แพทย์หลวงทุกคนต่างตกตะลึง
เป็นไปได้อย่างไร? ไท่ซ่างหวงยังเสวยพระกระยาหารลงได้อย่างนั้นหรือ? ภาวะหัวใจล้มเหลวนี้รุนแรงมาก ถึงเวลาที่น้ำมันจะหมด ตะเกียงก็จะดับไป เกรงว่าแม้แต่จะดื่มน้ำสักอึกก็ยังดื่มไม่ได้
แพทย์หลวงรีบเข้าไปวินิจฉัยอาการของไท่ซ่างหวง ขณะตรวจชีพจรเขาร้องไห้ และกล่าวว่า "ขอพระเจ้าอวยพรแก่พระองค์ ขอพระเจ้าอวยพรแก่ไท่ซ่างหวง!"
ชีพจรมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจริง ๆ
ผ้าม่านสีทองถูกม้วนขึ้นและม่านสีฟ้าค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ไท่ซ่างหวงดูเหนื่อยล้า พระองค์กวาดสายตาทอดพระเนตรมองยังภายในโถงตำหนักครู่หนึ่ง ตรัสด้วยเสียงอันแหบพร่าว่า “จะคุกเข่ากันทำไม ลุกขึ้นเถอะ!”
เสียงนั้นเบาเหมือนเสียงใบไม้ค่อย ๆ ร่วง แต่กลับเหมือนจะดังสนั่นในหูของทุกคน
ทุกคนมองด้วยความปิติยินดี และยืนขึ้นพร้อมโค้งคำนับ
ไท่ซ่างหวงถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก ริมฝีปาเขียวค่อย ๆ จางลง และหลังจากเหลือบมอง เขาก็พูดออกมาดัง ๆ "เจ้าห้าอยู่ที่ไหน?"
ฉางกงกงรีบทูลกลับไปว่า "ท่านอ๋องฉู่ทรงเป็นกังวลในพระอาการของฝ่าบาท จึงเป็นลมหมดสติไป เพลานี้ถูกพาไปพักผ่อนยังตำหนักข้าง ๆ พ่ะย่ะค่ะ"
“ไปพาเขามาที่นี่” ไท่ซ่างหวงลูบหัวฟูเป่าและยิ้มจาง ๆ พูดว่า “ไปเถอะเด็กดี ข้าไม่ไปไหนแล้ว”
ฟูเป่ากระโดดลงมา และเดินออกไปพร้อมกับกระดิกหางของมันอย่างดีใจ
“รีบไปเรียกท่านอ๋องฉู่ให้มาเข้าเฝ้า!” ฉางกงกงรับสั่ง
“ลูกสะใภ้ของข้า…” ไท่ซ่างหวงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และซักพักเขาก็อ่อนแอลง เขาพูดเพียงไม่กี่คำ “ตามพวกเขามาด้วยกัน”
ทุกคนประหลาดใจ
โดยเฉพาะ ฉู่ หมิงชุ่ยที่ตกใจอยู่พักหนึ่ง ไท่ซ่างหวงต้องการพบ หยวน ชิงหลิงงั้นหรือ?
เนื่องจากไท่ซ่างหวงอาการดีขึ้น จักรพรรดิหมิงหยวน จึงบอกให้ทุกคนออกไป
ดหล่าข้าราชบริพารทั้งหลาวต่างทยอยกันออกไปพักผ่อนที่นอกตำหนักกันจนหมด เหลือเพียงท่านอ๋องรุ่ยชิงและฉางกงกงที่คอยรับใช้อยู่ข้างพระวรกาย และแน่นอนว่ายังคงมีหมอหลวงผู้วินิจฉัยพระอาการอยู่ในพระตำหนักด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้หล้าสยบรัก