เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่ในห้องหรี่ดวงเนตรงามลงเล็กน้อย
วันนี้ไม่ว่าผลตรวจร่างกายเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเฟิ่งทั้งสิ้น
หวงกุ้ยเฟยจะต้องตัดสินว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งไม่บริสุทธิ์เป็นแน่ จากนั้นก็ใช้เหตุนี้สร้างเรื่องตามมา
ถ้าคนที่มาสวมรอยแทนอย่างนางถูกตรวจร่างกายได้ผลว่ายังบริสุทธิ์ ถึงจะสามารถป้องกันแผนร้ายของหวงกุ้ยเฟย แต่ก็คงจะทำให้หวงกุ้ยเฟยนึกสงสัยขึ้นมา
ทันทีที่เรื่องสวมรอยแต่งงานมีพิรุธปรากฏ ถึงยามนั้นโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงก็เพียงพอให้ตระกูลเฟิ่งประสบหายนะได้แล้ว!
สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปข้างหน้า ใช้มือที่จับทวนมาจนชินนั้นแต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของตนเองอย่างหนักแน่น
สิ่งที่อาจารย์สั่งสอนนางมีเพียงหลักพิชัยสงครามและหลักการเป็นขุนนาง
อาจารย์หญิงเคยสอนหลักการครองเรือนให้นาง ในนั้นย่อมมีธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงด้วยเช่นกัน ยามนั้นแม้นางได้เรียนรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้งาน
เพราะปณิธานของนางอยู่ที่ใต้หล้า ไม่ต้องการถูกคุมขังไว้ในเรือน เป็นเพียงภรรยาตัวน้อยที่โอนอ่อนผ่อนตามสามี
คิดไม่ถึงว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต
นอกห้อง
ขันทีผู้นั้นเดินนำนางกำนัลจากในวังหลวงตรงมาอย่างดุดัน
“ฮูหยิน นี่คือบัญชาของหวงกุ้ยเฟย ท่านยังกล้าฝ่าฝืน?”
เฟิ่งฮูหยินขวางอยู่หน้าห้องบุตรสาว ไม่ยอมถอยแม้ก้าวเดียว
“ต่อให้เป็นหวงกุ้ยเฟยก็ไม่อาจกระทำหุนหันเหยียดหยามกันเช่นนี้! คิดว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งของข้าเป็นอะไรกัน!”
ขันทีเลิกคิ้ว ความเยาะหยันฉายชัดในแววตา
ตระกูลนี้คิดว่าตัวเองเป็นหงส์จริง ๆ งั้นรึ?
ต่อให้เป็นหงส์จริง ขนร่วงไปหมดแล้ว กระทั่งไก่ยังสู้ไม่ได้
“เฟิ่งฮูหยิน ท่านไม่ชอบไม้อ่อนแต่จะเอาไม้แข็งใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ล่วงเกินแล้ว!” น้ำเสียงขันทีกดต่ำ สีหน้าสะท้อนความเหี้ยมเกรียมหลายส่วน
จากนั้น เขาก็โบกมือทีหนึ่ง บัญชาองครักษ์ด้านหลัง
เฟิ่งฮูหยินมีสีหน้าตะลึงงัน
ที่นี่คือจวนตระกูลเฟิ่งนะ!
พวกเขาจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว!
ครั้นเฟิ่งฮูหยินกำลังจะถูกองครักษ์จากวังหลวงควบคุมตัว น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอก็ดังมาจากภายในห้องโดยมีประตูคั่นกลาง
“ตระกูลเฟิ่งของข้าเคยมีฮองเฮาทั้งสิ้นสิบสามคน ทุกคนล้วนมีชื่อเสียงดีงาม
“วันนี้มีคนกังขาในความบริสุทธิ์ของข้า คิดว่าข้าคงมีสิ่งใดน่าแคลงใจ มิฉะนั้นไยจึงมีคนสงสัยในตัวข้ากันเล่า?
“ในเมื่อเป็นความผิดของข้าเพียงผู้เดียว ข้าไม่อยากเห็นตระกูลเฟิ่งต้องได้รับความไม่เป็นธรรมเพราะเรื่องนี้ จึงได้แต่ใช้ความตายมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์
“รบกวนท่านแม่หาแพรขาวสามฉื่อ[1]มาให้ข้า รอหลังข้าตายไปแล้ว โปรดยกศพของข้าให้พวกเขาตรวจสอบ ยามนั้นย่อมจะทราบเองว่าลูกเป็นผู้บริสุทธิ์
“เช่นนี้ จะได้ไม่กระทบต่อชื่อเสียงตระกูลเฟิ่ง!”
เฟิ่งฮูหยินหน้าซีดเผือด “ไม่ได้เด็ดขาดนะ!”
ขันทีที่เมื่อครู่นี้ยังจองหองพองขน ชั่วขณะนี้กลับลังเลขึ้นมาเสียแล้ว จากนั้นก็โบกมือส่งสัญญาณให้องครักษ์หยุดอยู่กับที่
เขาเดินหน้ามาหลายก้าว กล่าวกับคนในห้องด้วยท่าทีอ่อนน้อมจอมปลอม
“คุณหนูใหญ่เฟิ่ง เรื่องหาได้ร้ายแรงถึงขั้นนั้นไม่
“หากท่านบริสุทธิ์จริงก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวการตรวจสอบ
“นางกำนัลสองท่านนี้เป็นผู้มากประสบการณ์ จะต้องปรนนิบัติเป็นอย่างดีแน่นอน”
จากคำกล่าวของเขา หากเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ให้ความร่วมมือก็เท่ากับว่าร้อนตัว
ขณะที่เขานึกว่าตัวเองจัดการคนในห้องได้อยู่หมัดแล้วนั่นเอง ก็ได้ยินเสียงถามมาอีกว่า
“กงกง ตกลงแล้วเป็นหวงกุ้ยเฟยที่สงสัยข้า หรือว่าฝ่าบาทที่ทรงสงสัยกันแน่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย