ท่าทางที่มนุษย์ป่าพุ่งเข้ามารุนแรงจนทำให้โหลชีตกใจ และที่ทำให้นางตกใจมากกว่าเดิมคือ เขาไม่ได้ดูโง่เขลาไม่มีวัฒนธรรมอย่างที่แสดงออก เขามีไอคิว ที่ทำทีดิ้นรนลุกไม่ขึ้นเมื่อครู่ เป็นวิธีการหนึ่งในการล่อหลอกพวกเขาเท่านั้น!
โหลชีรีบถอยหลังหนี แต่ทันใดนั้นนางรู้สึกถึงมีลมปราณพุ่งมาทางนี้ เป้าหมายคือขาของนาง! จากมุมนั้น นอกจากน่าหลานฮั่วซินแล้วไม่มีคนอื่น!
กล้าลอบกัดนางในเวลาแบบนี้--
โหลชีไร้หนทางหนี มนุษย์ป่ากระโดดเข้ามาทางด้านหน้า อ้าปากกว้าง ฟันแหลมคมหมายจะกัดนาง นางได้แต่รีบถอยหนี ก้อนหินที่โจมตีมานั้นโดนขานางพอดี นางเตรียมใจไว้แล้ว กัดฟันทน และไม่ได้ขาอ่อนล้มลงไปทันทีและส่งตัวเองเข้าปากมนุษย์ป่า แต่กลับอดทนต่อความเจ็บปวดและถอยหนีต่อไป
"เฉิงสิบ! ดึง!"
ตามคำสั่งของนาง เฉิงสิบโผเข้าไปคว้าเถาวัลย์ที่รั้งขาขวามนุษย์ป่าไว้มั่นด้วยสองมือ โหลวซิ่นก็เข้ามาช่วย ทั้งคู่ออกแรงดึง และดึงมนุษย์ป่านั่นล้มลงพื้นอย่างแรงอีกครั้ง
โหลชีเดือดจัด มือคว้าพิชิตวัน พุ่งเข้าไปปาดคอหอยมนุษย์ป่านั่นทันที เลือดสดพุ่งกระฉูด
เพราะว่าเป็นกลางดึก อาศัยแสงจันทร์เพียงน้อยนิด น่าหลานฮั่วซินไม่เห็นพิชิตวันในมือโหลชี แต่นางได้กลิ่นบางอย่างแรงมาก
กลิ่นคาวเลือด
โหลวซิ่นจุดกองไฟขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดน่าหลานฮั่วซินก็มองเห็นมนุษย์ป่าที่โดนปาดคอหอยชัดเจน ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เลือดยังคงกระฉูดอยู่ แต่โหลชีกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ปรายตามองมาแผ่วเบา ดวงตานั้นราวกับกำลังพูดว่า เจ้าทำอะไรอย่าคิดว่าข้าไม่รู้
ในใจน่าหลานฮั่วซินตกใจมาก
ฝีมือดีมาก จิตใจเข้มแข็ง เฉลียวฉลาดระมัดระวัง จิตใจมั่นคง นิสัยพิเศษโดดเด่น หน้าตางดงาม เพียงแค่ระยะสั้นที่ได้อยู่ใกล้แค่นี้ โหลชีทำให้นางรู้สึกประหลาดใจและตกใจหลายครั้งนัก สำหรับบุรุษอย่างเฉินซ่าแล้ว สตรีเช่นนี้ถึงจะดึงดูดความสนใจเขาได้ดีนัก นางรู้ดี ดังนั้นอันที่จริงนางก็พยายามจะปรับเปลี่ยนตนจนกลายเป็นคนแบบนี้!
แต่ดูแล้วโหลชีเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เกิด!
นางริษยานัก ริษยาจนแทบบ้า
โหลชีจะต้องตาย!
โหลชีปรายตามองนางหนึ่งที ราวกับรู้ได้ว่าตอนนี้นางคิดอะไรในใจ ก็แค่ต้องการชีวิตนาง แต่ว่า คนที่ต้องการชีวิตนางมีเยอะจะตาย ต่อให้เป็นในยุคปัจจุบันชีวิตนางก็มีราคาสูงนัก เพียงแต่ไม่มีใครกล้ามาเอาไปเท่านั้น
น่าหลานฮั่วซินอยากเอาชีวิตนาง ก็รอดูกันต่อไปละกัน
"แม่นางน่าหลานมิใช่อัจฉริยะวิทยายุทธแห่งเขาเวิ่นเทียนหรืออย่างไร? เหตุใดเมื่อครู่ไม่ช่วยเล่า?" ตอนนี้เฉิงสิบไม่รู้สึกเคารพหรือเลื่อมใสน่าหลานฮั่วซินเท่าไหร่แล้ว ยืนดูแม่นางของพวกเขาโดนลอบทำร้ายข้างๆหมายความว่าอันใดกัน? เห็นได้ชัดว่าไม่หวังดี
"ใครอนุญาตให้เจ้าบังอาจเยี่ยงนี้? เจ้าถือสิทธิ์อันใดมากล่าวโทษข้า?" น่าหลานฮั่วซินมองเฉิงสิบด้วยสายตาเย็นชา พลังภายในลึกล้ำแผ่ซ่านกดดัน ด้วยวิทยายุทธระดับสูง แค่เพียงสายตาก็สามารถสร้างแรงกดดันได้
เฉิงสิบสีหน้าซีดเผือด เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาที่ข้างขมับ
ทันใดนั้นโหลชีเอามือตบไหล่เฉิงสิบ ยิ้มบอกว่า "แม่นางน่าหลานไม่ช่วยทำเรื่องยุ่งข้าก็ขอบคุณสวรรค์แล้ว"
ในตอนที่นางเอามือตบไหล่ เฉิงสิบรู้สึกว่าแรงกดดันมหาศาลนั่นโดนสกัดล่าถอยไป
ในใจเขาตกตะลึงอย่างมาก กำลังภายในของน่าหลานฮั่วซินล้ำลึกเหนือประมาณจริงๆ! ข่าวลือมิผิดเพี้ยน พรสวรรค์การต่อสู้ของนางสูงถึงระดับที่ทำให้คนตกใจจริงๆ
โหลชีทำแค่นี้ก็สกัดกั้นแรงกดดันของนางได้ สีหน้าน่าหลานฮั่วซินไม่สู้ดีนัก กำลังภายในของโหลชีพอกันกับนาง? แต่ถือสิทธิ์อันใดกัน? นางเป็นคนธรรมดาที่ฐานะต่ำต้อยขนาดพ่อแม่เป็นใครก็ยังไม่รู้คนหนึ่ง ส่วนตนได้ใช้ร่ำเรียนทรัพยากรที่ดีที่สุดของเขาเวิ่นเทียนมาตั้งแต่เล็กจึงมีกำลังภายในอย่างวันนี้ได้ จุดเริ่มต้นไม่เหมือนกัน อย่างนี้มิเท่ากับว่าพรสวรรค์ของโหลชีดีกว่านางงั้นรึ?
"เอาล่ะ รีบพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้เรายังต้องออกไปตามหาเถาทองม่วงกันนะ" โหลชีไม่สนใจซากศพมนุษย์ป่านั่นด้านข้าง พลางหาวหวอดๆออกมา
นางนั่งตรงกลางระหว่างเฉิงสิบกับโหลวซิ่น ทั้งสามคนนั่งพิงกันแบ่งปันไออุ่น ไม่สนใจสายตาเหยียดหยามของน่าหลานฮั่วซินสักนิด
คืนนี้ไม่มีอันใดเกิดขึ้นอีก อากาศหนาวจริงๆ ดังนั้นพวกเขาจึงตื่นแต่เช้ามืด เฉิงสิบกับโหลวซิ่นแบ่งหน้าที่กันไปเตรียมต้มน้ำทำอาหารเช้าอีกครั้ง โหลชีรำไทเก๊กอยู่ไม่ไกล
พอรำไทเก๊กเสร็จ ร่างกายอบอุ่นแล้ว จิตประสาทก็ดีมาก
"นั่นวิทยายุทธอะไรของเจ้า?" ไม่รู้น่าหลานฮั่วซินตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทันเห็นกระบวนท่าสองท่าสุดท้ายของนาง ราวกับเต้นรำ ไม่ เต้นรำก็ไม่เชื่องช้าเยี่ยงนี้
โหลชีเลิกคิ้วถาม "วิทยายุทธประเทศจีน แม่นางน่าหลานจะเรียนรึ?"
ล้อเล่นอะไรกัน! ตนจำเป็นต้องเรียนวิทยายุทธกับนางด้วยรึ? อีกอย่าง ท่วงท่าเชื่องช้าจนน่าขันนั่นเรียกเป็นวิทยายุทธได้รึ?
เจ้าเอามันไปสอนผีในนรกเถิด
คำพูดนี้น่าหลานฮั่วซินไม่ได้พูดออกมา หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จนางนำทางพวกเขาเดินไปครึ่งทาง และบอกว่าทางนี้นางเดินมาก่อนแล้ว ดังนั้นไม่มีปัญหาอะไรเลย น่าเสียดาย พอพูดคำนี้ออกมาแม้แต่ทหารองครักษ์สองคนยังไม่มีคำขอบคุณแม้สักนิด มันทำให้ใบหน้าใต้ผ้าปิดหน้าของน่าหลานฮั่วซินดำทะมึนอยู่นานมาก
ลำธารเล็กเบื้องหน้า ทางด้านลำธารนั่นมีหมอกบางกำจาย น่าหลานฮั่วซินหยุดชะงักลง "ข้านำทางพวกเจ้ามาได้แค่นี้ พวกเจ้าไปตามหาเถาทองม่วง และข้าจะต้องเข้ารอบในเพื่อไปหางูยักษ์เย็นสารทฤดู"
"แม่นางน่าหลานไปครั้งนี้ต้องรักษาตัวดีๆนะ"
"เจ้าพูดเยี่ยงนี้หมายความว่ากระไร?" น่าหลานฮั่วซินหรี่ตามองโหลชี
โหลชีกะพริบตาปริบๆดูน่าสงสาร "จะหมายความเยี่ยงใด? ก็ตามตัวหนังสือน่ะสิ รอบในได้ยินว่าอันตรายยิ่งนัก ข้าก็แค่เป็นห่วงเจ้า"
นอกจากเป็นบ้าแล้ว ยังมีอีกอย่าง ปลุกกำหนัด
น่าหลานฮั่วซินต้องการให้นางเสียตัวในภาวะเคลิบเคลิ้ม และอีกฝ่ายที่มีสัมพันธ์ด้วยยังเป็นเฉิงสิบ
ถึงนางจะบอกไม่ใช่ยาพิษ แต่เฉิงสิบกับโหลวซิ่นเห็นสีหน้านางเย็นชาแกมอำมหิต รู้เลยทันทีว่ามันไม่ใช่ของดีอะไรแน่
โหลชีบีบยาเม็ดนั้นของโหลวซิ่นแหลกละเอียดอีก พอลองชิมครั้งนี้ สีหน้านางเปลี่ยนไปหลายอย่างมาก
"ดี น่าหลานฮั่วซิน ดียิ่งนัก"
"แม่นาง ยาเม็ดนี้มีปัญหาอะไรหรือไม่?" โหลวซิ่นขมวดคิ้วถาม "หรือว่ายาเม็ดนี้เป็นยาพิษ?"
โหลชีส่ายหัวบอก "ไม่ ยาเม็ดนี้ไม่เพียงไม่ใช่ยาพิษ ยังเป็นยาดีที่หาได้ยากยิ่งด้วย!" นางบีบเล็กน้อย และรวมผงยาเป็นเม็ดอีกครั้ง ยื่นให้โหลวซิ่น "อย่าสิ้นเปลือง เจ้ากินเถิด"
โหลวซิ่นที่เมื่อครู่ไม่กล้ากินพอได้ยินนางพูด ก็กลืนยาเม็ดนั้นลงไปทันที
น่าหลานฮั่วซินใช้ปราณยิงให้มือโหลวซิ่นด้านชา และเปลี่ยนยาให้เขาใหม่ เดิมเป้าหมายอยู่ตรงนี้เอง สายตาโหลชีค่อยๆมืดดำลง ดีมาก น่าหลานฮั่วซินยั่วโมโหนางได้สำเร็จแล้ว
เฉิงสิบมองดูโหลวซิ่น ถามอย่างแปลกใจว่า "รู้สึกอย่างไรบ้าง?"
โหลวซิ่นรู้สึกว่ามีความร้อนที่จุดตันเถียนค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้น และแล่นพล่านทะลุทะลวงไปทั่วกาย นี่มัน นี่มันลักษณะของการเพิ่มพูนกำลังภายใน!
เขารีบปรับลมหายใจ แผ่ซ่านกำลังภายในนั้นไว้ใช้เอง
"แม่นาง ยานี่--"
โหลชียิ้มมุมปาก "ยานี่ไม่เลวเลยนะ ในนี้มีของดีไม่น้อยเลย ไม่เพียงสามารถแก้หมอก ยังเพิ่มพูนกำลังภายในอีก"
โหลวซิ่นพยักหน้า "ใช่ ข้ารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้กำลังภายในในร่างกายเพิ่มพูนขึ้น!"
เฉิงสิบไม่เข้าใจ "ในเมื่อเป็นยาดี แล้วเหตุใดตอนแม่นางเห็นยาสองเม็ดก่อนหน้านี้แล้วจึงโมโหเล่า?" เมื่อครู่โหลชีหน้าดำเก็บยาสองเม็ดนั้นไป ถ้าเป็นยาดีแล้วไม่ใช้หรอ?
"ยาของโหลวซิ่นเม็ดนี้เป็นยาดี ไม่เหมือนยาสองเม็ดของพวกเราก่อนหน้านี้หรอก" นางบอกฤทธิ์ยาสองเม็ดเมื่อครู่ออกมา ขนาดมีฤทธิ์ปลุกกำหนัดก็ไม่ได้ปิดบังพวกเขา สีหน้าเฉิงสิบเดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวดำสลับไปมา
อยากจะให้เขากับแม่นางโหลกระทำเรื่องมิงามบัดสีนี่ น่าหลานฮั่วซินช่างมีความคิดชั่วร้ายนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ