ผลที่ตามาคือฉู่หมิงชุ่ยเห็นว่าใบหน้าของไท่ซ่างหวงเริ่มหนักอึ้ง
ฉู่หมิงชุ่ยวางใจแล้ว แม้ว่าไท่ซ่างหวงจะตามใจอ๋องฉู่ แต่ก็เพราะตามใจเช่นนี้จึงให้หยวนชิงหลิงอยู่ดูแลในวัง แต่น่าเสียดาย หยวนชิงหลิงเป็นคนโง่ที่คิดว่าตัวนางถูกเสมอ ช่างราคาคุยเสียจริง
หมอหลวงเห็นว่าสีหน้าของไท่ซ่างหวงเริ่มไม่ดี จึงรีบนำยาออกไป
แต่ไท่ซ่างหวงกลับพูดด้วยความโกรธว่า “ยังไม่รีบเอายามาอีก? ไม่ได้ยินที่พระชายาฉู่พูดว่าต้องกินยาหรือไง?”
ทุกคนต่างตกใจ ค่อย ๆ มองมาที่หยวนชิงหลิงทีละคนสองคน
โดยเฉพาะฉู่หมิงชุ่ยสีหน้าเปลี่ยนทันที แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง
หยวนชิงหลิงก้มหน้า เธอไม่ได้อยากจะเปิดปากพูดประโยคนั้นออกไปจริง ๆ แต่ว่า
หากไท่ซ่างหวงไม่กินยา แต่กลับดีขึ้นนี่จะทำให้คนสงสัย
จักรพรรดิหมิงหยวนมีสีหน้าดีใจ “ยังไม่รีบยกกลับมาอีก?”
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ จนในที่สุดจักรพรรดิหมิงหยวนก็มองตรงมาที่หยวนชิงหลิง อีกทั้งยังตามมาด้วยสายตาที่ชื่นชม
ไท่ซ่างหวงกินยาจนหมดในทีเดียว แต่ดูพระองค์คงจะกลัวรสขมจริง ๆ หลังจากกินยาจนหมด ใบหน้าก็มากองอยู่รวมกัน ไทเฮารีบนำบ๊วยหวานส่งให้ สีหน้าจึงกลับมาดีขึ้น
อวี่เหวินห่าวมองหยวนชิงหลิงด้วยนัยน์ตาสับสน เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้พระองค์เบาใจลงเลย มีแต่จะเพิ่มความกังวลใจมากขึ้นไปอีก ท่านปู่ฟังที่นางพูดจริง ๆ เป็นไปได้ไหมว่า อุบายที่นางวางไว้สำเร็จแล้ว?
ไท่ซ่างหวงกินยาแล้ว ไทเฮาก็ดีใจจึงเรียก หยวน ชิงหลิงมาหา พูดชื่นชมสองสามคำ แม้แต่ท่านอ๋องลุ่ยที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมาตลอด ยังต้องชื่นชม หยวน ชิงหลิง
ฮองเฮาถึงแม้จะกำลังยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มกลับดูเคร่งเครียด ดูแล้วสิ่งที่หมิงชุ่ยกังวลไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลซะทีเดียว
จักรพรรดิหมิงหยวนวางเรื่องของการเมืองลงก่อน เพื่อมาดูแลโดยเฉพาะ แม้ว่าไท่ซ่างหวงจะดีขึ้นแล้ว แต่ยังไงพระองค์ก็ยังไม่วางใจ อันที่จริงเมื่อวานหมอหลวงทั้งหมดก็ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชีวิตไท่ซ่างหวงอ่อนแรงจนใกล้ที่จะดับสูญแล้ว
แต่ว่าไท่ซ่างหวงชัดเจนว่าไม่ต้องการการดูแลจากพวกเขา สั่งให้จักรพรรดิหมิงหยวนและท่านอ๋องลุ่ยกลับไปทั้งหมด
จักรพรรดิหมิงหยวนก่อนจะไปครั้งนี้ บอกกับหยวนชิงหลิงว่า “ถือโอกาสตอนกลางวันที่คนเยอะ เจ้าไปนอนเสียหน่อย”
“เพคะ!” หยวนชิงหลิงถวายบังคม
เธอเดินออกนอกห้องโถง จะเตรียมตัวนอนสักหน่อย ฉางกงกงก็เดินมาบอกว่าได้จัดเตรียมให้เธอได้ไปพักที่ห้องพักฝั่งตะวันตก และยังให้นางในถือชุดที่จะเปลี่ยนไปให้ รวมถึงยาที่ใช้ทาแผลด้วย พร้อมกับเตรียมน้ำอุ่นให้
หยวนชิงหลิงประหลาดใจเล็กน้อย
ฉางกงกงพูดเรียบ ๆ “เป็นรับสั่งของไท่ซ่างหวง เดี๋ยวนางข้าหลวงสี่จะมาทายาให้พระองค์ นางข้าหลวงสี่ดูแลไท่ซ่างหวงมาหลายปี พระชายาวางใจได้"
ถึงแม้ท่าทีของฉางกงกงจะดูไม่สนใจ แต่หยวนชิงหลิงกลับมีความรู้สึกอยากจะหลั่งน้ำตา
เมื่อมาถึงตำหนักอุ่นไม่นาน นางในก็นำน้ำอุ่นเข้ามา ตามมาด้วยนางข้าหลวงที่สวมชุดสีเทา อายุราว ๆ ห้าสิบปี เกล้าผมมวยสูง หางคิ้วและมุมปากหย่อนคล้อย ดูน่าเกรงขามมาก
“นางข้าหลวงสี่!” หยวนชิงหลิงคำนับ คนข้างกายไท่ซ่างหวงจนเกือบจะกลายป็นเจ้านายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“พวกเจ้าออกไปเถอะ!” นางข้าหลวงสี่บอกกับนางในที่อยู่ข้าง ๆ
“เพคะ!” นางในถอนสายบัวแล้วออกไป
นางข้าหลวงสี่ ไม่ได้ค้านอะไร ก็พูดกับหยวนชิงหลิงว่า “หม่อมฉันช่วยพระองค์ถอดเสื้อเพคะ”
นางพูดพลางเอาขวดยาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้ววางไว้บนแคร่
คนป่วยไม่มีเกียรติ หยวน ชิงหลิงอนุญาตให้นางถอดเสื้อ จากนั้นฟุบลงบนเตียง
เธอได้ยินเสียงนางข้าหลวงสี่ หายใจเข้าอย่างเยือกเย็น
ได้ยินเสียงกรรไกร นางข้าหลวงสี่ กำลังตัดผ้าพันแผลที่ผูกอยู่ ความเจ็บปวดแซกซึมเข้ามา เธอทนไม่ไหวจนต้องกำหมัดแน่น
“หากพระชายาทนไม่ไหวก็กัดผ้าห่มไว้นะเพคะ” น้ำเสียงนางข้าหลวงสี่ เต็มไปด้วยความเห็นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้หล้าสยบรัก