกันอีกหรือไม่” เยโม่มองทั้งสองคนและเอ่ยออกมา
แต่มีแค่เยโม่เท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดนี้คือคำพูดที่เขากล่าวกับซ่งฉงปิง
ฉีเทียนเห้ามองออก แต่เขาไม่คิดจะพูดอะไรในโอกาสเช่นนี้
ถึงอย่างไรเยโม่ก็ทำได้แค่รักนางข้างเดียว
ปิงเอ๋อร์มีแค่เขาอยู่ในสายตา
ซ่งฉงปิงไม่รู้ว่าฉีเทียนเห้ากำลังคิดอะไรอยู่ และยิ่งฟังน้ำเสียงของเยโม่ไม่ออก นางเพียงแค่ยิ้มและเอ่ยว่า “อาจมีวาสนาที่ทำให้ได้พบกันอีก”
คำพูดนี้ไม่ว่าใครก็ฟังออกว่าเป็นคำพูดตามมารยาท
มีร่องรอยของความเศร้าในแววตาของเยโม่
แต่เยโม่ก็ไม่พูดอะไรและปรบมือขึ้นมา
ทันใดนั้นประชาชนบางส่วนก็ขยับเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงคุกเข่าหันมาทางซ่งฉงปิง
ซ่งฉงปิงเห็นแล้วทำสีหน้าอย่างอธิบายไม่ถูก
นางเงยหน้ามองเยโม่ “นี่มันเรื่องอะไรกันหรือ”
“คนเหล่านี้ล้วนอยากจะขอบคุณท่านด้วยตัวเอง” ว่าแล้วเยโม่จึงอธิบายว่า “พวกเขาทุกคนล้วนมีฝาแฝดในครอบครัว”
ฝาแฝดในหมู่ประชาชนไม่ได้มีเจตนาจะเข่นฆ่า แต่พวกเขาถูกเหยียดหยาม
ชนเผ่าอูเป็นพวกที่ดุร้ายและตายมากที่สุด
คนพวกนี้ เยโม่ก็ชำระสะสางไปแล้ว ไม่มีอะไรด้านในที่ยังเป็นมลทิน
และในบรรดาคนเหล่านี้ก็มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่เพิ่งจะคลอดลูกแฝด
ผู้หญิงเหล่านี้หน้าซีดขาวและเห็นได้ชัดว่ายังไม่ผ่อนคลายลง
แต่ถึงกระนั้นพวกนางก็ยังอุ้มลูก คุกเข่าและโค้งคำนับให้ซ่งฉงปิง
เพราะสำหรับพวกนาง ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งฉงปิง ลูกของพวกนางจึงจะถูกฆ่าตายไปแล้ว หากเป็นแบบหน้าคนเป็นแม่ที่ไหนจะไปทนรับไหว
ดังนั้นแม้ว่าจะเพิ่งผ่านประสบการณ์ที่เจ็บปวดจากการคลอดบุตร พวกนางก็ยังมาอยู่ตรงหน้าซ่งฉงปิงและคุกเข่าเพื่อขอบคุณนางด้วยตัวเอง
เมื่อได้ยินคำขอบคุณของพวกนาง ซ่งฉงปิงก็เกิดความรู้สึกอันหลากหลายขึ้นมาในใจ
เห็นได้ชัดว่าการให้กำเนิดฝาแฝดควรจะเป็นข่าวดีที่สร้างความสุขให้เป็นเท่าทวี
แต่ผู้คนที่นี่ได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายมาก ด้วยเหตุนี้จึงต้องสูญเสียชีวิตของฝาแฝดที่บริสุทธิ์จำนวนมากไป
เพราะเวลานี้สามารถปกป้องฝาแฝดไว้ได้แล้ว จึงรู้สึกขอบคุณนางเป็นอย่างมากเช่นนี้
แต่ในความเป็นจริงนางเองก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย
เพียงแต่มันเกี่ยวข้องกับนางจริงๆ
ซ่งฉงปิงไม่ได้แก้ต่างใดๆ นางยกแขนเสื้อขึ้นมาและนำขวดกระเบื้องสามขวดออกมา
ณ ที่แห่งนี้มีผู้หญิงสามคนที่เพิ่งคลอดบุตร และพวกนางล้วนคุกเข่าพลางอุ้มลูกฝาแฝดไว้ในอ้อมกอด
ส่วนนางเองก็มีชะตากรรมบางอย่างกับฝาแฝด
ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางยิ่งต้องช่วยพวกนาง
ซ่งฉงปิงยื่นขวดกระเบื้องเคลือบให้สตรีทั้งสามคน “นำน้ำในนี้ให้ลูกของพวกเจ้าดื่ม จะช่วยปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยได้”
ความจริงภายในขวดก็เป็นเพียงน้ำแร่วิญญาณ
เด็กแฝดเหล่านี้ส่วนมากคลอดก่อนกำหนดและมีน้ำหนักตัวน้อย และในยุคนี้ ฝาแฝดแบบนี้ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูอย่างดีนัก
ดังนั้นซ่งฉงปิงจึงมอบน้ำแร่วิญญาณให้พวกเขา ให้พวกเขานำไปใช้บำรุงสุขภาพร่างกาย ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีสุขภาพที่แข็งแรงต่อไป
ว่าแล้วซ่งฉงปิงจึงหยิบออกมาอีกสองขวดแล้วทิ้งไว้ให้เยโม่ “ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้ต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับการต้อนรับของกษัตริย์แห่งหนานเจียง”
เนื่องจากราชสำนักหนานเจียงมีประเพณีการให้กำเนิดฝาแฝด ดังนั้นนางจึงมอบน้ำแร่วิญญาณสองขวดให้เยโม่ใช้ในยามจำเป็นในอนาคต
“ต่อไปถ้าพระชายาของท่านคลอดบุตรไม่ราบรื่นหรือคลอดก่อนกำหนด ท่านสามารถให้พวกเขาดื่มน้ำนี้ได้”
กระดูกซี่โครงหักไปสองซี่ และที่มุมปากก็มีเลือดไหลออกมา
ทว่าสายตาที่มองซ่งฉงปิงกลับยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังคั่งแค้น
แฝงไปกระทั่งความโหดเหี้ยม
“ลั่วเสี่ยวปิง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เฮอะ!” แววตาของลั่วเหอซิ่งเต็มไปด้วยความมืดมนขณะที่พูด
ทั้งที่รู้ว่าชื่อปัจจุบันของลั่วเสี่ยวปิงคือซ่งฉงปิง แต่ลั่วเหอซิ่งก็ยังจงใจเรียกนางว่าลั่วเสี่ยวปิง
ราวกับว่าการเรียกแบบนี้จะทำให้เขามีความสุขขึ้นบ้าง
“ลั่วเสี่ยวปิง เจ้าทำไม่ดีไว้กับข้า ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของข้า ดังนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ในนรกน่ะ ข้าจะรอเจ้า”
หลังจากพูดจบ ลั่วเหอซิ่งก็ใช้ท่อนไม้ไผ่ที่กำไว้ในมือปักลงไปที่หัวใจของตนเองทันที
เลือดสีแดงฉานไหลออกมาอย่างช้าๆ และแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้ายของลั่วเหอซิ่งก็ยังจับจ้องอยู่ที่ซ่งฉงปิงอยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งลั่วเหอซิ่งล้มลง
แต่ดูเหมือนแววตาของลั่วเหอซิ่งจะประทับอยู่ในใจของซ่งฉงปิง
ซ่งฉงปิงมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนัก
ไม่ใช่แค่ซ่งฉงปิงเท่านั้น แม้แต่ฉีเทียนเห้าก็รู้สึกแบบเดียวกัน
ตั้งแต่มาที่หนานเจียง หลังจากลั่วอิงปรากฏตัว ฉีเทียนเห้าก็รู้สึกไม่ดีมาตลอด
เวลานี้เมื่อเห็นสายตาของลั่วเหอซิ่ง ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อย
ฉีเทียนเห้าตื่นตระหนก
และทันใดนั้นเอง ซ่งฉงปิงก็หลับตาลงอย่างฉับพลันและล้มลงไปกับพื้น
“ปิงเอ๋อร์!”
ความตื่นตระหนกพุ่งพล่านจนถึงขีดสุด
ดวงตาของฉีเทียนเห้าแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และเขาก็เข้าไปรับซ่งฉงปิงไว้อย่างรวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตาม ซ่งฉงปิงหมดสติไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...